ชาวบ้านร้องชายแต่งกายคล้ายพระนอนรับลม ริมแม่น้ำบางปะกง ไม่มีใบสุทธิ อ้างว่ายังไม่ได้ใบมา-นอนเล่นเพราะที่วัดมันเงียบน่าเบื่อ

ชาวบ้านร้องชายแต่งกายคล้ายพระนอนรับลมริมแม่น้ำบางปะกง

หลวงตาวัย 69 นอนถอดจีวรรับลมกลางดึก ริมแม่น้ำบางปะกง ชาวบ้านเห็นผิดสังเกตเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พบเป็นพระที่เคยถูกจับสึกไปก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 เดือนก่อน เพราะไปสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้ชาวบ้าน ก่อนหนีไปบวชที่นครสวรรค์ แล้วกลับมาแปดริ้ว ตรวจสอบพบว่ารอบนี้ไม่มีใบสุทธิ อ้างว่ายังไม่ได้ใบมา ส่วนสาเหตุที่มานอนนอกวัดเพราะวัดที่จำอยู่มันเงียบ มันน่าเบื่อ ส่วนที่มานอนตรงนี้เพราะคิดถึงแม่ หลังเคยเอากระดูกมาลอยอังคารตรงจุดนี้ เจ้าหน้าที่พาตัวไปจำวัดตามที่หลวงตาร้องขอ เตรียมประสานสำนักพุทธตรวจสอบใบสุทธิภายหลัง

เวลา 22.00 น. วันนี้ ( 27 มิ.ย. 66 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา 2 นาย เข้าตรวจสอบชายแต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์ หลังมีชาวบ้านร้องเรียน ว่าชายคนดังกล่าวแต่งกายคล้ายพระ มานอนถอดจีวรเหลือแต่อังษะ นอนรับลมอยู่บริเวณเก้าอี้ปูน ริมแม่น้ำบางปะกง บริเวณพุทธสมาคมฉะเชิงเทราเก่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าวนอนอยู่บริเวณจุดดังกล่าว ซึ่งบริเวณโดยรอบมีเยาวชน ออกมานั่งคุย นั่งดื่มกันอยู่ในบริเวณนั้น

จากการตรวจสอบพบว่าพระรูปดังกล่าว ไม่มีใบสุทธิรับรองการบวช พบเพียงบัตรประจำตัวผู้พิการ และบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นายบุญญฤทธิ์ อายุ 69 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยชายดังกล่าวอ้างว่ายังไม่ได้ใบสุทธิที่บวชเป็นพระมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เปิดเผยว่า พระบุญญฤทธิ์ เคยถูกจับสึกมารอบหนึ่งแล้วเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน เนื่องจากก่อความเดือดร้อนลำคาญให้กับชาวบ้านในบริเวณนี้ โดยพาไปสึกที่วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฏิ์หรือวัดเมือง จากนั้นพระบุญญฤทธิ์ ก็หายไปก่อนจะพบว่ากลับมานอนอยู่ที่บริเวณเขื่อนริมน้ำตอนกลางคืนนี้ ไม่ยอมไปจำวัด ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนมา

ขณะที่พระบุญญฤทธิ์ พูดจาวกวนโดยเปิดเผยว่า ตนเองกลับไปบวชใหม่ ที่วัดราชทิพรส อ.ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ แต่ตนเองนั้นเป็นคนแปดริ้ว จบจากสถาบันราชภัฏ จึงกลับมาจำวัดที่วัดหัวเนิน และวัดลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ ส่วนสาเหตุที่ตนเองมานอนที่ริมแม่น้ำบางปะกง เพราะคิดถึงแม่ เนื่องจากตอนแม่ตายได้นำกระดูกมาลอยอังคารที่นี่ จึงเกิดความคิดถึงเลยมานอนตรงนี้ ส่วนสาเหตุที่ไม่จำวัดเหมือนพระปกตินั้น เพราะวัดที่อยู่มันเงียบ มันน่าเบื่อ เลยมานอนรับลมที่นี่ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้พาพระบุญญฤทธิ์ ไปจำวัดชั่วคราวที่วัดลาดขวาง อำเภอบ้านโพธิ์ ตามความประสงค์ และหลังจากนี้จะประสานสำนักพุทธศาสนาจังหวัดฉะเชิงเทรา ตรวจสอบรายละเอียดใบสุทธิของพระบุญญฤทธิ์ มามีจริงหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป