“วันนอร์” ยืนยันไม่ได้ปิดสภาหนีการเปิดอภิปราย ม.272 วานนี้ ยืนยันเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย

“วันนอร์” ยืนยันไม่ได้ปิดสภาหนีการเปิดอภิปราย ม.272 วานนี้ รอ 16 ส.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารับคำร้องหรือไม่รับ ปมมติเสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำ มองเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย ถ้าเดินทางปล่อยให้มีการทบทวนมติรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ต่อไป ก็จะเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อสภาฯ และเกิดความเสียหายได้ ประธานรัฐสภาฯก็จะถูกกล่าวหาได้เหมือนกันว่ามีการทบทวนมติที่รัฐสภามีมติไปแล้ว





(5 ส.ค.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่สนามบินสุวรรณภูมิฯ เรื่องกระแสเกี่ยวกับการปิดประชุมสภาและเลื่อนออกไป ยืนยันไม่ได้ปิดประชุมเพราะหนีการเปิดอภิปรายเรื่องการแก้ไข ม.272 หรือปิดสวิตช์ สว. ยืนยันชัดว่าตนเองอยากให้อภิปราย ม.272 ไม่ได้หนี และเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย ลองคิดดูให้ผมทำอย่างไร ไม่ได้หนี หนีทำไมครับ ไม่ได้เกี่ยว แต่ทำไปเกิดความเสียหาย อยากฟังด้วยซ้ำ จึงบรรจุไว้และรอเป็นชม. ขออยากให้พูดอย่างเป็นธรรม แต่เนื่องจากวานนี้ยังไม่ได้เข้าสู่วาระการพิจารณา แต่ด้านของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เสนอญัตติแทรกขึ้นมาเกี่ยวกับทบทวนมติเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าไปต่อไป จึงได้ทำการเลื่อนประชุมสภาฯออกไป




ประธานสภาฯ ยังกล่าวอีกว่า ผมว่าถ้าทำไปแล้วมีมติออกมา ผมว่าสภาฯจะไม่สง่างาม เพราะต้องทบทวนตัวเองหลายรอบ ซึ่งคราวนี้ก็ต้องทบทวนตัวเอง และเดี๋ยวจะมีคนมาเสนอว่าเสนออีกว่าที่ทบทวนไม่ถูก ผมว่าอันนั้นไม่สง่างาม ตนต้องรักษาภาพลักษณ์ของสภา ย้ำว่าไม่ได้หนีปิดประชุมสภาฯไปไหน ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องหนี ขออย่านำประเด็นมาบอกว่าประธานสภาฯไม่อยากให้พิจารณา ม.272 ยืนยันได้ชัดเจนว่าตนอยากให้อภิปราย ม.272




อย่างไรก็ตาม ประธานสภาฯ กล่าวอีกว่า การเสนอญัตติของโรมยังอยู่ ญัตติไม่ได้ตกไป ยังสามารถพิจารณาได้ เพียงแต่ต้องการให้พิจารณาหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งชัดเจนว่ารับหรือไม่รับคำร้องในวันที่ 16 ส.ค. นี้ ดังนั้น หากศาลรัฐธรรมนูญมีวินิจฉัยออกมาอย่างใด ก็สามารถมาคุยกันหลังจากนั้นได้ เพื่อที่จะไม่ได้เป็นการลงมติไปก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย เสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ จึงต้องยึดหลักของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