รถทัวร์โวยตำรวจ ห้ามจอดหน้าห้างดังกลางกรุง ชี้ในห้างที่จอดเต็ม จึงต้องมารับลูกทัวร์ข้างนอก ยันไม่ได้ทำรถติด

จากกรณีที่โลกโซเชียลปรากฏคลิปเหตุการณ์ คนขับรถทัวร์ มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เกี่ยวกับการจอดรถรอรับส่งผู้โดยสาร ที่ริมถนนถนนเจริญนคร หน้าทางออกห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จนมีการแชร์คลิปและมีการวิพากษ์วิจารณ์ กันในวงกว้างเพราะมีความเห็นที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายที่เข้าใจการทำงานของตำรวจและมองว่าผู้ขับขี่รถทัวร์ทำผิดกฎจราจร กับอีกฝ่ายที่เข้าข้างคนขับรถทัวร์


ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายหนุ่มเมืองไทย อายุ 48 ปี ผู้ขับขี่รถทัวร์ และเป็นผู้บันทึกคลิปดังกล่าวระบุว่า ตนเองวิ่งรถทัวร์มาได้ 8 ปี ไม่เคยเกิดเรื่อง แต่ในวันเกิดเรื่อง คือวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ประมาณ 3 ทุ่ม วันนั้นตนเองมีกำหนดรับส่งผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม ประมาณ 38 คน โดยตนเองไปส่งลูกทัวร์ เพื่อเดินชอปปิง และลงเรือสำราญ ไปเมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ก่อนจะวนไปจอดพักรถที่จุดจอดรถที่ทางห้างเตรียมไว้ให้ ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 20 นาที


โดยเมื่อถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่มได้รับการติดต่อจากทางไกด์นำเที่ยวว่าให้นำรถมารับผู้โดยสาร ตนเองได้สอบถามกำชับกับทางไกด์ก่อนหน้าไปแล้วว่าลูกทัวร์ครบพร้อมที่จะขึ้นหรือไม่ เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเป็นปัญหาที่มีมานาน กลุ่มผู้ขับขี่รถทัวร์ทุกคนจะรู้ดีว่า รถจะต้องไปติดอยู่บริเวณทางเข้าห้าง เพราะมีรถทัวร์จำนวนมากจะต้องเข้าไปรับลูกทัวร์ ซึ่งบางครั้งก็ต้องใช้เวลาในการรอทำให้การจราจรติดยันออกมาถนน


เมื่อได้รับการยืนยันตนเองก็เดินทางขับรถออกจากจุดจอดไปเพื่อรับผู้โดยสารโดยได้มีการพยายามวนอยู่หลายครั้งไม่สามารถเข้าไปในตัวลานจอดของห้างสรรพสินค้าได้ เพราะลานจอดที่รถทัวร์สามารถเข้าไปได้เต็ม ทำให้ต้องวนรถหลายครั้ง และขณะที่ตนเองอยู่ระหว่างการติดรอรถที่เข้าห้าง จึงตัดสินใจโทรประสานให้ไกด์พาลูกทัวร์ทั้งหมดออกมาที่ดินถนนเมื่อไกด์นำลูกทัวร์มาถึงตนก็ขับแซงขวามาจอดบริเวณเลยทางเข้าห้างเล็กน้อย โดยขณะที่ลูกทัวร์กำลังขึ้นรถและกำลังเสร็จสิ้น ตนเองกำลังจะออกรถตำรวจจราจรก็ปรากฏขึ้นและจะขอใบอนุญาตขับขี่ ตนเองพยายามอธิบายถึงความจำเป็นที่ตนเองจะต้องมาจอดรถอยู่ในจุดนี้ แต่ตำรวจก็ไม่ยอมรับฟังและไม่ยอมอะลุ่มอล่วยให้ จึงเกิดมีปากเสียงขึ้นตามคลิปที่ตนเองได้มีการบันทึกไว้ ก่อนจะจบลงด้วยการที่ตนเองและไกด์นำเที่ยวพาลูกทัวร์ขึ้นรถและตำรวจก็ไม่เอาเรื่อง จึงขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ


