โจรแสบเปิดรั้วบ้านเข้ามาขโมยของ เก็บเศษเหรียญในรถ เอาไปยันกระเป๋านักเรียนลูกผู้เสียหาย

ภาพวงจรปิดภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ซอยประชาสรรค์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ที่ น.ส.ปารุดา อายุ 30 ปี นำมาให้ผู้สื่อข่าวดู เผยให้เห็นชายลักษณะผอมสูง ไว้หนวดเครา ใส่หมวก เปิดประตูรั้วหน้าบ้าน ก่อนจะเดินเข้ามาเปิดรถที่จอดไว้ ขโมยเศษเหรียญที่อยู่หน้ารถ และยังขโมยกระเป๋านักเรียนของลูกสาว ที่ภายในมีหนังสือเรียน สมุดจดการบ้าน และใบงานไป ซึ่งหลังก่อเหตุโจรรายนี้ได้เดินออกไป และปิดประตูรั้วของบ้านหลังดังกล่าว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ช่วงเวลาประมาณตีสี่ ของวันที่ 29 มิถุนายน 2566

น.ส.ปารุดา เปิดเผยว่า ช่วงเช้าของวันนี้ ตนเองกำลังจะขับรถออกไปส่งลูกสาววัย 10 ขวบ นักเรียนชั้นป.5 ไปโรงเรียน แต่ก็หากระเป๋าเป้นักเรียนของลูกสาวไม่เจอ หาในบ้านแล้วก็ไม่พบ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายกระเป๋านักเรียนของลูกสาวอยู่ในรถ แต่เมื่อหาในรถก็ไม่มี จึงรู้สึกแปลกใจ ให้สามีคือนายอาคม อายุ 43 ปี เปิดกล้องวงจรปิดดูว่าตอนเย็นตนเองได้นำกระเป๋าลูกเข้าไปในบ้านไหม แต่เมื่อกำลังย้อนกล้องวงจรปิดดู ก็ต้องตกใจพบถึงความผิดปกติ เมื่อมีชายรายหนึ่ง เปิดประตูรั้วยามดึก เดินเข้ามาในบ้านของตน ก่อนจะเปิดประตูหลังรถค้นหาของมีค่า

จากนั้นได้เปิดประตูฝั่งคนขับแล้วปิดประตู เข้าไปรื้อหาเศษเหรียญที่ได้ใส่ไว้ แต่พอโจรรายนี้เปิดประตูออกมา ก็พบว่าถือกระเป๋าเป้ของลูกสาวออกมาด้วย ก่อนจะเดินออกไปปิดรั้วแล้วก็เดินหายไป ตนเองไปส่งลูกแบบไม่มีกระเป๋านักเรียน พร้อมบอกลูกสาวว่าไปวางลืมทิ้งไว้ที่ไหนหรือเปล่า เพราะไม่อยากให้ลูกรู้และตกใจ ก่อนจะโทรศัพท์ไปบอกครุประจำชั้น ว่าเกิดเหตุสุดวิสัยกระเป๋านักเรียนของลูกสาวถูกขโมย ซึ่งลูกสาวเองหลังกลับมาก็ยังวิตกกังวลว่าจะเอาใบงานที่ไหนไปส่งครู และการบ้านที่ต้องทำ ตนเองก็เลยบอกลูกกลับไปว่าแม่ได้คุยกับคุณครูให้แล้ว ทำให้ลูกสาวเบาใจลง

ส่วนตัวเองกับกับสามี รู้สึกไม่ปลอดภัยขนาดเป็นบ้านตัวเองแท้ ๆ ปกติไม่เคยล็อครั้วประตูแต่อย่างใด นี่ถ้าเกิดดึกๆ ตนเองหรือคนในบ้านเปิดประตูออกมาเอาของ แล้วเจอกับโจรจะๆ แบบนี้ก็ไม่กล้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นภัยสังคมที่น่ากลัวมากถึงแม้โจรรายนี้ จะไม่ได้เอาของมีค่าอะไรไปมากมาย ซึ่งพรุ่งนี้เช้าหลังส่งลูกสาวไปโรงเรียนเสร็จ ก็จะเดินทางไปแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะไม่รู้ว่าจะออกไปก่อเหตุที่ไหนอีกหรือไม่