สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 20 ก.ค.66 ศาลสั่งพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่-นัดโหวตนายกฯ รอบ 3-อัยการยื่นฟ้องแอม ไซยาไนด์

โดย thichaphat_d

20 ก.ค. 2566

101 views

1.ชุมนุมขึ้นป้ายหนุน พิธา อนุสาวรีย์ปชต.

มวลชนเพียบ คนดังพรึ่บ! ร่วมชุมนุมเต็มพื้นที่ราชดำเนินกลาง เอาป้ายผ้า “นายกพิธา ฉันทามติประชาชน” มาผูกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ท่ามกลางความผิดหวัง หลังรัฐสภาปิดสวิตช์พิธาโหวตนายกฯ ซ้ำไม่ได้ และศาลรัฐธรรมนูญสั่งพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. รับคำร้องคดีถือหุ้นสื่อ

ด้าน สส.ก้าวไกล นำโดย ไอติม, โรม, ไอซ์ รักชนก ลงพื้นที่พบปะมวลชน พูดคุยรับฟังความรู้สึกของผู้ชุมนุมหลังทราบผลโหวตของสภา

2.นักแสดง-ยูทูบเบอร์วัยรุ่นชื่อดัง ร่วมชุมนุมพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ

นักแสดง-ยูทูบเบอร์วัยรุ่นชื่อดัง ก้อย-นัตตี้-ดรีม ร่วมชุมนุมแสดงจุดยืน หลังพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่ไอจีของก้อย อรัชพร แชร์สตอรี่ไอจี เป็นรูปภาพของการเชิญชวนมาชุมนุม และโพสต์รูปภาพ ป้ายสีขาวระบุข้อความว่า “นายกพิธา ฉันทามติประชาชน”/ก่อนนัดชุมนุมต่อ วันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.นี้ รอบจัตุรัสปทุมวัน

3.อัยการยื่นฟ้อง แอม ไซยาไนด์ – สามีและทนายพัช คดีวางยาก้อย

อัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ยื่นฟ้องแอม ไซยาไนด์ พันตำรวจโทวิฑูรย์ อดีตสามีและทนายพัช ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คดีวางยา ก้อย ศิริพร จนเสียชีวิต เพื่อฉกทรัพย์ 9 รายการ มูลค่ากว่า 1 แสน 5 หมื่นบาท ศาลนัดตรวจหลักฐาน 2 ต.ค.นี้

4.ขรก.สาว แจ้งความเอาผิด มิจฉาชีพหนุ่ม หลอกให้รัก ลวงเงินเป็นหนี้ 5 ล้าน

ข้าราชการสาวแจ้งความเอาผิดหนุ่ม ที่เจอกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ หลอกให้รัก ซื้อรถยนต์ โอนเงินให้ 3 เดือน เป็นหนี้เกือบ 5 ล้าน แถมโดนทำร้ายร่างกายขู่ปล่อยคลิปประจาน สายไหมต้องรอดเผย เหยื่อโผล่เพิ่มหลังเป็นข่าว บิ๊กโจ๊กกำชับ สน.เตาปูน ตามรถที่ถูกเอาไปจำนำ 2 คันมาคืนก่อนเป็นบุคคลล้มละลาย

5.คนงาน ถูกจั่วปูนร่วงทับหลัง หน้าคว่ำถูกเหล็กเสียบอกดับคาประตูวัด

คนงานก่อสร้างขึ้นรื้อแบบบนประตูทางเข้าวัด จ.กำแพงเพชร เคราะห์ร้ายถูกจั่วปูนที่กำลังหล่อหลุดมาทับหลัง จนหน้าคว่ำลงไปทับเหล็กแทงเข้าที่เหนือราวนมซ้าย เสียชีวิตบนนั่งร้าน ต้องใช้รถเครนยกศพลงมา มีเพื่อนคนงานบาดเจ็บอีกราย


เรื่องเล่าการเมือง

-วันนอร์ นัดโหวตนายกฯรอบสาม 27 ก.ค. หลังรัฐสภาตีตกชื่อพิธา


ในที่สุดที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวานก็มีมติตีตกชื่อนายพิธา หลังจาก 8 พรรคร่วมเสนอให้ที่ประชุมโหวตเป็นนายกฯอีกรอบ และประธานวันนอร์ ได้นัดโหวตนายกฯรอบสาม ในวันที่ 27 กรกฎาคม

การประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯเป็นรอบที่สองเมื่อวาน เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. โดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลให้ที่ประชุมเลือกเป็นนายกฯ อีกครั้ง

ซึ่งถูก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเดิม และ สว.ทักท้วงว่าเป็นการเสนอญัตติซ้ำ ขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 และเสนอเป็นญัตติต่อที่ประชุม

ขณะที่ สส.จาก 8 พรรคร่วม ก็แสดงความไม่เห็นด้วย โดยระบุว่าการโหวตเลือกนายกฯ ในที่ประชุมเป็นไปตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญ ไม่ถือว่าเป็นญัตติ จึงไม่มีปัญหาเรื่องญัตติซ้ำ

