รวบหนุ่มสายมูตระเวนวิ่งราวทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ-ห้างฯดัง 8 แห่งตลอด 2 ปี

ที่ จ.อุบลราชธานี พ.ต.อ.คนองฤทธิ์ ดาราช ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ท.ณัฐกร พลภักดี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวน นำตัวนายพันธ์ธารา อายุ 36 ปี ชาวบ้านตำบลโนนโหนน อำเภอวารินชำราบ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 191/2566 เข้าจับกุมนายพันธ์ธารา ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ขณะที่ญาติของนายพันธ์ธาราพามาพบชุดสืบสวนที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี




ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น.(28 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านโลตัส (แจระแม) ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี พบชายต้องสงสัยลักษณะคล้ายกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ร้านโลตัส สาขาดอนกลาง และสาขาชยางกูร 42 เมื่อเดือนก่อน ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ




ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงชายต้องสงสัยไหวตัว รีบขับรถจักยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็วโดย และเป็นจังหวะที่สายตรวจ 191 ขับรถจักรยานยนต์สวนมาจึงเรียกจอด แต่ชายดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่ติดตามไปตามถนนแจ้งสนิท บ้านทุ่งบูรพา มุ่งหน้าด้านหลังสวนสัตว์อุบลราชธานี ซึ่งเป็นถนนเป็นดินลูกรังทำให้รถจักรยานยนต์ของผู้ต้องสงสัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มที่ไล่ติดตามล้ม เจ้าหน้าที่พยายามวิ่งคว้าตัวแต่ไม่ทันได้เพียงกระเป๋าเป้สะพาย 1 ใบ







จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าพบ โทรศัพท์มือถือ วิกผม หมวก รองเท้าผ้าใบสีขาว เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว ของนายพันธ์ธารา ที่มีลักษณะตรงกันกับคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ห้างฯ ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน จนมั่นใจว่าคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ คือนายพันธ์ธารา จึงได้ขออนุมัติหมายจับดังกล่าว







หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามออกติดตามประสานญาติ และ ภรรยาของนายพันธ์ธารา ให้เข้าพบชี้แจงเรื่องกระเป๋าที่พบจนนายพันธ์ธาราเข้ามาแสดงตัวเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายจับพร้อมทั้งควบคุมตัวสอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามภาพวงจรปิดเคยก่อเหตุ ร้านสะดวกซื้อและห้างฯ รวม 8 คดี







นายพันธ์ธารา เปิดเผยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าตนเองต้องการเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวเลี้ยงดูลูกชาย 2 คน ดูแลภรรยาและ แม่ที่ป่วยโรคไตอีกทั้งติดการพนันออนไลน์ จึงได้ตัดสินใจลงมือวิ่งราวร้านสะดวกซื้อ โดยก่อนจะลงมือแต่ละครั้งตนจะมีการศึกษาเส้นทางการก่อเหตุจากแอปพลิเคชันออนไลน์ (แผนที่ 3D) ศึกษาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างละเอียดหาข้อบกพร่อง ปลอมตัวด้วยการใส่วิกผม เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังก่อเหตุ และที่สำคัญก่อนจะออกก่อเหตุจะต้องจุดธูป 9 ดอกดูยามอุบากอง ก่อนลงมือทุกครั้งแต่ครั้งนี้ตนอยากลองแบบไม่จุดธูปดูฤกษ์ถึงทำโดนจับ







ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่านายพันธ์ธารา นอกจากจะสายมูแล้ว ยังมีการศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยจะไม่ใช้ความรุนแรง พูดจาไพเราะขอโทษผู้เสียหาย ไม่ใช้อาวุธ ไม่ใช้ยานพาหะนะในการก่อเหตุและหลบหนี เพื่อความผิดจะไม่มีบทลงโทษที่รุนแรง