สังคม

ชายป่วยลมชัก ขับสองแถวป้ายเหลือง ชนต้นไม้อัดก็อปปี้เจ็บติดในซากคู่ลูกชาย

โดย onjira_n

30 ก.ค. 2566

673 views

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ 30 ก.ค.66 ศูนย์วิทยุสื่อสารและสั่งการนเรนทรตรัง (1669) ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะสองแถวป้ายเหลืองเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถเป็นเพศชาย จำนวน 2 ราย เหตุเกิดริมถนนสองเลนสายเมืองตรัง-น้ำผุด พื้นที่ หมู่ 4 บ้านแมงไพร ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้ หน่วยแพทย์กู้ชีพ รพ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง เร่งเข้าตรวจสอบและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน



ถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนทางตรง พบรถยนต์กระบะสองแถว ตอนเดียว  สีน้ำเงิน ทะเบียนป้ายเหลือง ตรัง ข้างประตูรถติดสติ๊กเกอร์สายตรัง-น้ำผุด หัวรถพุ่งชนติดอยู่กับต้นตะเคียนขนาดใหญ่ริมถนน หลังคาคอกกระบะหลังกระเด็นหลุดออกมาจากตัวรถ แรงปะทะทำให้หัวรถยุบเข้ามาอัดก็อปปี้ติดกับร่างของคนขับและคนนั่งข้าง ทราบชื่อคนขับคือนายสมหมาย   อายุ 60 ปี ชาว ต.น้ำผุด คนนั่งข้างคือนายเฉลิมพงษ์  อายุประมาณ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย



ทั้งสองรายได้รับบาดเจ็บมีเลือดอาบ แต่รู้สึกตัวทั้งสอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจะช่วยกันทำการตัดถ่างช่วยนำร่างของลูกชายออกมาจากตัวรถ ได้ก่อนเป็นรายแรก เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาด ขาหัก แขนซ้ายหักผิดรูป ก่อนจะเร่งกันตัดถ่างนำตัวผู้เป็นพ่ออกมาจากตัวรถ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาจากตัวรถได้สำเร็จ โดยได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาดหลายจุด รวมทั้งขาหัก ก่อนจะรีบนำตัวทั้ง 2 ราย ส่ง รพ.ตรัง อย่างเร่งด่วน



สอบถามนางอารมย์  อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายสมหมาย บอกว่า โดยปกติคนขับป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชักอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็เคยขับรถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุมาเช่นกัน แต่ไม่ได้รุนแรงเท่ากับครั้งนี้ พร้อมทั้งก่อนหน้านี้ได้ยึดอาชีพขับรถโดยสารสองแถวป้ายเหลืองระหว่างสายน้ำผุด-เมืองตรัง แต่ได้หยุดขับแบบประจำสาธารณะไปหลายปีแล้ว เพียงแต่ได้ขับรับส่งบรรดาเครือญาติและคนในละแวกหมู่บ้านอยู่บ้างเป็นบางครั้งตามคำร้องขอหรือมีคนว่าจ้างเหมาไป ก่อนเกิดเหตุได้ขับนำเครือญาติซึ่งใช้นามสกุลเดียวกันจำนวนประมาณ 1-2 คนไปส่งที่สนามบินตรัง พร้อมกับมีลูกชายนั้งข้างด้วย ขากลับซึ่งใกล้จะถึงบ้านแล้วได้มาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเสียก่อน ซึ่งคาดว่าสาเหตุน่าจะโรคลมชักกำเริบ หรือหลับในก็ต้องสอบถามผู้บาดเจ็บต่อไป

คุณอาจสนใจ