ทั้งนี้ สส.ก้าวไกล พยายามขอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมใช้อำนาจวินิจฉัย แต่นายวันนอร์ ไม่วินิจฉัย และอนุญาตให้แต่ละฝ่ายอภิปรายแสดงความเห็น หลังใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ประธานที่ประชุม คือ นายวันนอร์ ได้ขอมติจากที่ประชุม

สุดท้าย ที่ประชุมมีมติด้วยเสียงส่วนใหญ่ ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธาซ้ำ ด้วยคะแนน 395 เสียง ต่อ 317 เสียง งดออกเสียง 8 และไม่ลงคะแนน 1 เสียง

สำหรับ 395 เสียง ที่ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธาซ้ำ เป็นเป็นเสียงของอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดิม และเสียง สว. 210 คน

ส่วนเสียงที่เห็นว่าสามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้ นอกจากเสียงจาก 8 พรรค มี สว.มาโหวตให้ 8 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 13 สว.ที่โหวตให้นายพิธาในการเลือกนายกฯครั้งแรก ขณะที่ไม่ปรากฏชื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมโหวตด้วย

ต่อมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า จะนัดประชุมเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งถัดไป วันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. และย้ำว่าไม่สามารถเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตพรรคก้าวไกลได้อีกแล้ว



-ศาล รธน. รับคำร้องพิธา ปมถือหุ้นสื่อ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

อีกประเด็นใหญ่เมื่อวาน คือ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องคดีนายพิธาถือหุ้นไอทีวีไว้พิจารณา และสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

เมื่อวานคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมพิจารณาคำร้องกรณีที่ กกต. ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลง เนื่องจากกรณีการถือครองหุ้นไอทีวี หรือไม่ รวมทั้งคำขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

ภายหลังการประชุมนาน 2 ชั่วโมง ศาลรัฐธรรมนูญมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณา โดยให้นายพิธา ยื่นคำชี้แจงแก้เข้ากล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

และ มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 สั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. เห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธาอาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมรัฐสภาและที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ โดยสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

ซึ่งต่อมามีรายงานว่า 7 ตุลาการเสียงข้างมากที่เห็นชอบให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ได้แก่

1.นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ

2.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์

3.นายปัญญา อุชชาชน

4.นายอุดม สิทธิวอรัชธรรม

5.นายวิรุฬห์ แสงเทียน

6.นายจิรนิติ หะวานนท์

7.นายอุดม รัฐอมฤต

ส่วนที่ไม่เห็นชอบให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ สส. 2 ท่าน คือ

1.นายนภดล เทพพิทักษ์

2.นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์



-พิธา อำลาสภา หลังศาล รธน.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ก้าวไกล ร่ำไห้

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งคดีนายพิธา ก็ได้ส่งเอกสารคำสั่งศาลมาที่รัฐสภา ซึ่งต่อมานายพิธา ก็ได้ลุกขึ้นอำลาตำแหน่ง สส. ในที่ประชุมเอง

เวลา 14.44 ระหว่างการอภิปรายของที่ประชุมรัฐสภาเกี่ยวกับการโหวตนายกฯรอบสอง นายพิธา ได้ยกมือ และลุกขึ้นพูดอำลาสภา

ย้อนไปในช่วงก่อนเที่ยง ที่ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่มติออกมา ช่วงนั้นนายพิธา กำลังนั่งอยู่ในห้องประชุม

จากนั้น สส.ของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้เดินมาให้กำลังใจนายพิธา แต่สีหน้าของนายพิธา ก็ยังยิ้มได้และชูนิ้วโป้ง โชว์ให้สื่อมวลชน นอกจากนี้บางช่วงนายพิธาก็ได้เดินไปพูดคุยกับสมาชิกคนอื่น ๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม สส.พรรคก้าวไกล ต่างอยู่ในอาการโศกเศร้า โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ถึงกับหลั่งน้ำตาหลังจากทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้นายพิธา และ สส.คนอื่นๆของพรรคก้าวไกลต้องเข้ามาปลอบใจ และยังมีนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ส.ส. ระยอง ได้ร้องไห้เข้ามาสวมกอดนายพิธา รวมถึงนางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ ส.ส. กทม ของพรรค ก็ร้องไห้ด้วยเช่นกัน



-ก้าวไกล เตรียมหารือภายใน ก่อนแถลงท่าทีจัดตั้งรัฐบาล

เลขาธิการพรรคก้าวไกล มั่นใจนายพิธา ยังมีกำลังใจเต็มร้อย เตรียมหารือแกนนำพรรคถึงเรื่องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก่อนแถลงท่าที

