ข่าวโซเชียล
โซเชียลส่งกำลังใจเด็ก 7 ขวบโพสต์ติ๊กต็อก ช่วยแม่ขายบ้าน ต้องการเงินไปผ่าตัด
โดย kanyapak_w
7 ก.ค. 2566
912 views
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านเลขที่47/729 ซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อพบกับ น.ส.อรวรรณ อายุ 49 ปี และด.ช.ภาคภูมิ อายุ 7 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 รร.บ้านหนองเพรางาย เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่น้องออกมาโพสต์ติ๊กต็อกให้ช่วยซื้อบ้าน แต่เมื่อมาถึงที่บ้านหลังดังกล่าว ทั้งคู่ได้เดินทางไปทำธุระ ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามทางโทรศัพท์
ส่วนบ้านที่ประกาศขายพบว่าเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ ชั้นเดียว หลังมุม ปากซอย 10 มีเนื้อที่ 17.9 ตารางวา 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตั้งราคาขายไว้ที่ ราคา 1.29 บาท โดยบ้านมีการปรับปรุงรีโนเวตไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมติดป้านประกาศขาย
สอบถาม นายชาย อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านตรงข้าม ทราบว่า เจ้าของบ้านมีอาชีพรับซื้อของเก่า และเก็บของเก่าเล็กๆน้อยๆทำกัน 2 คนแม่ลูก เพราะสามีเขาเลิกกันไป เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำกันตามอัตภาพเท่าที่มีทุน โดยมีรถกระบะเก่าๆคันนึง ก็ไม่ทราบว่ารถยังต้องผ่อนอยู่หรือเปล่าหรือซื้อเงินสด เวลาออกไปรับซื้อของเก่าก็จะเอาลูกไปด้วยหากวันไหนไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะเด็กหยุดเรียนบ่อย น่าจะเรียนอยู่ชั้น ป.1 หรือ ป.3 และเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ พูดไม่ชัด
สาเหตุที่เขาประกาศขายบ้านน่าจะมาจากหนี้สิน มีอาชีพที่ไม่แน่นอน และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะป่วย ก็ไม่ได้ไปถามเรื่องอาการ ตั้งแต่เขาย้ายออกไปก็ไม่เจอกัน น่าจะออกไปเช่าห้องเล็กๆอยู่ ส่วนบ้านหลังนี้เขาให้ช่างมาปรับปรุงเพื่อขาย ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เมื่อขายได้ถึงจะได้เงิน ชีวิตเขาก็มีค่าใช้จ่ายไหนจะค่าเช่าห้อง ก็อาจได้เจอเขาบ้างเมื่อเขาแวะเวียนมาเอาของที่คนเขาให้ร้านค้าเขาให้บ้าง หรือเขามาซื้อไปบ้างในหมู่บ้านนี้ เดิมที่เขาก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ บ้านหลังนี้เขาให้คนอื่นเช่าเพื่อจะได้มีรายได้ ส่วนตัวเองไปเช่าห้องเล็กๆอยู่ ก็พอมีรายได้สัดส่วนต่างเล็กน้อย
ด้าน น.ส.อรวรรณ แม่ของน้องภูมิ ที่โพสต์ขายบ้าน เปิดเผยว่า ที่ต้องประกาศขายบ้านเพราะต้องการเอาเงินมาผ่าตัดลูกชาย ที่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากบัตร 30 บาทประมาณ 15,000 บาทและตัวแม่ต้องหยุดงาน เพราะไม่มีใครดูแลน้อง แม่ต้องคอยดูแลพาลูกไปหาหมอ โดยลูกป่วยเป็นปากแหว่งเพดานโหว่มาตั้งแต่กำเนิด ต้องไปหาหมอบ่อยเลยมีค่าใช้จ่ายเยอะ เลยจำเป็นต้องขายบ้าน ปกติตนทำงานเก็บของเก่า ส่วนพ่อของลูกป่วยเป็นเส้นเลือดตีบพิการไปซีกนึงกลับไปพักรักษาตัวอยู่บ้านที่ จ.สุรินทร์
บ้านที่ขายตั้งราคาไว้ 1,290,000 บาท โดยขณะนี้ยังขายไม่ได้ ตนก็ต้องกู้เงินมาใช้ ตอนนี้มีหนี้สินอยู่รวมทั้งหมด 70,000 บาท ตอนนี้ตนก็ไปเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ โรงเรียนของลูก ที่เรียนอยู่ชั้นป.2 น้องก็ไปโรงเรียนบ้างไม่ไปบ้าง แต่ช่วงนี้ใกล้จะผ่าตัดกลัวว่าน้องจะไปติดเชื้อโรคอีก เพราะไม่อยากเลื่อนการผ่าตัด จึงไม่ให้ไปโรงเรียน เพราะลูกมีเลือดออกบ่อย หมอนัดผ่าตัดวันที่ 24 สิงหาคม 66 ที่โรงพยาบาลศิริราช
ที่ลูกเขาโพสต์ไหนติ๊กต๊อก ประกาศขายบ้านแบบนั้น เพราะลูกเขารู้ว่าตนเหนื่อย เขาคอยปลอบใจตนอยู่เรื่อยๆเวลาตนเครียด เขาก็เรียกแม่แล้วเข้ามากอด บอกว่าหนูสงสารแม่นะกินแต่พริก เขาก็แบ่งหมูมาให้ชิ้นนึง ก็อยากให้มีคนมาช่วยเหลือโดยการมาซื้อบ้านก็จะดี อยากจะขายบ้านได้เร็วๆ
ถามว่าเสียดายไหมตนก็เสียดายบ้านหลังนี้จริงๆ อยากจะเก็บไว้ให้ลูก แต่ไม่รู้จะทำยังไง โดยบ้านหลังนี้ซื้อมาแล้วประมาณ 3-4 ปี ซื้อเงินผ่อนในราคา 700,000 บาท โดยพ่อของลูกเขาเป็นคนจัดการ ซึ่งตอนขณะนั้นเขาเป็นคนขับรถสิบล้อให้โรงงาน มีรายได้พอที่จะผ่อนบ้าน ตอนนี้อาการของพ่อน้องเขาก็ต้องใช้ไม้เท้าเดินเขย่ง ส่วนรายได้ในครอบครัวตอนนี้ตนก็เก็บของเก่าขาย และเอาดอกไม้มาร้อยพวงมาลัยตอนเย็นและมืด รายได้ก็ไม่แน่นอนประมาณวันละ 300-400 บาท
ด้านการรักษาพยาบาลของน้องจริงๆได้สิทธิ์ 30 บาท แต่มีค่าเครื่องมือพิเศษที่คุณหมอแจ้งแม่มาประมาณ 15,000 บาท โดยรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช นอกจากปากแหว่งเพดานโหว่แล้วตอนนี้เขาคลอดมา หมอก็บอกว่า หัวใจเขาไม่ปิด รักษาที่ศิริราชโดยหมอบอกให้คอยดูอาการไป อาจจะปิดเองตอนโต
แท็กที่เกี่ยวข้อง