พบร่างแล้ว จนท.ราชภัฏฯ ถูกเพื่อนสนิทลวงฆ่าล้างหนี้ ทิ้งป่าข้างทาง

จากกรณีครอบครัวของนางดารัณ หรือป้าอ้อย อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี โพสต์ประกาศตามหาป้าอ้อย ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงบ่าย ของวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน โดยบอกเพื่อนร่วมงานว่า จะไปหาหมอที่โรงพยาบาล แล้วหายตัวไปไม่กลับบ้าน


โดยวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม ญาติ ๆ จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มหาวิทยาลัย พบว่า วันศุกร์ช่วงเที่ยง 48 นาที เห็นป้าอ้อยขี่จักรยานยนต์ไปแลกบัตรที่ป้อมยาม จากนั้นได้ขี่จักรยานยนต์ออกจากประตู 2 เลี้ยวขวาไปทางบ้านพุเลียบ ซึ่งเป็นเส้นทางไปตำบลแก่งเสี้ยน ไม่ใช่เส้นทางไปโรงพยาบาล ก่อนจะขาดการติดต่อไป


กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 3 กรกฎาคม มีคนไปแจ้งตำรวจว่า เจอบัตรประชาชนของป้าอ้อย และทรัพย์สิน มีทั้งกระเป๋าสะพาย น้ำหอม แป้ง ครีมกันแดด ไม้บรรทัด แฟลชไดรฟ์ เหรียญบาทจำนวนหนึ่ง มีดคัตเตอร์ ถูกเผาอยู่ใกล้ท่าน้ำบ้านท่าพะเนียด ตำบลแก่งเสี้ยน เมื่อตำรวจไปตรวจสอบ ยังพบกระป๋องน้ำมัน ตกอยู่ใกล้ ๆ ด้วย แต่ยังไม่เจอคน และจักรยานยนต์


ซึ่งคนที่พบทรัพย์สินบอกว่า เจอบัตรประชาชน และกองไฟเผาสิ่งของ ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ ที่พาลูกมาเล่นน้ำ แต่เพิ่งเห็นโพสต์ตามหาคนหายในวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม จึงเอะใจว่า ใช่คนเดียวกับที่เจอบัตรประชาชนหรือไม่ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงขี่จักรยานยนต์ไปดูอีกรอบ แล้วพบว่า เป็นชื่อเดียวกัน จึงแจ้งตำรวจ


ขณะที่หัวหน้างานบอกว่า ป้าอ้อย เป็นพนักงานราชการที่มหาวิทยาลัยมา 29 ปี ไม่เคยเกเร ไม่เคยขาดงานโดยไม่แจ้งเหตุผล แต่ยอมรับว่าลูกน้องมีหนี้สิน เพราะเพิ่งออกรถ 3 คัน แต่ไม่รู้ว่าเอารถไปใช้ส่วนไหน เพราะเห็นป้าอ้อยยังใช้จักรยานยนต์ในการเดินทาง


กระทั่งเมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ไปเจอรถจักรยานยนต์ฟีโน่ ของป้าอ้อยจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ที่ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.สาว เพื่อนร่วมงานคนสนิทของป้าอ้อย


ขณะเดียวกัน ยังได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของป้าอ้อย ก่อนปิดเครื่อง พบว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ น.ส.สาว เป็นสายสุดท้าย ตำรวจจึงคุมตัวนางสาว มาสอบปากคำ โดยมี พลตำรวจตรี ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี มาสอบสวนด้วยตัวเอง


ตอนแรก น.ส.สาว ยังปากแข็ง ยอมรับเพียงว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ได้ขับรถเก๋งไปกับนายกอล์ฟ ไปรับป้าอ้อยที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในตำบลลาดหญ้า แล้วอ้างว่าจะพาไปหานายทุน ที่จะช่วยปลดหนี้ค่าผ่อนรถให้ อยู่ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จากนั้นนายกอล์ฟเป็นคนนำบัตรประชาชนไปทิ้ง และเอาทรัพย์สินไปเผา ที่ท่าน้ำบ้านท่าเพนียด ตำบลแก่งเสี้ยน ซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่อ แต่ก็ต้องปล่อยตัวกลับบ้านไปก่อน โดยระหว่างเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม เรื่องที่ป้าอ้อยหายตัวแต่ น.ส.สาว ไม่ยอมปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น


ล่าสุด เช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากตำรวจว่า น.ส.สาว เข้ามาพบตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกับรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายกอล์ฟ ฆ่าป้าอ้อย ล้างหนี้ แล้วนำศพไปทิ้งที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยยังบอกอีกว่า ที่ต้องมารับสารภาพ เพราะถูกวิญญาณป้าอ้อยอาฆาต มาตามหลอกหลอน จนนอนไม่หลับ ทำให้เกิดอาการเครียด จึงตัดสินใจไปสารภาพความผิดกับตำรวจ


จากนั้นตำรวจนำตัว น.ส.สาว ไปชี้จุดนัดพบ ที่ปั๊มน้ำมันในตำบลลาดหญ้า ก่อนจะไปชี้จุดทิ้งศพ ซึ่งล่าสุด พบศพป้าอ้อยแล้ว ถูกทิ้งอยู่ในป่าข้างทาง ริมถนนสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ บริเวณบ้านท่าสนุ่น หมู่ 4 ด่านแม่แฉลบ ซึ่งอยู่ก่อนถึงแพขนานยนต์ ที่จะข้ามไปตัวอำเภอศรีสวัสดิ์ ซึ่งจุดที่พบศพ อยู่ห่างจากปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นจุดนัดพบถึง 110 กิโลเมตร หลังจากชี้จุดเสร็จ กำลังนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมขยายผลจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง


สำหรับข้อมูลความเกี่ยวพันระหว่างป้าอ้อย กับ น.ส.สาว ที่นำไปสู่การฆ่าล้างหนี้ พบว่า อาจมีเอี่ยวกับแก๊งค้ารถเถื่อน โดย น.ส.สาว ชักชวนให้ป้าอ้อยดาวน์รถให้ โดยได้ค่าตอบแทนเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งป้าอ้อยดาวน์รถไปทั้งหมด 3 คัน


ขณะเดียวกัน ได้มีการตรวจสอบทรัพย์สินของป้าอ้อย พบว่า ได้กู้ยืมเงินมหาวิทยาลัย, หนี้จากการดาวน์รถยนต์ 3 คัน, หนี้จากการเอาบ้านเข้าธนาคาร และยังมีหนี้สินอื่น ๆ อีก