ภายหลังการประชุมร่วมรัฐสภาซึ่งที่ประชุมตีตกชื่อนายพิธา ไม่สามารถเสนอโหวตซ้ำได้ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการให้สิทธินำจัดตั้งรัฐบาลแก่พรรคเพื่อไทย ว่า ยังต้องมีการพูดคุยกันก่อน และเชื่อว่าคงใช้เวลาในการพูดคุยไม่นาน เพราะมองว่า การได้นายกรัฐมนตรีเร็วที่สุด จะดีที่สุด ทั้งนี้พรรคก้าวไกลจะประชุมหารือกันก่อนที่จะแถลงท่าทีอีกครั้ง

นายชัยธวัช ยังระบุด้วยว่า มติที่ประชุมรัฐสภาที่ออกมา ไม่ได้เกินกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ส่วนกำลังใจของนายพิธา ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งมีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ สส. นั้น นายชัยธวัช เชื่อว่า นายพิธา ยังมีกำลังใจที่ดีเต็มร้อย



-เพื่อไทย นัดถกท่าที หลังพิธาชวดนายกฯ

แน่นอนว่า พรรคที่มีโอกาสพลิกมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คือ พรรคเพื่อไทย ต้องจับตาวันนี้ มีการนัดประชุมกำหนดท่าที หลังนายพิธา ไม่สามารถผ่านด่านการโหวตนายกรัฐมนตรีได้

ทั้งนี้เมื่อวาน หลังที่ประชุมรัฐสภา มีมติไม่สามารถเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ซ้ำรอบ 2 ได้ ทางพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ย้ำจุดยืนผ่านเพจ ระบุว่า

“พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ยืนยันความเห็นร่วมกันว่า การเสนอชื่อ “นายพิธา” เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้เป็นการเสนอญัตติซ้ำ แม้ที่ประชุมรัฐสภา จะลงมติว่าเป็นญัตติซ้ำ 395 เสียงต่อ 317 เสียง” ก็ย้ำ 141 เสียงพรรคเพื่อไทย ชัดเจนตลอดมา

แน่นอนว่าเมื่อนายพิธา ไม่สามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ ทำให้ครั้งต่อไปจะตกเป็นของ พรรคอันดับ 2 คือ เพื่อไทย

ซึ่งเมื่อวานนี้หลังประชุม ผู้สื่อข่าว สอบถามกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ว่ากังวลใจไหม ถ้าเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ครั้งแรกแล้วไม่ผ่าน ก็ยอมรับว่ากังวล บรรทัดฐานเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ที่จะโหวตซ้ำไม่ได้ และผู้บริหารพรรคต้องไปพูดคุยกับทาง สว.

ส่วนจะมีการปรับกระบวนทัพการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ เพราะ สว.ยืนกรานว่าถ้ามีพรรคก้าวไกลจะไม่โหวตให้ คุณสุริยะ ระบุว่า พรรคจะต้องกำหนดท่าทีและหารือกับพรรคร่วมกับ 8 พรรคด้วย ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันนี้ กรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรคเพื่อไทย จะมีการประชุม และกำหนดท่าทีของพรรคต่อไป



-อนุทิน บอกเจ็บคอ สงวนท่าทีจับขั้วรัฐบาลใหม่

อีกด้านมีการจับตาความเคลื่อนไหวของขั้วรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย 1 ในตัวแปรสำคัญ ซึ่งเมื่อวานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังสงวนท่าที หากมีการจับขั้วรัฐบาลใหม่

เมื่อวานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์หลังที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติไม่ให้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ในการโหวตนายกรัฐมนตรีซ้ำ ว่าถึงคิวพรรคอันดับ 2 นั่นคือ พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

ก็บอกว่า ต้องไปถาม 8 พรรคร่วมก่อน ส่วนเมื่อถามย้ำว่า หากพรรคเพื่อไทย ยังรวมกับพรรคก้าวไกลจะไม่ร่วมใช่หรือไม่ คุณอนุทิน ระบุว่า ก็เป็นไปตามที่ตนได้แถลงไว้ (จุดยืนของภูมิใจไทย คือ ไม่ร่วมกับพรรคที่จะแก้ไขมาตรา 112 และไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย)

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย มาทาบทามร่วมรัฐบาล จะมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายอนุทิน ปฏิเสธว่า ยังไม่ได้พูดคุยและไม่ได้คิดอะไรเลย ก่อนระบุว่า “วันนี้พอก่อน เจ็บคอ”

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ย้ำจุดยืนการเมืองของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า แนวทางชัดเจน จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 หากเป็นเช่นนี้ก็สามารถทำงานคุยกันได้

เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ คุณวราวุธ เลี่ยงตอบ ระบุว่า "เอาให้ถึงเวลานั้นก่อน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา"

ขณะที่ ธนกร วังบุญคงชนะ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พูดถึงท่าที หลังคุณพิธา ไม่ผ่านการโหวตนายกฯแล้ว ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยัน “ถ้าพรรคที่เป็นรัฐบาล ไม่แก้ไข มาตรา 112 ก็ไม่ขัดข้องที่จะพูดคุย” และเชื่อว่าหากเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กลไกต่างๆ จะง่ายขึ้น


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/VXDweMc-zYQ


คุณอาจสนใจ

Related News