สังคม

วัยรุ่นงง ถูกตำรวจยึด จยย.ขณะจอดปะยางในปั๊ม ตร.แจง จับเพราะแว้น - ขู่แจ้งความถ้าไม่ลบคลิป

โดย paranee_s

1 ส.ค. 2566

1.1K views

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายหนึ่ง โพสต์คลิป ชายคล้ายตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย มายึดกุญแจรถจักรยานยนต์กลุ่มวัยรุ่นไป โดยในคลิปคนถ่ายได้ขอเอกสารต่าง ๆ เพื่อขอตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ โดยทางชายที่คล้ายตำรวจรายนี้ได้อธิบายขั้นตอนว่าจะพาไปโรงพักให้ไปรอ โดยให้นำเอกสารต่างๆ และท่อเดิมมาเปลี่ยนเพื่อรับรถกลับ และเสียค่าปรับที่โรงพัก พร้อมข้อความระบุว่า “สามคนนี้ในรูปมีส่วนได้ส่วนเสียกลับตำรวจหรือป่าวครับ พวกผมจอดรถกลับน้องพวกผมมาจากบ้านไผ่รถน้องพังอย่างรั่วจอดได้เเปป 3 คนในรูปวิ่งมายึดกุญเเจรถ ๆ น้องเเล้วให้ตำรวจมายกชุดเครื่องเเบบก็ไม่ได้ใส่ทำหน้าที่อะไรคับอยากรู้” ซึ่งภายหลังมีการโพสต์ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามเหมือนกันว่าตำรวจทำแบบนี้ได้หรือไม่


นายเอกมงคล อายุ 20 ปี ชาวหมู่ 4 บ้านโนนละม่อม ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เล่าเหตุการณณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 30 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมเพื่อน ๆ และรุ่นน้อง รวมตัวกันออกทริปไปเที่ยวเล่นน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์ หลังจากเที่ยวกันเสร็จประมาณ 17.00 น. วันเดียวกัน ได้ไปจอดเติมน้ำมันในปั๊ม และขณะเดียวกันรถจักรยานยนต์ของรุ่นน้องเกิดยางรั่วและน้ำมันหมด จึงพากันจอดซ่อมในปั๊มหลังจากเติมน้ำมันเสร็จ มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจแต่ไม่ใช่ชุดเครื่องแบบ ขับรถจัรกยานยนต์ ยามาฮ่าฟีโน่สีส้มมาจอด แล้วลงจากรถจักรยานยนต์มายึดกุญแจของพวกตนเองไป โดยมีชายอีก 3 คน แต่งกายเหมือนเป็นกู้ภัย วิ่งมาจากไหนกันไม่รู้แล้วเข้ามายึดกุญแจรถพวกตนเองไปทั้งหมด 4 คัน ท่ามกลางความงุนงงงของทุกคน โดยชายที่มายึดกุญแจบอกทำตามหน้าที่ ก่อนจะยึดไปให้กับชายเสื้อขาวที่เหมือนจะเป็นตำรวจ


ส่วนตนเองกับเพื่อน ๆ เห็นท่าไม่ดีจึงพากันขับรถจักรยานยนต์หนีออกมาจอดอยู่ที่ร้านซ่อมใกล้ ก่อนจะพากันย้อนมาดูน้องๆที่โดน ชาย 4 คน แต่งกายเหมือนตำรวจและกู้ภัยยึดกุญแจไปอีกครั้งที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งชายทั้ง 4 คนที่มายึดกุญแจนั้นพยายามพูดว่าต้องเอารถไปที่โรงพักอย่างเดียว ก่อนที่ชายที่แต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบจะขับรถจักรยานยนต์ไปเปลี่ยนเอารถยนต์กระบะตำรวจมาขนเอารถจักรยานยนต์ไปจอดที่ป้อมยาม ของตำรวจ ห่างจาก ปตท.ประมาณ 1 กม. โดยที่ให้ทุกคนจ่ายเงินเป็นค่าปรับข้อหาแต่งรถคนละ 1,000-2.000 บาท


แต่โชคดีที่เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์มาช่วยพูดกับตำรวจให้ เพราะทุกคนไม่มีเงิน ทำให้ตำรวจยอมปล่อยไปทุกคน เพราะเจ้าของร้านพูดเหมือนเป็นลูกหลาน ขอให้ยอมปล่อยได้ไหม ไม่จับเด็กๆได้ไหม เหมือนเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ และชายเสื้อขาวที่เหมือนตำรวจนั้น น่าจะกินเหล้าด้วย เพราะลักษณะการพูดจาเหมือนคนเมา นอกจากนี้น้องๆที่เคยโดนจับในลักษณะนี้เหมือนกันก็เคยเล่าให้ฟังว่าตำรวจรายนี้เมาและไม่แต่งชุดเครื่องแบบมาจับไป ให้จ่ายเงินเสียค่าปรับแล้วปล่อย ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น ส่วนตัวอยากถามว่ากู้ภัยทั้ง 3 คนมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับตำรวจหรือไม่หรือมีหน้าที่อะไร จึงนำคลิปมาโพสต์ดังกล่าว


ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่พักสายตรวจตำบลโคกสูง สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ห่างจากปั๊มน้ำมันที่ระบุในคลิปประมาณ 200 เมตร ซึ่งได้พบกับ ร.ต.ท.ถนอม ก้อนคำ รอง สว.(ป)สภ.อุบลรัตน์ ซึ่งเป็นตำรวจที่แต่งเสื้อยืดสีขาว สวมกางเกงขาสั้น ที่อยู่ในคลิป ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นนั้น เกิดเหตุตนเองซึ่งปฏิบัติหน้าที่ป้อมยามแห่งนี้ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มเด็กวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์เสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญขอให้ไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งรู้จักกันในหน้าที่การงานได้ประสานขอกำลังเพื่อให้ช่วยยึดรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย


ซึ่งหลังรับแจ้งเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมทั้งยังไม่ได้สวมชุดเครื่องแบบจึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปตรวจสอบก่อนพร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่รู้จักกันในฐานะพลเมืองดีคนหนึ่งไปช่วยอีกสองคน เมื่อไปถึงก็พบกลุ่มรถจักรยานยนต์วัยรุ่นจำนวนหลายคัน และบางคันเมื่อรู้ว่าเป็นตำรวจก็ขับขี่หลบหนีไปทำให้สามารถยึดรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายไว้ได้ทั้งหมดสี่คัน


ซึ่งได้มีการชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการของทางตำรวจให้กับกลุ่มวัยรุ่นได้ทราบโดยบอกว่าจะยึดรถไปที่ป้อมยาม ให้ไปรอที่โรงพักได้เลยเพราะจะนำรถไปที่โรงพักเพื่อดำเนินคดีด้วย ให้ไปรอที่นั่น ก่อนที่จะยึดรถมาที่ป้อมยามและมีชาวบ้านในพื้นที่มาขอเพราะเป็นลูกหลาน บอกว่าเด็ก ๆ เดินทางมาจากอำเภอบ้านไผ่ ด้วยความที่เห็นว่าเป็นคนในพื้นที่และต้องเดินทางจากอำเภอบ้านไผ่ หากจะต้องนำท่อมาเปลี่ยนหรือเอกสารต่างๆมาขอรถคืน จึงปล่อยทั้งหมดไปโดยไม่ได้มีการยึดรถหรือให้เสียค่าปรับแต่อย่างใด แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องดังกล่าวไม่สามารถปล่อยผ่านได้เนื่องจากเป็นนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการกวาดล้างเด็กแว๊นหรือกลุ่มรถจักรยานยนต์เสียงดังสร้างสร้างความรำคาญให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และที่ผ่านมาตนเองได้มีการป้องปรามและกวดขันมาอย่างเคร่งครัดโดยตลอด ส่วนในครั้งนี้มองว่าเป็นลูกหลานคนในพื้นที่ก็ได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนอบรมและปล่อยไป


นอกจากนี้ในส่วนที่กลุ่มวัยรุ่นนำไปโพสต์ในโซเชียลจนสร้างความเสียหายให้แก่ตนเองเบื้องต้นก็จะติดต่อไปยังผู้ที่นำคลิปมาเผยแพร่ในโซเชียลหากไม่ยอมลบคลิปก็จะดำเนินการตามกฎหมายจะเข้าแจ้งความเอาผิดในเรื่องของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฐานหมิ่นประมาทตามกฎหมายต่อไป


พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพูดคุยกับชาวบ้านที่ขอกับทางตำรวจที่ป้อมยามให้ปล่อยตัวเนื่องจากเป็นลูกหลานและไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันกับกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกจับแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจในคลิปได้เดินทางมาพบกับชาวบ้านรายนี้ด้วยพร้อมทั้งได้ให้พูดคุยกับทางพันตำรวจเอก ปวิช แสงอรุณ ผกก.สภ.อุบลรัตน์ ซึ่งก็ได้อธิบายให้ผู้กำกับทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นลูกหลาน ซึ่งไม่ใช่กลุ่มเดียวกันกับกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกจับ ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกจับนั้นอายุประมาณ 11 -15 ปี ยังเป็นเด็กตัวเล็กเล็กซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่ทราบเหตุการณ์ว่าเป็นมายังไงแต่ในส่วนของลูกหลานที่ ตนเองไปขอนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มวัยรุ่นที่มีการขับรถจักรยานยนต์มาเที่ยวแต่อย่างใด โดยได้ขอร้องทางตำรวจให้ยอมปล่อยโดยให้อบรมและว่ากล่าวตักเตือนแทน


ด้านพันตำรวจเอก ปวิช แสงอรุณ ผกก.สภ.อุบลรัตน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้นจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ป้อมยามโคกสูงและชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะสร้างความรำคาญและมาจอดที่ภายในปั๊มน้ำมันหลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพไปตรวจสอบโดยไม่ได้แต่งเครื่องแบบเนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องรีบออกไปทันที เมื่อไปถึงก็พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่ภายในปั๊มน้ำมันก่อนจะมีบางส่วนขับขี่หลบหนีออกจากปั๊มไปและบางส่วนสามารถจับกุมไว้ได้จำนวน 4 ราย ได้มีการควบคุมตัวพร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ทั้ง 4 คันมาที่ป้อมยามโคกสูง เพื่อดำเนินดำเนินการตามกฎหมายเสียค่าปรับในความผิดฐานสร้างความเดือดร้อนรำคาญและพรบ.จราจร ซึ่งก็มีชาวบ้านมาขอให้ทางตำรวจปล่อยตัวเนื่องจากเป็นลูกหลานเยาวชนในพื้นที่ โดยทางตำรวจเองก็ได้ทำการอบรม และว่ากล่าวตักเตือนแทนการเสียค่าปรับ และทำบันทึก ก่อนจะปล่อยตัวไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