สังคม

สามีข้องใจรพ.รักษาภรรยา หลังท้องเสียหนักจนไตวาย นิ้วมือ-นิ้วเท้าตาย ต้องตัดทิ้ง

โดย nutda_t

27 มิ.ย. 2566

28.2K views

จากกรณีเพจโหนกระแส ได้รับการร้องเรียนจากสามีคนหนึ่ง ว่าภรรยาต้องถูกตัดนิ้วมือนิ้วเท้าทั้งหมด จากจุดเริ่มต้นเพียงแค่อาการท้องเสีย


ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ นายชาย (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ผู้เป็นสามี เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อ 12 เม.ย. 66 ในขณะที่ตนเองไปทำงาน ภรรยา อายุ 30 ปี พักอาศัยอยู่ที่บ้านแล้วมีอาการท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ 20 รอบ ตั้งแต่เช้ายันเย็น หลังจากที่ตนเองกลับมาจากที่ทำงานจึงรีบพาภรรยาไปคลินิก แต่ภรรยายังถ่ายท้องตลอด จึงตัดสินใจพาไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.ชลบุรี หลังจากไปถึงโรงพยาบาล พยาบาลได้มาวัดความดัน พบว่าความดันต่ำมาก จำเป็นต้องรับการรักษาโดยด่วน ต้องให้เซ็นเอกสารรับการผ่าตัดเส้นเลือดใหญ่ที่คอ และรีบพาเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นพบว่าภรรยามีอาการไตวาย จำเป็นต้องฟอกไต ตนเองได้เข้าไปหาภรรยา ซึ่งตอนนั้นยังอาการดี พูดคุยได้ปกติทุกอย่าง ภรรยาของตนบอกว่าไม่อยากผ่าตัด ซึ่งตนเองก็แนะนำว่า ถึงมือหมอแล้วให้ผ่าตัดตามคำแนะนำของหมอจะได้หาย


ต่อมามีเจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้เซ็นยินยอมรับการผ่าตัด ด้วยความที่ตนเองเป็นชาวบ้าน คิดว่าเป็นการผ่าตัดรักษาทั่วไป จึงยอมเซ็นยินยอมการรักษา หลังจากภรรยาผ่าเสร็จก็ไม่พบอะไร พบแต่เพียงไส้ติ่งที่ไม่ดี จึงผ่าตัดออกไป ตนก็งงว่าแล้วเขาไม่ตรวจดูก่อนหรือ ก่อนที่จะผ่า และยังเป็นแผลยาวอีกด้วย


ตนไปเยี่ยมภรรยาทุกวัน ตลอดช่วงสงกรานต์ ภรรยาใส่เครื่องช่วยหายใจตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล 12-20 เม.ย. ตนไม่เจอหมอเลย ถามไปก็ได้คำตอบว่า ติดวันหยุดยาว จนกระทั่งหมอมาวันที่ 21 เม.ย. 66 ซึ่งตอนนั้น ปลายนิ้วมือ นิ้วเท้าของภรรยา เปลี่ยนเป็นสีดำหมดแล้ว เหมือนเนื้อมันเสียไปหมดแล้ว และภรรยาก็มีอาการเบลอๆ ไม่สามารถโต้ตอบได้


ต่อมา ช่วงวันที่ 24 เม.ย.66 ทางพยาบาล ถามตนเองว่าภรรยาเคยติดเชื้ออะไรไหม เพราะตอนนี้มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ส่วนเรื่องมือที่กลายเป็นสีดำ เขาบอกว่ามันเป็นเพราะขาดออกซิเจนไปเลี้ยง ต่อมาวันที่ 26 เม.ย.66 โรงพยาบาลให้กลับมาอยู่ที่บ้าน ส่วนเรื่องนิ้วมันรักษาไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องตัดทิ้ง ตนก็งงว่า แค่ท้องเสีย ทำไมถึงต้องมาเป็นหนักขนาดนี้ มันไวไปสำหรับตนเองและครอบครัวมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาของตนเองตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ ไม่มีโรคแทรกซ้อน สุขภาพร่างกาแข็งแรง ซึ่งตอนนี้ต้องตัดนิ้วมือ นิ้วเท้าทิ้งทั้งหมดแล้ว มือขวาต้องตัดทิ้งทั้งมือ เพื่อใส่อวัยวะเทียม


ซึ่งตนเองพยายามให้กำลังใจภรรยาของตนเองมาโดยตลอด เวลาท้อแท้ให้มองคนที่แย่กว่าเรา พยายามให้คิดไปในทางบวก ทั้งที่จิตใจของตนเองก็แย่เช่นกัน ตนแค่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับภรรยาของตนเอง มันเร็วไปหรือไม่ การรักษาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีหลายอย่างที่ยังคาใจของตนเองอยู่ จึงอยากให้เคสของตนเองเป็นอุทาหรณ์กับโรงพยาบาล และคุณหมอที่รักษาคนไข้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