สังคม

ตำรวจรวบ 2 โจ๋รุมทำร้ายเด็กพิเศษวัย 15 ปี บังคับกราบเท้าขอโทษ

โดย paranee_s

1 ก.ค. 2566

351 views

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า จากกรณีที่ได้มีการเผยแพร่คลิปเด็กพิเศษโดนวัยรุ่น 2 คนรุมกระทืบเตะต่อยอย่างโหดเหี้ยมทารุณและบังคับให้เหยื่อไปกราบเท้าขอโทษเพื่อนของตนเองที่นั่งอยู่ ซึ่งภาพคลิปดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์สร้างความเศร้าสลดใจให้กับประชาชนที่ได้ชมเป็นอย่างมาก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ย์ถึงความโหดร้ายของวัยรุ่นกลุ่มนี้กันอย่างกว้างขวาง


ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นางสะอาด อายุ 52 ปี ชาวหมู่ 1 บ้านไพร ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้นำตัว น้องบ็อก (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เด็กพิเศษโดนกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายมาพบกับ ร.ต.อ.พิชิต โพธิทัต ร้อยเวรสอบสวน สภ.ไพร เจ้าของคดี เพื่อทำการสอบปากคำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประกอบสำนวนคดี โดยมีเจ้าหน้าที่ของบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังการสอบปากคำในครั้งนี้ด้วย


จากการสอบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามรุ่นพี่คนหนึ่งให้เข้าไปที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ เพื่อไปเอาสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรจึงมีวัยรุ่น 2 คนเข้ามารุมทำร้ายร่างกายของตนและบังคับให้เข้าไปกราบเท้าขอโทษ นายหนำ (นามสมมุติ) เจ้าของบ้าน


จากนั้น ตนได้ออกจากบ้านที่เกิดเหตุและขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้าน ซึ่งตนไม่ทราบว่า สาเหตุที่ตนโดนทำร้ายเกิดจากสาเหตุใด ที่ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณปาก ใบหน้า และตามร่างกายหลายแห่ง


นางสะอาด อายุ 52 ปี แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนได้เห็นคลิปภาพในสื่อโซเชียลที่มีเพื่อนบ้านนำเอามาให้ดูเหตุการณ์ที่ลูกชายของตนโดนรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งทำให้ตนแทบหัวใจสลายที่เห็นลูกรักโดนรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมทารุณ แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์โดนทำร้ายร่างกาย แต่ว่าลูกชายของตนซึ่งเป็นเด็กพิเศษก็ไม่ยอมบอกตนว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ตนเห็นร่องรอยบาดแผลที่โดนทำร้ายร่างกาย ดังนั้น ตนจึงได้นำลูกชายมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ไพร เมื่อประมาณวันที่ 29 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา เพื่อให้พนักงานสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ร.ต.อ.พิชิต โพธิทัต ร้อยเวรสอบสวน สภ.ไพร เจ้าของคดี กล่าวว่า คดีนี้ตนได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ซึ่งได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน เร่งติดตามไล่ล่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ ซึ่งทราบชื่อทั้งหมดแล้ว เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นจะได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บและกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อจากบรรดาผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้วว่า จะนำตัวผู้ก่อเหตุ ประกอบด้วย นายน้ำ นายเด และนายหนำ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุเพื่อมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในวันนี้


และเมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่ติดตามจับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 คนประกอบด้วย นายหนำ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และ เด็กชายเดย์ อายุ 15 ปี โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของทั้ง 2 คนจากนั้นได้นำตัวมาพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรไพร เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย


จากสอบสวนเบื้องต้น นายหนำ อายุ 18 ปี ให้การว่าวันเวลาเกิดเหตุเป็นเวลา 02.00 น. ของคืนวันที่ 30 มิถุนายน 2566 โดยขณะเกิดเหตุพวกตนประกอบด้วย เด็กชาย อายุ 15 ปี หนุ่ม อายุ 16 ปี และเด็กชายบ็อก อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย เด็กชายปอนด์ อายุ 15 ปี เพื่อนของนายบ็อก เด็กหญิงเกด อายุ 15 ปี เพื่อนสาวคนสนิทของเด็กชายน้ำและตน ได้พากันมารวมตัวกันอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุเพื่อเล่นเกมและดื่มน้ำกระท่อม


ต่อมาปรากฏว่าเด็กชายบ็อกได้เดินเข้าไปในห้องนอนภายในบ้านของตนที่เด็กหญิงเกดนอนอยู่ โดยเด็กชายบ็อกได้เข้าไปนั่งที่หัวเตียงไปพูดเล่นหยอกล้อก่อกวนเด็กหญิงเกด ซึ่งเด็กหญิงเกดได้ลุกเดินออกมาเล่าให้เด็กชายน้ำและพวกตนทราบเรื่อง


