"ศิธา" โพสต์ชี้ "เพื่อไทย" พยายามเขียนเสือให้วัวกลัว ปชช.โหวตให้ไปไล่เผด็จการ กลับไปใส่พานมอบคืนให้พรรค 2 ลุง

(1 ส.ค.) น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กและทวีตข้อความผ่านบัญชีออนไลน์ส่วนตัว ระบุข้อความว่า

"ฉากทัศน์ที่ผู้บริหาร #เพื่อไทย พยายาม #เขียนเสือให้วัวกลัว จนขี้หดตดหาย คือ 188 เสียงจะซื้องูเห่า,ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว,ถ้าตั้งรัฐบาลช้าลุงจะกลับมา ฯลฯ



แต่ประชาชนไม่ได้กินหญ้า จึงรู้ว่า 14 พ.ค. ปชต. ชนะอย่างราบคาบ ผลโหวตที่ออกมาคือการจับเผด็จการลงหลุม ปิดผ้ายันต์บังสกุลเรียบร้อยแล้ว แต่คนที่ไปปลุกผีให้คืนชืพ กลับมาหลอกหลอนได้อีก กลับกลายเป็นพรรค #เพื่อไทย พี่ใหญ่ฝ่าย ปชต.



ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่แกว่ง มัดรวมกันไว้ 312 เสียงดังที่ #ศิธา เคยเสนอให้ทำ #AdvanceMOU ย่อมเหมือนเราได้มากกว่าเป้า แลนสไลด์ 310 ถึง 2 เสียง ประชาธิปไตยแข็งแรงเกินคาด



ต่อให้ประยุทธ ได้กลับมาเป็น #นายกคนที่30 ลุงก็อยู่ได้อีกไม่ถึง 1 ปี เพราะเกินวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี

ต้องเลือกนายกใหม่ เผด็จการก็แพ้ราบคาบ เลือกนายกใหม่ สว.ก็ไม่มีสิทธิ์เลือกแล้ว เพราะเกินวาระ ที่เหลืออายุอีกแค่ 10เดือน ก็ต้องเก็บกระเป๋า กลับบ้านเก่ากันหมดแล้ว 188 เสียง ก็แพ้ราบคาบอีก



แต่ถ้า #เพื่อไทย นำคะแนนเสียงของประชาชน ที่ออกไปโหวตลงคะแนนให้เพื่อไปไล่เผด็จการฯ กลับไปทูนหัวใส่พานมอบคืนให้พรรค 2 ลุง มันเหมือนการปลุกผี ขึ้นมาจากหลุมอีกครั้ง



ประชาชนไม่มีสิทธิ์รู้เลย ว่าพรรคที่กลายพันธุ์ #ไขว้ข้ามขั้ว จะเป็น #ซอมบี้ ไปด้วยหรือไม่?



อำนาจเผด็จการที่เดิมอยู่ได้ไม่ถึง 10 เดือน เมื่อได้กำลังเสริมอีก 141++ เสียง จะได้ต่ออายุออกไปอีก 4ปี? 8ปี? 16ปี? หรือตลอดไป? ไม่มีใครรู้ที่สิ้นสุดว่า #เผด็จการครองเมือง ไปอีกนานแค่ไหน !!



เดิมพันนี้สูงยิ่งนัก สูงกว่า #พรบสุดซอย เพราะมัน ไม่ใช่ทางตัน แต่มันจะทะลุ #ลงถนน

โดย #ศรัทธาประชาชน ที่เคยรัก เคยเป็น #ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก คุ้มครองให้ อาจหายวับ ไปในชั่วพริบตา"

ต่อมาได้มีผู้บัญชีรายหนึ่งในทวิตเตอร์หรือ เอ็กซ์ (X) ได้ตั้งคำถาม reply ไปยังโพสต์ดังกล่าวว่า "พี่ปุ่นอย่าเพิ่งออกตัวแรงนะครับ เห็นมีสูตรนึงที่พรรคของพี่เป็นรัฐบาลร่วมกับเพื่อไทย และ กก.เป็นฝ่ายค้าน"

ด้าน น.ต.ศิธา ได้มาทวีตตอบว่า "ไม่เป็นไรครับ คนเราต้องมีสัจจะ ไทยสร้างไทย ไม่ได้กลัวตกรถ ไม่ได้กลัว จะไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล เรากลัวเผด็จการครองเมือง กลัวประชาธิปไตยไม่เดินหน้า มากกว่า"