'ธนกร' ไม่ติด เสนอชื่อ 'เศรษฐา' หากจุดยืนชัดไม่แก้ ม.112 เชื่อคุยก่อนโหวตนายกฯ รอบเดียวจบ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยแถลงเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลว่า ส่วนตัวยังพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค แต่จริงๆ แล้วหัวหน้าพรรคก็ยืนยันมาโดยตลอด ว่าเราสามารถทำงานได้กับทุกพรรค ที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และพรรคที่ไม่มีนโยบายแก้มาตรา 112 ส่วนจะร่วมกับใครอย่างไรนั้น อยู่ที่กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา ซึ่งมาตรา 112 ยังคงเป็นเงื่อนไขเดิมของพรรค แม้พรรครวมไทยสร้างชาติ มี สส. 36 คน ก็พร้อมทำงานทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เพราะ 36 คนถือว่ามีพลัง

ส่วนทิศทางการโหวตนายกฯ วันนี้จะมีการพูดคุยกัน อย่างที่เคยบอกว่า การเมืองเมื่อถึงเวลาเหมาะสม ทุกอย่างจะจบ เพราะว่าวันนี้พี่น้องประชาชนก็รอรัฐบาลใหม่อยู่ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เตรียมงานต่างๆ ไว้พร้อมถ่ายโอนให้รัฐบาลใหม่อยู่แล้ว โดยเฉพาะโครงการที่เป็นประโยชน์เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะเข้ามาสานงานต่อ

ส่วนคุณสมบัติของนายเศรษฐา เป็นอย่างไรนั้น นายธนกร ระบุว่า ถ้านายเศรษฐายืนยันชัดเจนในเรื่องมาตรา 112 ตนคิดว่า ในฐานะที่นายเศรษฐาเป็นแคนดิเดตนายกฯ และเป็นนักธุรกิจ ก็เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้ เราไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา เคยพูดเรื่องการแก้มาตรา 112 พรรครวมไทยสร้างชาติจะแน่ใจได้อย่างไรในอนาคต นายธนกร กล่าวว่า พรรคการเมือง ในการทำงานการเมืองต้องมีความชัดเจนก่อน จะทำเหมือนจะให้พรรคการเมืองอื่นยกมือให้ไปก่อนคงไม่ได้ ต้องมีการเจรจานอกรอบกันก่อน ผู้หลักผู้ใหญ่ในทุกพรรคต้องคุยกัน ต้องมีการแสดงเจตจำนงให้ชัดเจนให้พี่น้องประชาชนทราบก่อน และเดินหน้ากันไป

ส่วนเรื่องที่ผ่านมาตนคิดว่า ทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองได้กระทำ แต่ในเรื่องประเทศชาติ ยังต้องมีเรื่องที่ทำให้กับประชาชน ซึ่งต้องคิดให้ดี หลายอย่างก็ต้องคิด ส่วนตัวคิดว่าไม่มีใครรังเกียจรังงอนใคร ถ้าเราเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักก็จะเดินหน้าไปได้

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่าเมื่อมาเป็นรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลง่ายขึ้นจะปิดเป้าประสงค์ในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

นายธนกร มองว่านโยบายแต่ละพรรค ในพรรคร่วมรัฐบาลเองก่อนที่จะร่วมกันก็ต้องพูดคุยกันก่อน ว่าแต่ละพรรคมีนโยบายอะไร หากตกลงกันได้ก็เดินหน้ากันไป คิดว่าในส่วนของการแก้ไข รัฐธรรมนูญตนคิดว่าหลายอย่างก็ทำได้แต่ไม่ใช่เรื่องแก้ไขมาตรา 112 ยอมรับว่ารัฐธรรมนูญบางมาตราก็อาจจะต้องมีการปรับ เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำได้ แต่ต้องคุยกับพรรคร่วมด้วย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นฉันทามติของทุกพรรค มันก็จะเดินหน้าไปได้

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย แถลงว่าหากแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จก็จะคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยการเลือกตั้งใหม่ นายธนากรบอกว่า ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะส่วนใหญ่ในอดีตการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อแก้เสร็จแล้วไม่นานก็จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล เตรียมปฏิบัติเหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่ 1-2ปีจะเสร็จ บางทีอาจจะ 3ปีหรือครบวาระเลยก็ได้ ก็ต้องว่ากันไป

ทั้งนี้นายธนกร มองว่า การโหวตนายกวันที่ 4 ส.ค.นี้ จะผ่านไปด้วยดี หากมีการคุยกันก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่การเจรจาต่างๆ ตนไม่ได้อยู่ในกระบวนการเจรจา อยู่ที่หัวหน้าและเลขาธิการพรรค ส่วนตัวพร้อมปฎิบัติตามมติพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีปัญหาเรื่องลุง ที่เป็นปัญหาการต่อต้านของกลุ่มด้อมส้ม หรือแฟนคลับของพรรคก้าวไกลแล้วใช่หรือไม่ นายธนากรกล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติชัดเจนตั้งแต่แรก ที่พลเอกประยุทธ์ได้ลาออก และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคอีกเลย เรื่องนี้อาจจะเป็นแค่เหตุผลของบางพรรคการเมือง

“บางทีวันนี้เราดูข่าวมากไป นั่งดูทีวี เห็นคนรุ่นใหม่เก่งๆทั้งนั้น แต่เมื่อไปดูผลการวิจัยของต่างประเทศ ระบุว่า ถ้าเราดูอะไรที่มันโง่ๆมาก มันจะทำให้เราโง่ตามไปดูด้วย คนที่ดูก็ต้องระมัดระวังในการดูด้วย” ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความหมายอะไรหรือไม่ นายธนกรยืนยันว่าไม่มี เป็นเพียงข้อมูลที่มีคนส่งมาให้ดู