"อดิศร" ยก "ทักษิณ" เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ บอกกลับมาช่วยเสริมกำลังใจคนในพรรค

"อดิศร" ยก "ทักษิณ" เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ บอกกลับมาช่วยเสริมกำลังใจคนในพรรค เชื่อคงไม่หวนเล่นการเมือง - ให้คำปรึกษาทุกภาคส่วนเพราะประสบการณ์เยอะ ชวน "บิ๊กตู่" ร่วมรับที่สนามบิน เตือนชูวิทย์ ในฐานะรุ่นน้องจ่อแฉ บอก “ชนะอยู่ที่พวก สะดวกอยู่ที่เงิน เจริญอยู่ที่นาย ชิบหายอยู่ที่ปาก”



นายอดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับประเทศไทยจะช่วยเสริมให้พรรคเพื่อไทยแข็งแรงได้หรือไม่นั้น นายอดิศรกล่าวว่าจากที่ตนเองได้ข่าวการกลับมาเป็นที่แน่ชัดจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะกลับมาวันที่ 10 สิงหาคม เรื่องแรกตนรู้สึกดีใจเพราะก่อนหน้านี้บอกจะกลับมาเมืองไทยหลายครั้งหรือหาเสียงครั้งไหนก็จะเอาทักษิณกลับบ้าน แต่ในที่สุดนายทักษิณก็กลับมาเอง ตนเองจึงถือว่ามาเสริมกำลังใจเพราะถือว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรค นับตั้งแต่ไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย



ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น นายอดิศร กล่าวว่า จากประสบการณ์ของท่านที่ไปมาแล้วทั่วโลก ตนเองเชื่อว่าคงจะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาให้คำปรึกษากับ ทุกส่วน ของประเทศไทย และไม่ใช่เฉพาะแค่พรรคเพื่อไทยพร้อมยืนยันว่ายินดีต้อนรับ ส่วนขั้นตอนที่มาแล้วจะเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่าคิดว่าจะส่งผลต่อพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายอดิศร มองว่าคงเป็นในส่วนของเรื่องขวัญและกำลังใจ ซึ่งนายทักษิณ มักจะให้กำลังใจคนที่รู้จักเป็นจิตวิทยาที่เราไม่สามารถทำได้เช่นท่าน ซึ่งคำพูด ส่งเสริมให้สส.พรรคเพื่อไทย ที่สอบตก หรือสส.ที่ได้รับเลือกแล้ว อนาคตจะเดินหน้าอย่างไร ซึ่งเป็นการส่งเสริมกันอยู่ในตัว ซึ่งอายุของท่าน 74 ปีถือเป็นผู้สูงวัย ทุกสิ่งทุกอย่างอยากกลับไปสู่สามัญ



เมื่อถามว่านายทักษิณกลับมาในครั้งนี้จะกลับมาเล่นการเมืองและเข้าไปยุ่งเกี่ยวการเมืองหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่าตนคิดว่าคงไม่ อาจจะเป็นแค่ที่ปรึกษาและในแต่ละวันมีคนไปเยี่ยมเยียน คงไม่มีเวลาทำอะไรหรืออาจจะมีเวลาไปตีกอล์ฟ แต่ก็ยังคงยืนยันต้อนรับการกลับมาของนายทักษิณ แต่ผ่านไปเกือบสองทศวรรษคนจะไม่ลืมทักษิณ เพราะปกติแค่หนึ่งถึงสองปีก็ลืมกันแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เราน่าจะทำการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่โกรธหรือไม่โกรธ ซึ่งเขาเหมือนลูกทุเรียน บางคนชอบบางคนไม่ชอบ หรือหากนำเอาเข้าตู้เย็นบางคนถึงกับต้องฟ้องหย่า



ส่วนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่บอกว่ารอดูว่าจะกลับมาจริงหรือไม่นั้น นายอดิศรย้ำว่าแต่ข่าวนี้ได้รับการยืนยัน แต่หากพลเอกประยุทธ์ว่าง ก็ไปรับด้วยสิ เพราะเป็นทีมทหารด้วยกัน



เมื่อถามถึงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดีต่างๆนั้น นายอดิศร มองว่าไม่น่าจะมีและเรื่องนี้ก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมายเพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย และมีขั้นตอนระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยในวันที่กลับมาตนเองก็ไม่ทราบว่าจะมีขั้นตอนอย่างไรแต่คาดว่าสนามบินจะเต็มไปด้วยผู้คน และจะมีการเดินทางไปจองพื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 9 สิงหาคม



ส่วนภาพการเมืองใหญ่ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ตนเองมองว่าคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง



เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้คุณทักษิณวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยว่าให้นาย เศรษฐาทวีสินแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย อยู่ทำเนียบและให้ นางสาวแพทองธารอยู่พรรค นายอดิศร กล่าวว่าเป็นการพูดติดตลกเพราะทั้งสองเป็นเหงากันอยู่แล้ว โดยเมื่อวานนี้นายทักษิณได้มีการบอกว่า นายเศรษฐาก็ไปอยู่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายกมีคนเดียว อีกหนึ่งคนก็ต้องดูพรรค เป็นการพูดติดตลกและให้กำลังใจ //ส่วนแสดงว่าเป็นที่ชัดเจนว่าให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ชัดเจนมานานแล้ว



เมื่อถามว่าพูดแบบนี้แสดงว่าการจัดตั้งรัฐบาลราบรื่นแล้วใช่หรือไม่ นายอดิศรตนไม่มีส่วนในเรื่องนี้ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยอ่อนน้อมถ่อมตน มีมิตรมีเพื่อนอยู่ทุกที่ และชี้ว่าประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อทุกฝ่าย มีศักดิ์ศรี รวมถึงสว. คือเราจะไม่แข็งจะอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อให้ชาติบ้านเมืองฝ่าวิกฤติตรงนี้ไปได้ พร้อมมองว่าการรักษาการอีก 10 เดือน คนก็ไม่เอา รัฐบาลจำเป็นต้องมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร



ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์เตรียมแถลงข่าวโดยยืนยันว่าการกลับมาของนายทักษิณในครั้งนี้มีเอี่ยวเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน นายอดิศร ตนเองไม่ทราบกับนายชูวิทย์และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เพราะเป็นน้องรุ่นน้องที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ส่วนที่ในชีวิตจะมีการเปิดเผยหลักฐานบางอย่างที่เกี่ยวกับนายเศรษฐา นายอดิศรระบุว่าเปิดให้ดีก็แล้วกัน ถ้าเปิดตามอำเภอใจ หรือเปิดตามใบสั่ง จะมีทั้งเท็จและจริง ซึ่งตนขอฝากไปยังรุ่นน้องเทพศิรินทร์ ชนะอยู่ที่พวก สะดวกอยู่ที่เงิน เจริญอยู่ที่ไหน ชิบหายอยู่ที่ปาก



ส่วนกรณีดีลลับฮ่องกงตนเองไม่ทราบ และตนไม่ได้เดินทางไป เพราะตนเองไม่เดินทางออกนอกประเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากจะต้องมีการขออนุญาตศาล เพราะมีคดีความอยู่