ข่าวโซเชียล

อ.ธรณ์ เผย ทะเลไทยกำลังไม่ปกติ น้ำทะเลเขียวบ่อย-เต่ามะเฟืองวางไขผิดฤดู จี้เร่งหาทางรับมือ

โดย paranee_s

30 ก.ค. 2566

694 views

ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กถึง 2 เหตุการณ์แปลกในทะเลไทยที่ควรจับตามอง หนึ่งคือน้ำเขียวที่เกาะล้าน อีกหนึ่งคือเต่ามะเฟืองวางไข่ที่ภูเก็ต ทั้ง 2 เรื่องแสดงถึงทะเลที่อาจเปลี่ยนไปครับ


เริ่มจากเรื่องแรก เมื่อวานมีข่าวเรื่องแพลงก์ตอนบลูมที่เกาะล้าน ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว ผมเคยพูดเรื่องนี่หลายครั้งว่าทะเลเรากำลังผิดปกติ โดยเฉพาะอ่าวไทยตอนใน/EEC จึงอยากขยายความเพิ่มขึ้นกับเหตุการณ์ที่กำลังปรากฏ แพลงก์ตอนบลูมเป็นเรื่องธรรมชาติ เกี่ยวข้องกับปริมาณน้ำฝน (ธาตุอาหาร) แสงแดด ทิศทางลม/กระแสน้ำ และปัจจัยอื่นๆ ในทะเล


แต่ระยะหลังเริ่มปั่นป่วนเพิ่มขึ้นในทางที่แย่ลง เพราะมนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้อง เกี่ยวโดยตรงคือธาตุอาหารที่เพิ่มขึ้นจากหลายสาเหตุ การเกษตร น้ำทิ้ง ฯลฯ ไหลลงสู่ทะเล อ่าวไทยตอนในเป็นพื้นที่ค่อนข้างปิด น้ำวนอยู่นาน อิทธิพลจากแม่น้ำลำคลองมีเยอะ เกี่ยวข้องทางอ้อมคือโลกร้อน ตอนนี้แรงขึ้นจนอาจใช้คำว่า “โลกเดือด”


แล้วเกี่ยวกับเอลนีโญบ้างไหม? ปกติแล้วเอลนีโญจะทำให้ฝนตกน้อย น่าจะทำให้แพลงก์ตอนบลูมน้อย เมื่อเทียบกับปีลานีญา แต่ปีนี้มีข่าวน้ำเขียวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะ EEC บางทีก็ศรีราชา พัทยา หรือแม้กระทั่งเกาะล้าน เอลนีโญในยุคก่อน ๆ ไม่น่าเป็นแบบนี้ แต่เมื่อเอลนีโญเกิดในยุคโลกเดือด อะไรก็เป็นไปได้


แพลงก์ตอนบลูมเกิดในช่วงเวลาแปลก ๆ และพื้นที่ตามเกาะที่ในอดีตเราไม่ค่อยเจอ และส่งผลอย่างที่เราไม่คาดคิด ตัวอย่างง่าย ๆ คือการท่องเที่ยว แม้ไม่ใช่แพลงก์ตอนพิษ แต่ใครจะอยากไปเล่นน้ำเขียวคัน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ ไปเจอก็เศร้าทั้งนั้น


ช่วงนี้การท่องเที่ยวเกาะล้านกำลังคึกคัก คนไปวันละหลายพัน เป็นแบบนี้คงไม่สนุก ปัญหาคือจะเกิดอีกไหม เกิดบ่อยไหม เกิดเมื่อไหร่ เราแก้ไขอย่างไรได้บ้างโลกร้อนทำให้ทุกอย่างแปรปรวน การรับมือทำได้ยาก และจะยิ่งยากหากเรามีข้อมูลไม่พอ เกิดทีไรก็แค่เก็บน้ำ จากนั้นก็บอกว่าเป็นแพลงก์ตอนชนิดไหน (ปกติก็มีอยู่กลุ่มเดียวที่ไม่เป็นพิษ) มันพอสำหรับสมัยก่อน แต่สำหรับโลกยุคนี้ เราต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้มากๆ เพื่อการรับมือและปรับตัวกับปรากฏการณ์แปลกๆ ที่กำลังเกิด และจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะโลกร้อนขึ้น ไม่ได้จะหยุดร้อน ไม่ได้จะจบลงใน 5 ปี 10 ปี แต่ยังแรงขึ้นเรื่อย ต่อเนื่องอีกอย่างน้อยหลายสิบปี


