เลือกตั้งและการเมือง

“ส.ว.ดิเรกฤทธิ์” แนะ “พิธา” แถลงเรื่องที่ ส.ว.แคลงใจให้ชัดก่อนเลือกนายกฯ พร้อมขออย่ากดดัน ส.ว.

โดย paranee_s

6 ก.ค. 2566

282 views

ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ให้สัมภาษณ์รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ถึงการโหวตเลือกนายกฯ โดยระบุว่าตนยืนยันหลักการรัฐสภา ถ้าได้เสียงข้างมากในสภา ควรเลือกนายกฯที่มาจากเสียงข้างมาก


ส่วนเรื่องการดูคุณสมบัติเป็นเรื่องพ้นวิสัยการพิจารณาของเรา ถ้าศาลตัดสินไม่ทัน เราเลือกไปแล้ว เราเห็นว่ามีลักษณะต้องห้ามก็เป็นเรื่องเงื่อนเวลา เราจะไปก้าวล่วงการใช้อำนาจของศาลไม่ได้


นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ประกาศเจตนารมณ์ตรงนี้อย่างชัดเจนเพราะอยากจะประคับประคองประชาธิปไตยระบอบรัฐสภาไปให้ได้ ส่วนหน้าที่ของวุฒิสภา เราต้องฟังเสียงตรงนี้ ส่วนวุฒิสภาที่เป็นปลายน้ำ ท่านก็มีเหตุผลองค์ประกอบอื่นได้เหมือนกันเช่นเรื่องคุณสมบัติ หรือความสามารถในการขับเคลื่อนนโยบายประเทศให้อยู่ดีกินดีก็เป็นเหตุผลสำคัญ เพราะครั้งนี้เป็นการเลือกนายกฯ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ยังมี ส.ว.จำนวนมากที่ติติงนโยบายก้าวไกลเช่นกัน”


“ก่อนถึงวันเลือกหากเป็นไปได้คุณพิธา ที่มีเรื่องใด มีการตั้งคำถาม หากเป็นไปได้ก็ประกาศต่อสาธารณะให้ชัดเจนว่าจะขับเคลื่อนอย่างไร จะได้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายดิเรกฤทธิ์กล่าว


นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงเหตุผลของฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการโหวตนายพิธา โดยฝ่ายที่เห็นด้วยมองว่า การเสนอรายชื่อนายกฯ เป็นฝ่ายบริหาร เรื่องที่เรากังวล เป็นกระบวนการนิติบัญญัติเขาต้องมาขอแก้กฎหมาย หลายคนไม่เห็นด้วยก็ใช้อำนาจที่อยู่ในรัฐสภามาดำเนินการได้ ไม่แน่นใจว่าวาระจะผ่านหรือไม่ เพราะสมัยที่แล้วก็เคยตีตกอยู่แล้วเพราะขัดรัฐธรรมนูญ


ดังนั้นก็ไม่เห็นต้องกังวล ฝ่ายที่เห็นควรเลือกเพราะมองว่ามันเป็นสองเรื่องที่แยกจากกัน เป็นเรื่องการเลือกรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อน มีนโยบายที่ดีตั้ง 299 เราจะเอาที่ไม่ดีเรื่องเดียวมาหยุดยั้งหรือเปล่า และที่สำคัญ 312 เสียงเขาก็รู้จุดยืนคุณพิธา แต่เขาหาใช่ไม่รักสถาบัน หรือปล่อยใครมาทำลาย แต่เขาก็เห็นด้วยว่าเป็นคนละเรื่องเป็นเรื่องรัฐบาลกับนิติบัญญัติอ หากเอาสองเรื่องมาปนกันจะไม่เป็นธรรม และไม่รักษาระบบรัฐสภา


อีกฟากก็เห็นว่านโยบายสุดโต่งเรื่อง112 ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การแทรกแซงประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการชักศึกเข้าบ้าน การเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนมันสุดโต่งไปหรือไม่ สังคมไทยที่ดีงามไม่รักษาผลประโบชน์ไว้ให้ลูกหลาน เขามองว่าพฤติการณ์ปรากฏชัด มันมีหลักฐานบ่งชี้ ทำไมเราไม่ตัดไฟแต่ต้นล้ม ถ้าให้คนที่ประชาชนเชื่อมันไปนำพาประเทศไปในทางที่สุดโต่งจะทำให้บ้านเมืองแตกแยกหรือไม่ ทั้งสองฝ่ายก็มีเหตุและผล


ฝ่ายไม่เอาก็เยอะมากที่ออกมาแสดงความเห็น ผมก็ต้องเห็นใจและเข้าใจ หลายคนรับราชการมาเป็นทหารมาก็เยอะ เขาตายเพื่อประเทศก็ได้ เขาลำบาก มีเรื่องประเทศชาติสถาบันต้องยึดเหนี่ยว จะเค้นให้ตายเขาก็ไม่ยอมหรอกครับ เรื่องนี้เขาเห็นว่าหากคุณพิธาไม่ถอยเขาก็ไม่เลือกหรอกครับ


เมื่อถามว่ามีโอกาสได้ 376 ไหม นายดิเรกฤทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้น่าจะไม่ถึง


นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวอีกว่า การทำหนังสือขอชี้แจงหรือส่งคนไปพบ หรือการแถลงข่าวต่อสาธารณะสามารถทำได้ และจะทำให้ประชาชนเข้าใจ


“ประชาธิปไตยเรากำลังไปได้ดี เราต้องทำใจเป็นกลางและเข้าใจทุกบทบาทคนทำหน้าที่ อย่าไปดูหมิ่นดูแคลนเขา เพื่อให้เขาทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่มีใครหรอกที่ไม่รักชาติไม่อยากให้ประเทศพัฒนา ขอให้เคารพกัน และเมื่อองค์กรใดวินิจฉัยออกมาก็เคารพกัน” นายดิเรกฤทธิ์กล่าว


คนมีอำนาจหน้าที่หลายคนเขาไม่แสดงออกเพราะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม การออกมาแสดงคำวินิจฉัยหรือประกาศว่าจะเลือกหรือไม่เลือกใครบางทีก็อาจจะไม่ถึงเวลา ส.ว. ส่วนใหญ่ ออกสื่อไม่กี่คน คนที่เขานิ่งๆ เขาเก็บข้อมูลและรู้กาละเทศะว่าเวลาใดควรให้ข่าว


“การเลือกนายกฯ เป็นการเลือกโดยเปิดเผย เขาต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ชื่อเขาจะถูกจารึกไว้อยู่แล้ว” นายดิเรกฤทธิ์กล่าว


หากเราเอาความชอบเป็นตัวตั้ง และหากไม่ตรงใจและจะเคลื่อนไหวนอกกติกาทันทีบ้านเมืองมันไปต่อไปไม่ได้


ประชาธิปไตยไม่ใช่ปกครองโดยเสียงข้างมากอย่างเดียว แต่หลักใหญ่คือเสียงข้างมากที่เคารพเสียงข้างน้อย แต่หากมีการบีบบังคับเสียงข้างน้อยว่าต้องฟังเรา เราคือเสียงข้างมาก เมื่อนั้นจะเป็นปัญหา เสียงข้างน้อยในสภาเมื่อเขาสู้ไม่ได้เขาก็ชวนคนลงถนน วิธีหยุดประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรซ้ำรอย ประชาชนต้องนิ่ง ต้องอดทนพอเราต้องยอมรับคนอื่น เราเลือกมา แต่ถ้าคนที่เลือกเขาผิดกติกา ถูกกรรมการตัดสิน เราก็เลือกใหม่สิครับ เราก็แสดงพลังใหม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