สังคม

ผวา! เจ้หงส์ พิตบูลคลั่ง ทุบศีรษะแม่ปางตาย

โดย onjira_n

28 มิ.ย. 2566

588 views

จากกรณีของ “เจ๊หงส์ พิตบูล” ที่เคยตกเป็นข่าวดังในช่วงปี 2563 ว่า เธอนำสุนัขพิตบูล 7 ตัว เข้ามาเลี้ยงอยู่ในห้องพักของคอนโคแห่งหนึ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคานให้กับผู้พักอาศัยอย่างมาก ต่อมาในช่วงปี 2564 “เจ๊หงส์ พิตบูล” ยังคงก่อเรื่องอีก โดยนำซาก “น้องภูริดา” อายุ 3 ปี สุนัขพิตบูลที่ตายมาแล้ว 3 วัน ไปใส่ไว้ในรถเก๋ง และจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ของคอนโด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว ก่อนที่ในเดือนถัดไป “เจ๊หงส์ พิตบูล” ยังสร้างวีรกรรมอย่างต่อเนื่อง สวมชุดคล้ายนักเรียนญี่ปุ่น เข้าไปขโมยโทรศัพท์ iphone11 และ Airpods pro แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ก่อน




กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฎว่า  “เจ๊หงส์ พิตบูล” ก่อเรื่องอีกแล้ว ครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นใช้พระพุทธรูปปั้นปูน ขนาดหน้าตัก 20 นิ้ว ทุบหัวแม่บังเกิดเกล้าตัวเอง จนหัวแตกเป็นแผลใหญ่เห็นเนื้อสมอง ต้องนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 3 วัน และยังโยนองค์ท้าวเวสสุวรรณปูนปั้น ลงมาจากห้องพักที่ชั้น 9 โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น



ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่ไปยังคอนโดที่เกิดเหตุ ย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี  โดยคอนโดแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ตึก ตึกละ 15 ชั้น

“เจ๊หงส์” อาศัยอยู่ ชั้น 9 ตึก 2 หรือ ตึกบี และในชั้น 9 มีห้องพักของ “เจ๊หงส์” และลูกบ้านอีก 1 ห้องเท่านั้น



ทีมข่าวสอบถามข้อมูลจากนางสาวกัลยกร เหล่าประเสริฐ เจ้าหน้าที่นิติประจำคอนโด ระบุว่า ทางนิติฯ เอง ไม่มีสิทธิที่จะไปไล่ “เจ๊หงส์” ออกจากคอนโด เนื่องจากกรรมสิทธิ์ของห้องพักเป็นของ “เจ๊หงส์” ที่ได้ซื้อไว้เมื่อประมาณปี 2562-2563 ในราคาหลักแสนบาท



ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องเจ๊หงส์เมื่อปี 2563 ก็ได้กลับมาอยู่ที่หอพักแห่งนี้ตามปกติ แต่ที่เห็นบ่อยๆ คือ ในช่วงปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบัน โดยจะเห็น “เจ๊หงส์” เดินมาเล่นข้างล่างช่วงค่ำๆ บางครั้งก็พาน้องสุริยะ อายุ 3-4 ปี หมาพิตบูลลงมาเดินเล่นด้วย แต่ประเด็นหลักในตอนนี้ทางนิติฯ ไม่ได้ติดใจในประเด็นของพิตบูล แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้พา “เจ๊หงส์” ไปรักษาอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่า “เจ๊หงส์” อาจมีอาการทางจิต



โดยนางสาวกัลยากร เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนว่าที่ “เจ๊หงส์” ใช้ พระพุทธรูปปูนปั้น ทุบไปที่ศรีษะแม่หลายครั้ง จนเห็นไขมันในสมอง น่าจะมาจาก มีปากเสียงทะเลาะ อะไรกันบางเรื่อง และแม่คงไปพูดจี้จุดเจ๊หงส์จนทำให้อารมณ์ขึ้น ซึ่งคนที่แจ้งความเป็นคนแรก คือ “แม่” เอง



โดยตำรวจเองได้มีการอัดคลิปเสียงแม่เอาไว้ตอนแจ้งเรื่อง โดยแม่พูดว่า “ช่วยด้วย อย่าทำแม่เลย” เหตุการณ์วันนั้นเมื่อตำรวจมาถึงได้เดินขึ้นไปพร้อมกับทางนิติคอนโดทันที และสามารถพาแม่ออกมารักษาอาการบาดเจ็บได้ ส่วน “เจ๊หงส์” ตอนนั้น ไม่มีสติ และอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถพาแม่ไปรักษาอาการบาดเจ็บได้ โดยทางแพทย์ต้องเย็บแผลถึง 23 เข็ม  ที่ผ่านมาแม้ว่าเจ๊หงษ์ไม่เคยทำร้ายร่างกาย หรือมีปัญหากับลูกบ้านคนอื่น แต่ตอนนี้ลูกบ้าน รวมถึงนิติฯเองก็อยู่กันด้วยความหวาดระแวง กลัวว่าเจ๊หงษ์จะคลุ้มคลั่งและทำอะไรขึ้นมาอีก




ขณะที่ทีมข่าวได้คุยกับเพื่อนบ้าน ที่รู้จักคุ้นเคยกับเจ๊หงส์ และได้ขึ้นไปหาเจ๊หงส์ที่ห้องเมื่อเช้านี้ ในช่วงที่ขึ้นไปเธอบอกว่า “เจ๊หงส์” กำลังนอนอยู่กับหมาพิตบูล แต่พอพิตบูลเห็นตน ก็โผล่หัวออกมาจากประตูห้องทันที ตนจึงตะโกนถาม “เจ๊หงส์” ไปว่า “กินข้าวหรือยัง” เจ๊หงส์ตอบกลับมาว่า “กินแล้วค่ะ”