การช่วยชีวิตอ่าวไทยตอนใน/EEC มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อเศรษฐกิจประเทศไทย หากเราไม่คิดพัฒนางานศึกษาวิจัย หากเราหยุดอยู่แค่วัดไข้ ขณะที่ทะเลอื่นในโลกเขาก้าวไกลไปถึงไหนๆ แล้ว การช่วยชีวิตอ่าวไทยก็ทำได้กระปริกระปรอย ถามมาตอบไป แพลงก์ตอนบลูมเกี่ยวกับเอลนีโญมั้ย? ตอบไปแล้วไงล่ะ มันจะแรงขึ้น มันจะทำนายยากขึ้น มันจะส่งผลกระทบมากขึ้น อันนี้สิคือคำตอบที่แท้จริง


และเรายังไม่อยู่ในสภาพที่สามารถแจ้งเตือน รับมือ และปรับตัวได้เพียงพอ เพราะนักวิทยาศาสตร์เจอแต่คำถาม แต่ความสนับสนุนเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบ ยังมีน้อยไปมากๆ ทำให้คำตอบดูคลุมเครือ ไม่กล้าฟันธง และวนไปมา


ผมมาญี่ปุ่น ผมเห็นหลายอย่างที่เขากำลังพยายามยกระดับรับมือเอลนีโญและโลกร้อน เห็นการศึกษาวิจัยที่ใช้เครื่องมือก้าวหน้า ความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อความเข้าใจที่ถ่องแท้ เพื่อระบบแจ้งเตือนที่ดี และเพื่อการปรับตัวที่ทันการณ์แพลงก์ตอนบลูมเกี่ยวข้องกับเอลนีโญไหม?


คำถามที่แท้จริงควรเป็นว่า เราพร้อมช่วยชีวิตอ่าวไทยในยุคทะเลเดือดไหม? นักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามวัดไข้ทะเล แต่ถ้ามีความสนับสนุนอย่างที่บ้านเมืองอื่นเขากำลังทำ เราจะทำได้ดีกว่าวัดไข้ เช่น ยกระดับการสำรวจและเฝ้าระวังทะเล ติดตามสภาพความเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ปรับปรุงอุปกรณ์และสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษาวิจัย จัดจุดติดตามถาวร บูรณาการข้อมูลและ GIS ใช้เทคโนโลยีทันสมัย/รีโมทเซนซิง จัดทำโมเดลอ่าวไทย/EEC จัดทำระบบแจ้งเตือนผู้ใช้ประโยชน์ ติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล/สมุทรศาสตร์แบบเรียลไทม์ จัดทำแผนการลดผลกระทบด้านธาตุอาหารจากแหล่งแม่น้ำลำคลอง สำรวจและดูแลอาชีพชาวประมงการท่องเที่ยวรายย่อย ฯลฯ


ในขณะที่คนทั่วไปสามารถช่วยได้ด้วยการลดผลกระทบด้านต่างๆ อย่าซ้ำเติมธรรมชาติ เช่น ลดโลกร้อน ลดขยะ บำบัดน้ำ สนับสนุนกิจการท้องถิ่น แจ้งเหตุผิดปกติ ฯลฯ เราจะลดความสูญเสียได้มหาศาลครับ


ยังมีอีกข่าวคือแม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ที่ภูเก็ต นั่นเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมแม่เต่าวางไข่ตอนนี้ ปกติเต่ามะเฟืองจะวางไข่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม ตุลาคมยังพอว่า แต่กรกฎาคมเนี่ยนะ? ผมไม่เคยได้ยินว่ามีมาก่อน โดยเฉพาะกับสัตว์ที่แม่นยำต่อเวลาและสถานที่เช่นเต่ามะเฟือง


การวางไข่ในช่วงเวลาที่ผิดปกติ อาจส่งผลต่อเนื่องลูกเต่าฟักออกจากไข่ในอีก 60 วัน ประมาณปลายกันยา ยังไม่หมดลมมรสุมดีด้วยซ้ำ แล้วลูกเต่าจะฝ่าคลื่นลมออกไปกลางทะเลไหวไหม ในขณะที่ลูกเต่าทั่วไปจะออกทะเลช่วงกุมภาพันธ์/มีนาคม ทะเลอันดามันสงบ มันมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ ในโลกยุคนี้ที่ธรรมชาติแปรปรวนอย่างไม่เคยเกิดมาก่อนครับ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