สามี-ภรรยา โร่แจ้งความ ถูกตัวแทนขายสีย้อมผม สั่งของแต่ไม่จ่ายเงิน มูลค่าเกือบ 5 แสน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค.2566 นางมาริษา อายุ 30 ปี พร้อมด้วยสามี นำหลักฐานมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว เป็นสินค้าประเภทสีย้อมผมยี่ห้อดัง พร้อมข้อความแชทไลน์กลุ่มของตัวแทนจำหน่ายสีย้อมผมยี่ห้อดังกล่าว โดยมีนางมาริษา ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสีย้อมผม กับตัวแทนคนอื่นๆอีกหลายคนรวมอยู่ด้วย โดยเฉพาะนางสาวเปมิกา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งนางมาริษา ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.แวงน้อย เอาผิดฐานฉ้อโกง โดยมีหลักฐานการพูดคุยสั่งออเดอร์กันภายในไลน์กลุ่มตัวแทนจำหน่าย ซี่งเป็นการพูดคุยด้วยดีตั้งแต่เริ่มต้นระหว่างนางมาริษากับนางสาวเปมิกา ก่อนจะเริ่มมีการทวงถามหาเงินค่าสินค้าที่สั่งกระทั่งมีการโต้เถียงกันและไม่ยอมจ่ายเงินที่ค้างชำระรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 467,204 บาท และหลักฐานการจ่ายเงินบางส่วน และหลักฐานบัญชีสั่งซื้อสั่งจ่ายสินค้าและชำระสินค้า รวมสินค้าที่สั่งเป็นสีย้อมผมทั้งหมด 8,503 กล่อง มูลค่ารวม 538,204 บาท โดยนางเปมิกา มีการชำระให้กับนางมาริษาทั้งหมด 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 71,000 บาท ที่นางสาวเปมิกาจ่ายมาให้ก่อนหน้านี้บางส่วน



นางมาริษา ผู้เสียหายเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตัวเองเป็นตัวแทนจำหน่ายสีย้อมผมยี่ห้อนี้มานานแล้ว และนางสาวเปมิกาก็เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนร่วมอาชีพ โดยตนเองเห็นเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา นางสาวเปมิกาประกาศรับออเดอร์สีย้อมผมจำนวนมาก เนื่องจากลูกค้าต้องการเยอะ ตนเองจึงเสนอขายให้โดยให้เครดิต 15 วัน เพราะถือใจซื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน แต่เห็นมีการขายตลอด จึงเสนอตัวเข้าไปถาม ก่อนจะมีการพูดคุยและสั่งสินค้าเป็นสีย้อมผมยี่ห้อดังกล่าวจำนวน 8,503 กล่อง เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 538,204 บาท และไปส่งให้กับนางสาวเปมิกา ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยได้ขนสินค้าใส่รถยนต์ขนสินค้า 2 คัน ขับไปส่งถึงที่พร้อมกับยกลงให้จนหมดทุกกล่อง โดยนางสาวเปมิกาได้มีการจ่ายเงินที่สั่งมาเพียง 71,000 บาท โดยแบ่งจ่ายมา 4 ครั้ง และยังเหลืออีกจำนวน 467,204 บาท โดยช่วงแรกที่ยังไม่ทวงนั้นยังเป็นช่วงที่ให้เครดิต 15 วัน พอหลังจากครบ 15 วันก็ยังไม่มีการติดต่อมาจ่าย จึงสอบถามไปก็พูดปัดไปว่าลูกค้ายังไม่โอนบ้าง ยังเก็บเงินไม่ได้บ้าง สารพัดเหตุผลมาพูด กระทั่งวันสุดท้ายที่ยังติดต่อได้คือวันท่า 26 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา มีการทวงเงินไปว่าจะโอนหรือไม่โดน แต่พบว่านางสาวเปมิกาอ่านแต่ไม่ตอบ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความในวันที่ 27 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีกับนางสาวเปมิกา ในข้อหาฉ้อโกง


