'สว.เสรี' ลั่นรู้สึกดี หลัง 'เพื่อไทย' ประกาศจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จี้ขอความชัดเจนเรื่องแก้ ม.112

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยไม่มีพรรคก้าวไกลว่า เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกว่าดีขึ้น ชัดเจนขึ้น แต่ยังขอความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทยอีกส่วนหนึ่งคือ การที่แถลงว่าไม่แก้มาตรา 112 ไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่ต้องการให้สว.ลงคะแนนให้ แต่ควรเป็นเหตุผลสำคัญที่จะไม่แก้มาตรา 112 คือปกป้องคุ้มครองสถาบันฯ ไม่ให้ผู้ใด ละเมิดจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบัน ส่วนที่มีการแถลงว่าจะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็อยากให้มีความชัดเจน ว่าจะต้องไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ในส่วนของสถาบันฯ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่หนักกว่าการแก้ไขมาตรา 112

ส่วนพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล สำหรับตนไม่มีส่วนที่จะนำมาเป็นเหตุผลในการตัดสินใจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคนั้นไม่กระทบกับสถาบันฯ ส่วนจะเป็นพรรคไหน พรรคเพื่อไทยต้องไปตกลงตัดสินใจเอาเอง

สำหรับวันที่ 4 ส.ค.นี้ ที่เป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยอาจจะไม่ให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เข้าไปในห้องประชุมด้วยและจะเป็น สส. ของพรรคเพื่อไทยที่จะลุกขึ้นชี้แจง หากมีการพาดพิงนั้น นายเสรีกล่าวว่า น่าจะให้เข้า ขออนุญาตประธานสภาก็เข้าได้ จะได้ตอบข้อซักถามของสมาชิกรัฐสภาให้เข้าใจ หากเข้าใจผิดก็จะกลายเป็นปัญหาอีก ซึ่งส่วนตัวอยากให้นายเศรษฐาเข้ามาอยู่ในห้องประชุมรัฐสภาด้วย เพื่อแสดงวิสัยทัศน์หรือแถลงนโยบายที่จะไปทำหน้าที่ต่อในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งการเข้าห้องประชุมน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า

สำหรับกรณีการติดใบปลิวเรียกร้องให้ สว.ลาออก ซึ่งไม่ได้เจอเฉพาะนายเสรี แต่ สว.คนอื่นก็เจอเช่นเดียวกัน นายเสรีกล่าวว่าตนได้มีการพูดคุยกับ สว.คนอื่นแล้วบ้าง แต่ส่วนตัวเมื่อมีคนทำผิดกฎหมายก็แจ้งความดำเนินคดีคนที่เข้ามาบุกรุก และติดป้ายหมิ่นประมาทในพื้นที่ของตลาด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค. แต่จะส่งผลกับฝ่ายการเมืองที่ไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ อาจจะมีการสร้างมวลชนขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวาย ละเมิดสิทธิคนอื่น ที่เป็นห่วงคือห่วงที่คนเหล่านี้จะไปแสดงออก สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นมากกว่า

ส่วนกรณีการแสดงออก ถึงความไม่พอใจของกลุ่มคนภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยแถลงข่าว จัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น นายเสรีกล่าวว่า "เป็นปรากฏการณ์ ที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อพรรคก้าวไกลไม่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนกลุ่มนี้พวกนี้ก็จะออกมาแสดงให้เห็นถึงความต้องการอำนาจ แสดงให้เห็นอำนาจของตนเองที่จะใช้กระทำการข่มขู่ คุกคามคนอื่น เพียงเพราะตนเองไม่ได้ดำรงตำแหน่งตามที่ตนเองต้องการ แสดงให้เห็นถึงปรากฏการณ์ความไม่เหมาะสม ของการที่จะเป็นผู้บริหารประเทศ พอไม่ได้ก็ชวนมวลชนออกมา สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง ยังโชคดีที่ตัดสินใจไม่เลือก ถ้าเลือกก็จะเป็นแบบนี้ไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง"