เปิดใจฮีโร่ เล่นเซิร์ฟบอร์ดช่วย 3 ชีวิตจมน้ำทะเลรอดชีวิต เผยเคยช่วยนทท.จมน้ำนับสิบ วอนรัฐควรมีระบบป้องกัน

จากกรณีเกิดเหตุการณ์กลุ่มนักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำจำนวน 6 คน บริเวณชายหาดยาว ซึ่งมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ในช่วงบ่ายของวันที่ 31 ก.ค.66 ที่ผ่านมา จนทำให้นายธีระเทพ หรือเต้ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 รร.แห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรัง ซึ่งอยู่ในกลุ่มดังกล่าวเกิดจมน้ำหลังจากถูกคลื่นซัด ทำให้นายณัฐภูมิ หรือซัน อายุ 20 ปี ชาว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ 1 ในกลุ่มดังกล่าวได้รีบว่ายน้ำเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งทั้งคู่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน


จนกระทั่งเพื่อนอีกจำนวน 2 คนได้เข้าไปช่วยเหลือด้วย แต่ไม่สามารถสู้กับกระแสน้ำได้ ก่อนจะจมน้ำด้วยเช่นกัน แต่ได้ว่ายกลับออกมาประกอบกับชาวบ้านเข้าช่วยเหลือได้ทัน ขณะเดียวกันปรากฏว่านายณัฐภูมิ หรือซัน ก็ไม่สามารถสู้กับกระแสน้ำได้เช่นเดียวกัน ทางเพื่อน ๆ จึงไปขอความช่วยเหลือกับนายอติชาต เจะมะอะ หรือบอย อายุ 28 ปี เจ้าของร้านอาหารจ๊ะแดง ซึ่งร้านอยู่บริเวณชายหาด เป็นพลเมืองดีรีบนำเซิร์ฟบอร์ดเข้ามาช่วยเหลือ จนสามารถช่วยเหลือนายธีระเทพ หรือเต้ อายุ 15 ปี กับเพื่อนคนอื่น ๆ ขึ้นมาได้ทัน แต่ไม่สามารถช่วยเหลือนายณัฐภูมิ หรือซัน ได้ทันก่อนจะจมหายลงไปในทะเล ซึ่งพบร่างนายณัฐภูมิ ถูกคลื่นซัดลอยเกยหาดบริเวณหัวแหลมหาด ทางเข้าปากร่อง ท่าเรือหาดยาว หมู่ 6 ห่างจากจุดสูญหายประมาณ 2 กม.แล้วในวันนี้


จากกรณีดังกล่าวทางด้าน นายอติชาต เจะมะอะ หรือบอย ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้เซิร์ฟบอร์ดเข้าช่วยชีวิต เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่มีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำแล้วจมน้ำเกิดขึ้นบ่อย ล่าสุดเมื่อกลางเดือนที่แล้วตนเองก็ได้ช่วยไว้ทัน 1 ราย และตั้งแต่ตนเองไปเรียนและเล่นเซิร์ฟบอร์ดมา 4-5 ปี สามารถใช้เซิร์ฟบอร์ดช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวที่จมน้ำมาได้ กว่า 10 คนแล้ว แต่ที่ทำให้ตนเองเสียใจมากที่สุดเพราะไม่สามารถช่วยเหลือน้องซัน ได้เพราะคิดว่าเด็กที่จมน้ำที่เหลืออยู่ในทะเลมีเพียงน้องเต้


อยากให้หน่วยงานราชการและผู้เกี่ยวข้องได้ จัดวางระบบการดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วยการ มีการวางทุ่นไข่ปลา เหมือนจังหวัดภูเก็ต กระบี่ เพราะหากนักท่องเที่ยวถูกคลื่นซัดออกไปก็สามารถเกาะทุ่นไว้ได้และจะได้รู้แนวการเล่นน้ำว่าไม่ควรเล่นนอกทุ่นไข่ปลา และควรจัดให้มีไลฟ์การ์ด (Lifr guard) ดูแลนักท่องเที่ยว คอยเตือนนักท่องเที่ยว และอยากให้มีเสื้อชูชีพให้นักท่องเที่ยว เพราะทางร้านพยายามเตือนนักท่องเที่ยวแต่ก็เขาไม่ฟัง แม้จะให้เช่าเสื้อชูชีพเล่นน้ำ ตัวละ 10 บาท เขายังไม่สนใจ แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่เตือนนักท่องเที่ยวอาจจะฟังและทำตาม


ส่วนธงแดงก็สามารถเตือนนักท่องเที่ยวได้แต่ไม่ทั่วถึง เพราะเด็ก ๆ ยังไม่เข้าใจว่าปักธงแดงไว้เพื่ออะไร ต้องทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว และสุดท้าย อยากให้อุทยานอนุญาตให้นำเจ็ตสกี ลงทะเลในเขตอุทยานได้เพราะตนเองได้ซื้อเจ็ตสกี ไว้ เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเมื่อจมน้ำพอถึงเวลาก็ไม่สามารถนำลงน้ำได้ อย่างกรณีน้องซันถ้ามีเจ็ตสกี ก็สามารถเอาไปช่วยได้เร็วกว่านี้และอาจจะช่วยได้ทัน


ขณะเดียวกันบรรยากาศหลังจากเกิดเหตุขึ้น บริเวณริมชายหาดยาวก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินเล่นและเฝ้าบุตรหลานเล่นน้ำกันตามปกติ