'วิโรจน์' ตัดพ้อ 'ก้าวไกล' ไม่ใช่พระเวสสันดร ทำไมต้องเป็นฝ่าย เสียสละ-โดนถลุงตลอด

เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ยังคงเชื่อใจพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน หากเป็นตามกระแสอย่างนั้นจริง ก็คงจะไม่ถูกต้อง พรรคเพื่อไทยจะเปรียบเหมือนศรีธนญชัย คือการนำประเด็นปิดสวิตซ์ สว. มาใช้ แต่แท้จริงแล้วเป็นการปิดสวิตซ์พรรคก้าวไกล ตนคิดว่า คนที่เป็นนักการเมืองมาแต่ดั้งเดิม ที่ตนเห็นเป็นแบบอย่างมาหลายคน ไม่ทำแบบนี้

"ประชาชนก็อึ้งสิครับ ว่ามีแบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ" นายวิโรจน์ กล่าว

 เมื่อถามว่าแต่มีกระแสลือสะพัด นายวิโรจน์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปเชื่อข่าวลือ และตนคิดว่าเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้นจริง หลายคนก็ออกมาด่าเลย ตนคิดว่าหากอยากด่า ขอให้อั้นไว้ก่อนก็ได้

นายวิโรจน์ ยังอธิบายถึงกระแสดังกล่าว ว่าเป็นการปิดสวิตซ์ สว. โดยเป็นการเชิญชวน สส. ที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลมาโหวตไม่ให้ สว.เข้ามาแทรกแซงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งกระแสที่เกิดขึ้นคือยอมให้ สว.แทรกแซง ยอมจำนนต่อ สว. และปิดสวิตซ์พรรคก้าวไกล ผลักไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้น หลักการแบบนี้ตนไม่เชื่อว่าจะใช้มาหาผลประโยชน์ให้ตนเอง

นายวิโรจน์ ยังมองถึงสูตรจับขั้วรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะเข้าเงื่อนไขไม่มีลุง ว่า ในทางปฏิบัติ ไม่เป็นจริงได้ เพราะในรัฐบาล 262 เสียง จะเป็นรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำมากๆ

"แล้วอย่างนี้จะเป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลจะต้องมานั่งรับปากว่ากฎหมายใดๆ ที่ผ่านมาจาก ครม. จะต้องยกมือให้ตลอดหากเกิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะกลายเป็นเรื่องตลกมาก จะเป็นฝ่ายค้านที่แทนที่จะตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ต้องกลายมาเป็นพ่อซื้อแม่ซื้อ คอยอุ้มชูรัฐบาล"

นายวิโรจน์ ระบุว่า มีอะไรที่ไม่เป็นจริงหลายอย่าง เช่น พรรคเพื่อไทยไปรวมกับพรรคประชาธิปัตย์ ตนคิดว่า พรรคเพื่อไทยจะอธิบายกับวีรชนคนเสื้อแดงที่ต่อสู้มาเป็น 10 ปีได้อย่างไร ส่วนที่เปลี่ยนขั้วไปแล้วในพรรคประชาธิปัตย์ทำให้ร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้ สามารถมองได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ประชาชนเขากินข้าว หากมองว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ , นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ได้เป็นฝ่ายบริหารของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เคยมีท่าทียอมรับผิดหรือเสียใจต่อสิ่งที่ทำในปี2553 หรือไม่

 "ผมถึงไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะถึงขั้นทรยศหักหลังกับฐานเสียงคนที่สนับสนุนกลุ่มสำคัญเป็นเพื่อนที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานับ 10 ปี เพื่อเข้าสู่อำนาจในการเป็นฝ่ายรัฐบาล ผมคิดว่าอาจจะตกใจบ้าง แต่เป็นไปไม่ได้" นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่าบางคนระบุว่าเพื่อประเทศต้องลืมอดีตบ้าง นายวิโรจน์ กล่าวว่า แต่อดีตนี้คือที่แยกราชประสงค์มีคนตาย ไม่ใช่อดีตธรรมดา แต่เป็นอดีตที่มีคนตาย เสียเลือดเสียเนื้อ

เมื่อถามว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนคิดว่าเพื่อเดินหน้าให้ประเทศ ต้องสลัดพรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ กล่าวว่า เวลาถ้าพูดถึงคนเสื้อแดง เราไม่ใช่พูดถึง คนที่เคยใส่เสื้อแดง แต่ต้องไปพูดคุยกับคนที่อินกับเสื้อแดงจริงๆ ได้รับผลกระทบจริงๆ ไม่ใช่ว่าฟังผิวเผิน