โดยเพื่อนบ้าน บอกอีกว่า ส่วนตัว ไม่กลัวเจ๊หงส์ เชื่อว่า “เจ๊หงส์” เป็นคนน่ารัก แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุรุนแรงแบบนี้กับแม่ของตัวเอง ซึ่งสาเหตุครั้งนี้มาจาก แม่ของ “เจ๊หงส์” ได้ดุ “เจ๊หงส์” เรื่องกินยาจิตเวชและมีปากเสียงทะเลาะกัน และแม่ตบไปที่หน้าเจ๊หงส์ 1 ครั้ง ทำให้พิตบูลที่รักเจ้าของกระโจนเจ้ามาช่วย “เจ๊หงส์” แม่จึงตีพิตบูล



แต่ “เจ๊หงส์” คิดว่าแม่จะเอามีดไปแทงหมา “เจ๊หงส์” จึงได้ใช้ องค์ท้าวเวส ทุบไปที่หัวของแม่ หลายครั้ง แล้วจากนั้นก็โยนท้าวเวสสุวรรณปูนปั้นลงมาจากชั้น 9 โดยช่วงที่ “เจ๊หงส์” ลงมา ก็ได้ยินอีกว่า “ถ้าทำน้องสุริยะ (พิตบูล) ทำหนูดีกว่า”



โดยส่วนตัวเท่าที่เห็น “เจ๊หงส์” เป็นคนรักสุนัขมาก และใครก็ไม่สามารถแตะสุนัข “เจ๊หงส์” ได้เลย รวมถึงที่ผ่านมา “เจ๊หงส์” ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา แต่เนื่องจากไม่ได้กินยารักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาการคลุ้มคลั่งเกิดขึ้น ประกอบกับ “เจ๊หงส์” ดื่มสุราเป็นประจำ ส่วนเรื่องของยาเสพติดส่วนนี้ไม่มีใครเห็น



อย่างไรก็ตามล่าสุดทางโรงพยาบาลจังหวัดปทุมธานี ได้ประสานไปยังญาติ เพื่อให้มารับแม่ของเจ๊หงส์กลับบ้าน และตัวแม่เองมีความประสงค์ที่จะกลับมาอยู่ที่ห้องพักกับ “เจ๊หงส์” ด้วย แต่ทาง พม.จังหวัดปทุมธานี ตอนนี้ส่งทีมสหวิชาชีพ นักสังคมสงเคราะห์ เข้าไปพูดคุยกับแม่เจ๊หงส์ เพื่อให้ยอมนำตัวเจ๊หงษ์ไปรักษาตามกระบวนการ


ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมานายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเมืองปทุมธานี นายณัฐพล มงคล รองนายกเทศมนตรีตำบลบางพูน เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปทุมธานี ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และอาสาสมัครป่อเต็กตึ้ง ได้เดินทางมาที่คอนโดของ “เจ๊หงส์” เพื่อพาเจ๊หงส์ไปรักษาอาการป่วย โดยได้ให้ฝ่ายนิติฯ ของคอนโด และลูกบ้านที่เจ๊หงส์ให้ความไว้ใจประมาณ 2-3 คน ขึ้นไปเกลี้ยกล่อมให้เจ๊หงส์ลงมาแต่โดยดีก่อน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ปรากฎว่า เจ๊หงส์ยอมลงมาแต่โดยดี ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องขึ้นไป ก่อนที่จะพาเจ๊หงส์ขึ้นรถของอาสาฯ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญาต่อไป



โดยมีช่วงหนึ่งก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึงคอนโด สำนักข่าววันนิวส์ ได้สังเกตเห็นเจ๊หงส์เดินข้ามไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ฝั่งตรงข้ามคอนโด จึงได้รีบเดินตามไปเพื่อสอบถามเจ๊หงส์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัว พูดคุยได้ตามปกติ ก่อนบอก ยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในวันเกิดเหตุเมา และถูกแม่ต่อว่าเรื่องจะไปเอาหมา แต่แม่ไม่ยอม จากนั้นก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนถูกแม่ตบหน้า



ด้วยความโมโห จึงใช้ค้อนทุบหัวแม่ 2-3 ครั้ง ส่วนรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ เธออ้างว่าจะถูกแม่ทุ่มใส่ จึงเกิดการยื้อแย่ง ก่อนที่เธอจะโยนรูปปั้นลงมาด้านล่าง ตอนนี้อยากขอโทษแม่กับสิ่งที่ทำลงไป หลังเกิดเหตุยังไม่ได้ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลเลย



ขณะเดียวกันทีมข่าวสังเกตเห็นบริเวณใบหน้าของเจ๊หงษ์มีร่องรอย คล้ายๆ รอยเล็บ เจ๊หงส์ บอกว่า เกิดจากการทะเลาะกับแม่ในวันเกิดเหตุ และถูกแม่ตบหน้า



นอกจากนี้เรื่องประเด็นเสพยาเสพติดหรือไม่ เจ้าตัว บอกว่า เรื่องเล่นยาคงไม่ใช่ เพราะเลิกเล่นยานานแล้ว ตอนนี้อยากขอโทษคนในคอนโดที่ต้องทำให้ทุกคนหวาดผวากับพฤติกรรมของตัวเอง หลังจากนี้หากเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะพาตัวไปรักษา ตัวเองก็พร้อมยินดีที่จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ยอมรับ “ป่วยไบโพล่าร์”

คุณอาจสนใจ