นางมาริษา เปิดเผยอีกว่า ในช่วงที่จะมีการตกลงซื้อขายให้นั้น มีการตกลงจ่ายเงินว่าให้เครดิต 15 วัน นับจากวันส่งของ โดยให้ราคาสีย้อมผม 8,000 กล่อง กล่องละ 63 บาทต่อกล่อง สีกัด 503 กล่อง กล่องละ 68 บาทต่อกล่อง จัดส่งให้ฟรี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นที่นางสาวเปมิกาจะต้องจ่ายจำนวนนวน 538,204 บาท ก่อนจะขับรถยนต์ขนส่งสินค้าให้ถึงที่ พร้อมกับถ่ายบิลสินค้าให้นางสาวเปมิกาดูเพื่อตรวจสอบก่อนรับสินค้าทั้ง 2 ครั้ง โดยนางสาวเปมิกากับแฟนหนุ่มได้ทำการตรวจสอบและเช็คสินค้าทั้งหมดครบตามที่สั่งก่อนและจ่ายเงินให้ทั้ง 2 ครั้ง เป็นเงิน 50,000 บาท ในวันที่ 9 มิ.ย.66 ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย.2566 ตนเองทวงถามยอดไปเพราะนางสาวเปมิกาบอกจะจ่ายก่อนกำหนด ซึ่งนางสาวเปมิกาบอกกลับมาว่าใช่จะจ่ายก่อนกำหนดตามเครดิต 15 วัน ไม่เกิน 22 มิ.ย.2566 และบ่ายเบี่ยงไป จนวันที่ 21 มิ.ย.2566 ตนเองแจ้งทางนางสาวเปมิกาว่าให่เตรียมเงินทั้งหมดไว้ให้ด้วย ซึ่งนางสาวเปมิกาบอกว่าเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เหลืออีกแสนกว่าบาท ปิดจ๊อบรอลูกค้ามาเอาของ แต่จนครบวันกำหนดตกลงปิดยอดวันที่ 22 มิ.ย.2566 นางสาวเปมิกา ก็ยังคงบ่ายเบี่ยง อ้างว่านำของไปขายให้ลูกค้ารอเงินอยู่เพราะเป็นเพื่อนกัน แต่เกิดปัญหายังไม่ยอมโอนเงินให้ ตนเองจึงใช้ไม้แข็งเพราะเริ่มเอะใจและทราบข้อมูลมาบ้างว่านางสาวเปมิกามีพฤติกรรมแสบแบบนี้ก่อเหตุกับตัวแทนด้วยกันอีกหลายคน จึงพูดแข็งข้อไปทำให้นางสาวเปมิกาโอนเงินมาให้ แต่โอนมาเพียง 21,000 บาท สรุปครบกำหนดเครดิต 15 วัน ต้องปิดยอดทั้งหมด 538,204 บาท แต่นางสาวเปมิกาจ่ายมาเพียง 71,000 บาท ยังค้างอยู่ทั้งสิ้น 467,204 บาท ซึ่งก็มีการทวงถามเรื่อยมาจนกระทั่งครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2566 ทวงถามไปในไลน์อ่านแต่ไม่ตอบและติดต่อไม่ได้อีก จึงเข้าแจ้งความดังกล่าว


“ตอนนี้ตนเองและสามีเครียดมาก เพราะเงินลงทุนซื้อของกว่า 5 แสนบาทนั้นทั้งเงินเก็บก้อนสุดท้ายในชีวิต และไปกู้หนี้ยืมสินจากเพื่อนๆมาลงทุนเพราะหวังว่าจะได้กำไรจากการทำงาน แต่สุดท้ายด้วยควาใจซื้อ ก็ถูกบ่ายเบี่ยงไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ทำให้ตอนนี้ต้องเดือดร้อนเป็นหนี้ต้องหาเงินมาใช้หนี้ทั้งหมด อยากวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามดำเนินคดีและเอาเงินคืนมาให้ด้วย”