นายวิโรจน์ ยังระบุด้วยว่า ตนตั้งคำถามว่าในอดีตที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทยสามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจได้มาจากการที่ได้เสียงเด็ดขาด ในสภาผู้แทนราษฎร และสามารถคุมเก้าอี้รัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญได้ทั้งหมด สามารถทำงานต่อเนื่องได้ แล้วตนคิดว่ารัฐบาล 262 เสียงแบบนี้ กระทรวงสำคัญคงไม่ได้ ต้องถูกเจรจาต่อรองไปให้พรรคร่วมรัฐบาล ตนเชื่อว่า หากเป็นแบบนี้สภาพเศรษฐกิจจะแย่มากกว่ารัฐบาลรักษาการด้วยซ้ำไป

"ผมว่าพรรคเพื่อไทยไม่ถึงขั้นจะพาตัวเองไปสู่มุมอับทางการเมืองแบบนี้หรอกครับ เพราะถึงวันนั้นพรรคเพื่อไทยจะอธิบายหาข้ออ้างไม่ได้เลย เพราะตัวเองเลือกที่จะพาตัวเองเข้าสู่มุมอับ และก็ถูกต่อรองหนัก... เพื่อไทยจะโทรมาหาก้าวไกลที่เป็นฝ่ายค้านในวันนั้น แล้วบอกเพื่อนช่วยโหวตให้หน่อย ทั้งทั้งที่ทำกับเพื่อนซะน่วมขนาดนี้เหรอครับ" นายวิโรจน์ กล่าว

 เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล จะเป็นอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็ 312 เสียง ก็เป็นรัฐบาลเหลือเลย เราต้องยอมรับว่าด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 8 พรรคร่วมฯ รวมกัน ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถตั้งรัฐบาลได้โดยง่าย

 "ถ้าเกิดว่าพรรคเพื่อไทยรวมกับพรรคก้าวไกลแน่นๆ สูตรใดๆ ที่พี่ยุทธว่า โคตรยากและเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทยแพ็คกันแน่น มันยิ่งตั้งยากมากๆ เชื่อผมสิ 262 เสียง อยู่แบบไม่เสถียรหรอก แล้วจะทำงานไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องดึงพรรครวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐมาร่วมเหรอ ประชาชนด่าตายเลยสิ ไม่ใช่แค่การหักหลังแต่เป็นการกลับกลอกอีกด้วยนะ ยิ่งกว่าหักหลัง" นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวต่อว่าหากรวมพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคอื่นๆ ในวงพรรคร่วมรัฐบาลใครจะกล้าแลกเก้าอี้รัฐมนตรีให้ 2 พรรคนี้ และพรรคเพื่อไทยจะกลายเป็น 141 เสียงที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่เสียทุกอย่างเลย

พรรคก้าวไกลเราพยายามประคับประคองและแฟร์ที่สุดแล้ว ประธานสภาฯ ก็มีการสละให้ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยจัดสรรให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ

 "ประชาชาติกับเพื่อไทย ความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ดีมากน้อยเพียงไร ผมว่าประชาชนก็ทราบอยู่แล้ว แต่เราก็สละ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โหวตไม่ได้ไม่เป็นไร ก็ส่งไม้ต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีก็เหมือนพวกเราได้ตั้งรัฐบาลแห่งความหวัง" นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ย้ำว่า หากพรรคเพื่อไทยทำอย่างนั้น พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้กระทรวงตามที่หวังไว้ใน 8 พรรคร่วมฯ อย่างน้อยกระทรวงคมนาคม สาธารณสุข

 "ที่คุณเศรษฐา (นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย) หาเสียงเคยพูดว่าหาเสียงมาตั้งหลายวัน เป็นไข้ กระทรวงดีๆ ผมไม่ยกให้พวกมันหรอก มันไม่เป็นจริง" นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ย้ำว่า หากเป็นจริง การเสียสัตย์ครั้งนี้ เป็นความเสียหายมหาศาล เป็นการที่คนเสื้อแดงแล้วเข้าสู่อำนาจ ยิ่งกว่าทรยศประชาชน

เมื่อถามว่าก็มีเสียงบอกว่าประเทศต้องเดินหน้า นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็มีรัฐบาล แต่มี 262 เสียง บริหารเศรษฐกิจได้ไม่เบ็ดเสร็จ ที่ผ่านมาที่บอกเพื่อไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีก็ได้มาจาก 200 กว่าเสียง กุมอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรเบ็ดเสร็จ ได้เก้าอี้เสนาบดี หรือรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญ ทำงานเกี่ยวเนื่องกัน สะดวกโยธิน แต่หากเป็นแบบนี้จะถูกต่อรองหนัก "เป็นรัฐบาลกร๊วกๆแบบนี้" จะทำได้หรือไม่ จะต้องมากราบกรานพรรคก้าวไกลให้โหวตกฎหมายให้หรือไม่