และเด็กชายบ็อกได้เดินออกมาจากห้องนอนและได้ออกมาพูดจาก่อกวนพวกตน บอกว่าจะนำเอาปืนมายิงพวกตนทั้งหมด อีกทั้งเด็กชายบ็อกพูดจาไม่ให้เกียรติพวกตนที่เป็นรุ่นพี่ ซึ่งขณะนั้นพวกตนไม่ทราบว่า เด็กชายบ็อก เป็นเด็กพิเศษจึงพูดจาวกวนตลอด ทำให้พวกตนไม่พอใจ เนื่องจากว่าได้รับการบอกเล่าจากเด็กหญิงเกดแล้วว่านายบ็อกเข้าไปก่อกวนในห้องนอน


ดังนั้นเด็กชายเดย์ จึงลุกขึ้นไปเตะต่อยนายบล็อกที่กำลังจะเดินออกไปหลังบ้าน ตนกับเด็กชายน้ำจึงได้เข้าไปร่วมกันเตะต่อยเด็กชายบ็อกด้วย โดยมีเด็กชายปอน เพื่อนของเด็กชายบ็อก เป็นคนถ่ายคลิป


จากนั้น เด็กชายปอน ได้นำเอาคลิปไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้มีการวิพากวิจารณ์เรื่องนี้ไปอย่างกว้างขวางมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก จึงกราบขอโทษพ่อแม่ของเด็กชายบ็อก และขอโทษสังคมที่ตนได้ก่อเรื่องไม่ดีแบบนี้ขึ้นมา ตนขอรับสารภาพผิดทุกข้อกล่าวหา


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ เขตตำบลโพธิ์วงศ์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่าบ้านที่เกิดเหตุประตูด้านหน้าบ้านปิดสนิท ซึ่งป้าของนายหนำและเพื่อนบ้านได้นำผู้สื่อข่าวเดินเข้าประตูหลังบ้านที่เปิดอยู่ เมื่อเข้าไปในบ้านพบว่า ภายในบ้านมีหม้อต้มใบกระท่อมตั้งอยู่ ยังมีน้ำกระท่อมเหลืออยู่เล็กน้อย และพบจุดมุมห้องที่เด็กชายบ็อกถูกรุมกระทืบก่อนที่จะคลานเข้าไปกราบขอโทษนายหนำที่นั่งอยู่ใกล้กัน


จากการสอบถาม นายกลั่น อายุ 80 ปี อยู่บ้านติดกับที่เกิดเหตุและเป็นตาของนายหนำ กล่าวว่า เป็นประจำทุกวันตนจะเห็นกลุ่มเพื่อนของนายหนำพากันมามั่วสุมรวมกลุ่มกันดื่มน้ำใบกระท่อม ซึ่งตนได้ตักเตือนนายหนำไปว่า ไม่ควรที่จะมั่วสุมกับเพื่อนมาก เพราะว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นได้ โดยนายหนำเคยนำเอาน้ำกระท่อมมาให้ตนทดลองดื่มด้วย แต่ว่าตนไม่ชอบเพราะว่า มันหวานมาก ช่วงเกิดเหตุตนไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด เนื่องจากว่า ตนอายุมากแล้วสายตามองไม่เห็นด้วย


นางศรี อายุ 57 ปี ป้าของนายหนำ กล่าวว่า พ่อแม่ของนายหนำแยกทางกัน ทิ้งให้นายหนำอาศัยอยู่เพียงคนเดียวในบ้าน ส่วนแม่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ตนจะไปนอนที่นาเพื่อหาอาหารมาให้นายหนำกับนายกลั่น กินเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากนายหนำคบเพื่อนมาก ตนเคยเตือนนายหนำหลายครั้งแล้ว แต่นายหนำไม่เชื่อฟัง และขณะนี้นายหนำกำลังเรียนหนังสือชั้น ม.6 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งแต่ว่านายหนำไม่ยอมไปเรียนหนังสือแต่อย่างใด เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนเด็กชายบ็อก ผู้เสียหาย ร.ต.อ.พิชิต โพธิทัต ร้อยเวรเจ้าคดี ได้นำตัวไปทำการสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เพื่อประกอบสำนวนคดี ส่วน เด็กชายน้ำ ผู้ต้องหาอีก 1 คนนั้น ญาติได้ติดต่อมายังพนักงานงานสอบสวนแล้วแจ้งว่า จะนำตัวเด็กชายน้ำมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรไพรในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.66)

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