ผู้ขับขี่รถทัวร์ยังยอมรับว่าจุดที่ตนเองจอดใกล้กับสะพานข้ามคลองจริง แต่ก็เพราะว่าตนเองเห็นว่าจุดที่จอดรถไม่ได้กีดขวางการจราจรยังสามารถให้รถบนถนนเคลื่อนตัวได้ถึงสองช่องการจราจรต่างจากบริเวณทางเข้าที่เสียช่องการจราจรไปถึงสองช่องและปล่อยให้รถบนถนนวิ่งได้เพียงแค่ช่องเดียว ซึ่งจุดที่ตนเองจอดก็อยู่เลยจากทางเข้าห้างมาเล็กน้อย หากจะกีดขวางการจราจรก็ควรจะเป็นรถที่จอดรอที่จะเข้าห้างมากกว่า


โดยตนเองอยากให้ทางห้างสรรพสินค้าเข้ามาช่วยจัดการปัญหานี้ เพราะตนเองและรถทัวร์หลากหลายคนก็มีความจำเป็นต้องเข้ามาในจุดนี้อย่างน้อยเดือนละสองครั้ง หากยังไม่มีการแก้ปัญหาก็อาจจะกลับมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก


จริง ๆ ตนเองเห็นว่าบริเวณทางก่อนถึงห้างเล็กน้อยจะมีจุดที่สามารถจอดได้แต่ก็เห็นว่ามีการให้แท็กซี่มาจอดรอรับผู้โดยสารซึ่งหากเปลี่ยนเป็นให้รถทัวร์มาจอดก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้เพราะรถทัวร์เป็นรถขนาดใหญ่และมีผู้โดยสารหลายคนต่างกับแท็กซี่ที่มีเพียงไม่กี่คน


สำหรับชาวโซเชียลที่มาคอมเมนต์ส่วนที่เข้าใจตนเองก็อยากขอบคุณ ส่วนที่ไม่เข้าใจตนเองตนเองอยากให้ไปดูที่หน้างานเพราะคนที่มาอยู่หน้างานและเอาแต่พิมพ์ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าปัญหาของเรื่องนี้เกิดจากอะไร


ขณะที่ด้าน พันตำรวจตรีนริทร์ สารวัตรจราจร สน. ปากคลองสาน ให้ข้อมูลว่า จากการสอบถามผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปรากฏตามคลิปดังกล่าวทราบว่า วันเกิดเหตุตำรวจจราจรได้ไปบอกให้คนขับรถทัวร์ ที่จอดบริเวณคอสะพาน ให้ขยับออกไปจอดที่อื่น เพราะเป็นพื้นที่ห้ามจอดเนื่องจากเป็นพื้นที่คับขัน และเป็นช่วงอยู่ติดกับทางเข้าออกห้างสรรพสินค้าจึงทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด เพราะเลนเส้นทางจะหายไปหนึ่งช่องทาง ทำให้คนขับรถทัวร์เกิดอาการโมโหโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตำรวจจราจรคนดังกล่าวก็ไม่ได้ตอบโต้และจับกุมแต่อย่างใด เพราะเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เน้นการตักเตือนเป็นหลัก แต่หากรถที่ทำผิดจราจรหรือจอดขวางทางและไม่มีคนอยู่ในรถตำรวจถึงจะมีความจำเป็นที่จะออกใบสั่งหรือยกรถหรือล็อกล้อดำเนินคดีตามกฎหมาย


ยอมรับว่าการจราจรบริเวณถนนเจริญนครที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้นจะมีปัญหาการจราจรเกือบทั้งวันทำให้ตำรวจต้องเข้มงวดหากพบรถที่จอดขวางทางก็จะประชาสัมพันธ์ให้ย้ายออกไปจอดที่อื่นไม่ได้ต้องการจับกุมดำเนินคดีแต่อย่างใด