พรุ่งนี้จับตากกต.ถกปมพิธาถือหุ้นไอทีวี ชงศาลรัฐธรรมนูญก่อนโหวตนายก 13 ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 66 มีรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักงาน กกต. กรณีมีผู้ยื่นร้องให้พิจารณาและส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 (ให้วินิจฉัยสมาชิกภาพสิ้นสุดลง) ว่าการที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล มีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) หรือไม่

โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้รวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย พยานหลักฐานต่าง ๆ และมีการประสานข้อมูลกับคณะกรรมการไต่สวน กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังคงลงสมัคร ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และมีรายงานว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ข้อกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมเสนอต่อที่ประชุม กกต. พิจารณาต้นสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ตามการประชุมประจำสัปดาห์ตามปก กคองคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จะประชุมทุกวันจันทร์และอังคาร แต่แหล่งข่าวระบุว่า จะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวในการประชุมวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.66) และคาดว่าที่ประชุม กกต. จะมีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้สำนักงานดำเนินการทันที

นอกจากนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว กกต.มีมติตั้งขึ้นเมื่อช่วงปลายมิ.ย. 66 ที่ผ่านมา หลังมีการยื่นคำร้องใหม่ของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เพื่อขอให้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส. นายพิธา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 และคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ชุดที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้นำหลักฐานเกี่ยวกับการถือหุ้นบริษัทไอทีวี รวมถึงข้อกฎหมายมอบให้กับ กกต. เพื่อหวังให้ กกต. ยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้เร็วขึ้น

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ของ กกต. จะเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อ กกต. เห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอก็สามารถมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ โดยก่อนมีมติจะเชิญหรือไม่เชิญนายพิธา ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงต่อ กกต. ก่อนหรือไม่ก็ได้

อย่างไรก็ตาม หาก กกต. มีมติและเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ที่ปกติจะมีการประชุมประจำสัปดาห์ในวันพุธ ซึ่งสัปดาห์นี้จะตรงกับวันที่ 12 ก.ค. 66 หากศาลรัฐธรรมนูญ รับวินิจฉัยและมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ไว้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย ย่อมมีผลต่อการโหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 ก.ค.นี้