อาชญากรรม

ชายคล้ายเมากาวฉุนยื่นขนมให้สาวแล้วไม่กิน ชกสาวกลางสี่แยก

โดย kanyapak_w

1 ส.ค. 2566

294 views

วันที่ 1 ส.ค.66 ศูนย์วิทยุ สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายกลางสี่แยกไฟแดง ในเขตเทศบาลนางรอง ตำรวจชุดสายตรวจจึงเข้าตรวจสอบในทันที โดยมีหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ นำกำลังมาสมทบ



ภายในร้านขายแบตเตอรี่มุมสี่แยกไฟแดง พบ น.ส.นิ่ม(นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อยู่ภายในร้านแบตเตอรีด้วยท่าทางหวาดผวา พร้อมกับให้การกับตำรวจว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์จะไปซื้อของ ระหว่างที่จอดติดไฟแดงอยู่นั้น ได้มีชายไม่ทราบชื่อ คาดว่าเดินมาทางด้านหลัง จากนั้นรู้สึกมีสิ่งของมากระทบท้ายทอย จนต้องเซถลา



เมื่อหันไปดูพบชายผมยาวยืนจ้องเหมือนจะทำร้ายอีก จึงวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือที่ร้านขายแบตเตอรีดังกล่าว ยืนยันไม่เคยรู้จักชายคนที่มาทำร้ายมาก่อน และไม่เคยมีศัตรู กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายเป็นเบื้องต้นก่อน



จากนั้นทั้งตำรวจ และหน่วยกู้ภัยฯได้ออกตระเวนตามหาบุคคลต้องสงสัย และคาดว่าน่าจะเป็นคนเร่ร่อน กระทั่งพบนายบุญทัน หรือดิว อายุ 45 ปี พยายามซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้า ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบมีกระป๋องกาวกระจ่ายอยู่ทั่วบริเวณเป็นจำนวนมาก



ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นนายดิว รับสารภาพว่า ได้กระทำจริง สาเหตุเพราะจะเอาขนมให้กินแต่หญิงคนนั้นไม่กินเหมือนจะรังเกียจ จึงชกสั่งสอนแต่ไม่ได้คิดร้ายไปมากกว่านั้น



ต่อมาตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้เข้าไปสำรวจ บ้านร้างหลังหนึ่ง ยังพบกระป๋องกาวซึ่งคาดว่าน่าจะมีกลุ่มนิยมดมสารระเหย มามั่วสุมกันอยู่บริเวณนี้เป็นประจำ แต่กลุ่มนี้ไม่ชอบใช้อาวุธรุนแรง



เจ้าของร้านแบตเตอรี่ เล่าว่า ได้ยินเสียงร้องตั้งแต่กลางสี่แยก ไม่นานมีหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บ วิ่งมาขอความช่วยเหลือ โดยช่วงนั้นยังมีนายดิว วิ่งตามมา แต่กล้าเข้าร้านเพราะมีผู้ชายหลายคน ก่อนจะเดินหนีไป เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในตัวเมือง จึงอยากจะให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง มาแก้ไขปัญหา หากปล่อยให้เป็นแบบนี้อีกจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน



ด้านนายวรบดินทร์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง กลุ่มนี้มักจะก่อเหตุสร้างความรำคาญ ขอเงินชาวบ้าน ไม่ค่อยจะทำร้ายใคร แต่ครั้งนี้รุนแรงขึ้นที่ใช้กำลัง เคยจับไปส่งโรงพยาบาลแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังออกมาสร้างความวุ่นวายอีก



ทั้งนี้เบื้องต้นตำรวจส่งตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลนางรอง ส่วนข้อหาจะต้องดูผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายก่อนว่ารุนแรงแค่ไหน





คุณอาจสนใจ

Related News