เมื่อถามว่าหากถามใจตัวเองให้โหวตให้พรรคเพื่อไทย เราไปเป็นฝ่ายค้านทำได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงไม่โหวตให้ หากเป็นเรื่องจริง ถือเป็นการต้มตุ๋นประชาชน ซึ่งไม่ใช่ปิดสวิตซ์ สว. แต่ปิดสวิตซ์ก้าวไกล ตนจะไปบอกประชาชนได้อย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจประธานคณะก้าวหน้า ไปดีลกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่รู้จริงๆ พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมพรรคก้าวไกลต้องถูกบีบให้เสียสละตลอด

 "ทำไมไม่ให้พรรคก้าวไกลจับกับพรรคเพื่อไทย แล้วไปขอเสียงพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคภูมิใจไทยเสียงแข็ง กรรมก็เลยตกอยู่ที่ก้าวไกลเหรอ" นายวิโรจน์ กล่าว

 "ก้าวไกลมันเกิดมาให้ถลุงกันแบบนี้เหรอ พอไม่ยอมเพื่อไทยก็ไปรวมกับภูมิใจไทย แล้วมาขอให้พรรคก้าวไกลโหวตให้ เราประชาชนเขาไม่รู้สึกหรือว่าพรรคเพื่อไทยเอาเปรียบก้าวไกล ประธานสภาก็จะเอา" นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์เชื่อว่าประชาชนไม่ได้มองอะไรที่ตื้นเขิน หากเป็นตามกระแส พรรคเพื่อไทยจะถูกมองว่าพรรคเพื่อไทยขี้เอาเปรียบ และคิดว่าระดับแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ทำแบบนั้น ตนรู้จักเพื่อไทยดี เนื่องจากเป็นโหวตเตอร์ของพรรคเพื่อไทยมาก่อน

 "คนอย่างผม เนื้อจะไปกิน เอาไป หนังผม จะเอาไปรอง เอาไป แต่ถ้าถึงขั้นหยามขนาดที่จะเอากระดูกไปแทะด้วย เห้ย ก้าวไกล นะครับ ไม่ใช่พระเวสสันดร จะยืมมือเราปิดสวิตช์ตัวเองแล้วปล่อยให้ สว. เข้ามาแทรกแซงอำนาจของประชาชนผมว่าไม่ใช่เรื่องเสียสละแต่คือเรื่องรวมหัวกันและล้มผลการเลือกตั้ง สกัดพรรคอันดับหนึ่ง" นายวิโรจน์ กล่าว

ส่วนที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่าจะมีการนัดหารือ 8 หัวหน้าพรรคร่วมฯ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะแจ้งถึงมติไม่สนับสนุน หากมีพรรคก้าวไกลของ 5 พรรคการเมืองที่เชิญมาสอบถามแนวทาง นายวิโรจน์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งตีความเจตนาของนายภูมิธรรมผิด หากจับมือกันไว้ 312 เสียง เราปล่อยให้พรรคที่ได้อันดับ 3 จัดตั้งรัฐบาล ตนเชื่อว่าก็ทำไม่ได้

นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า เรื่องนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคก้าวไกลก็มีความยืดหยุ่น สามารถมาพูดคุยกันได้ โดยที่ไม่เสียหลักการ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เป็นเรื่องที่พิจารณาได้

เมื่อถามว่ากระแสข่าวดังกล่าว อาจเป็นเพราะต้องการพานายทักษิณกลับบ้าน นายวิโรจน์ ระบุว่า ไม่เกี่ยว นายทักษิณจะต้องกลับบ้านด้วยความยิ่งใหญ่ โดยการมีเพื่อนแท้อย่างคนเสื้อแดงไปรอรับ ไชโย โห่ร้องเหมือนกับได้ต้อนรับเพื่อนเก่ากลับบ้าน ไม่ใช่ต้อนรับกลับมาในสภาพที่คนเสื้อแดงรู้สึกถอนหายใจ สิ้นหวัง ตนคิดว่ามันไม่ใช่ พร้อมตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาคนเสื้อแดงคือผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับนายทักษิณ จนอำนาจเก่าหรืออนุรักษ์นิยมไม่กล้าที่จะทำอะไรรุนแรงกับนายทักษิณ จนสามารถมีหนทางต่อสู้ในระบบประชาธิปไตยจนถึงทุกวันนี้

หากนายทักษิณทิ้งคนเสื้อแดงทั้งหมด จะไม่เหลืออะไร พร้อมตั้งคำถามว่าไม่กลัวว่านายทักษิณจะถูกบดขยี้เรื่องตระบัดสัตย์หรือไม่ ตนไม่เชื่อว่านายทักษิณจะตายน้ำตื้นถูกหลอกให้ฆ่าเพื่อนตัวเอง แล้วเดินเข้ามาในจุดสังหาร

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/3wdG8zwgtEs