ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ร่วงลงเล็กน้อย หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ราคาน้ำมันโลก ปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมา ร่วงลง 1% หลังสหรัฐฯ เผยสต็อกน้ำมันลดลงน้อยกว่าคาด


น้ำมันไนเม็กซ์ นิวยอร์ก ลดลง 0.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 1.1% ปิดที่ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

เบรนท์ ลอนดอน ลดลง 0.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.9% ปิดที่ 82.92 ดอลลาร์/บาร์เรล


สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล


ขณะที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันพุธ(26ก.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี

การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 ในรอบการประชุม 12 ครั้งหลังสุด นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปี 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมแล้ว 5.25%

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงว่า เฟดตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมแต่ละครั้งแยกกัน โดยจะพิจารณาข้อมูลทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด แต่มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้