ต่างประเทศ

สถานการณ์รัสเซีย เริ่มคลี่คลาย หลังกลุ่มทหารรับจ้าง 'แวกเนอร์' ยุติปฏิบัติบุกกรุงมอสโก

โดย parichat_p

25 มิ.ย. 2566

98 views

สถานการณ์ความตึงเครียดในรัสเซียถึงแม้จะคลี่คลายแล้ว หลังกลุ่มทหารรับจ้าง "แวกเนอร์" ยุติปฏิบัติการบุกกรุงมอสโก และหัวหน้ากลุ่มเดินทางออกนอกประเทศไปยังเบลารุสแล้ว แต่นักวิเคราะห์เตือน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินยังต้องถูกการท้าทายอำนาจ และอันตรายยังไม่จบลง


สำนักข่าว CNN รายงานบทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ ถึงสถานการณ์ในรัสเซีย ว่าถึงแม้กลุ่มนักรบแวกเนอร์จะยุติการเคลื่อนกำลังเข้ากรุงมอสโกแล้วก็ตาม แต่สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนในหลายเรื่อง พร้อมกับเตือนว่า การลุกฮือของกลุ่มทหารเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยหนัก และยากที่จะยุติได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีผลกระทบใดๆเลย


และในตอนนี้ ประธานาธิบดีปูติน ต้องเตรียมรับมือกับการท้าทายอำนาจครั้งร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่ง ในปี 2000 ซึ่งทั่วโลกจะจับตากับการท้าทายอำนาจของปูติน และจะได้การรับเสียงเชียร์จากยูเครน


ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกด้วยว่า การที่มีภาพของชาวรัสเซีย ยืนบนถนนส่งเสียงเชียร์ให้กับขบวน นายเยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มนับรบรับจ้างแวกเนอร์ ขณะนั่งรถออกจากเมืองรอสตอฟ ออน ดอน ถือเป็นข่าวร้ายและน่ากังวลสำหรับปูติน และภัยอันตรายยังไม่จบลงง่ายๆ


เช่นเดียวกับ นายไบรอัน เทย์เลอร์ (Brian Taylor) ศาสตราจารย์ด้านรัสเซียศึกษาจากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ในรัฐนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้อำนาจของประธานาธิบดีปูตินอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากจะเห็นว่าภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทหารของแวกเนอร์สามารถยึดครองเมืองและรุกคืบเข้ามาประชิดกับกรุงมอสโกได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้เลย


ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผู้คนทั่วโลกต่างจับตาว่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในรัสเซียหรือไม่ หลังจากที่กลุ่มทหารรับจ้างที่มีชื่อว่า "แวกเนอร์" ของนายเยฟกินี ปริโกชิน ซึ่งเคยเป็นคนสนิทของประธานาธิบปูติน บุกข้ามพรมแดนจากยูเครนกลับไปยังรัสเซียและยึดครองเมืองรอฟตอฟ ออน ดอน ทางตอนใต้ของประเทศได้สำเร็จ ก่อนจะเคลื่อนทัพมุ่งหน้าขึ้นเหนือโดยมีจุดหมายปลายทางเป็นกรุงมอสโก หวังที่จะโค่นล้มอำนาจของพลเอกเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ซึ่งทั้งคู่ถือว่ามีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปูตินและมีความบาดหมางกันมานานพอสมควร


อย่างไรก็ดี ล่าสุด สถานการณ์ดูเหมือนว่าจะคลี่คลายตวามตึงเครียดลงแล้ว โดยที่เมืองรอสตอฟ ออน ดอน กลับเข้าสู่สภาวะปกติเนื่องจากนายปริโกชินประกาศสั่งยุติปฏิบัติภารกิจบุกเมืองหลวงและถอนกำลังออกจากเมืองรอสตอฟออนดอนเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ ตัวเขายังหลบหนีออกจากรัสเซียไปยังเบลารุสด้วย โดยแลกกับการที่ตัวเขาและกองกำลังทั้งหมดจะไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหากบฏ


นายเทย์เลอร์บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะเป็นจุดจบสำหรับกองกำลังแวกเนอร์ ส่วนกองกำลังอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมในการปฏิวัติครั้งนี้จะถูกผนวกเข้าไปอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงกลาโหม


การยุติปฏิบัติการบุกกรุงมอสโกของกองกำลังแวกเนอร์เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดเกิดขึ้นโดยมีประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโกของเบลารุสเข้ามาเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ย ซึ่งทางรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่าการเจรจาได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดีปูติน เนื่องจากประธานาธิบดีลูคาเชนโกรู้จักและสนิทสนมกับนายปริโกชินมาเป็นระยะเวลานานประมาณ 20 ปี


นักวิเคราะห์อีกหลายคนยังบอกว่า การกระทำของนายปริโกชิน และสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ ต่อยูเครน ซึ่งเป็นประเทศคู่สงครามกับรัสเซีย ถึงแม้ว่าการก่อกบฏของแวกเนอร์จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันก็มีแนวโน้มว่าจะสร้างความเสียหายอย่างมาก ให้กับรัฐบาลของปูตินและการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เปิดโปงให้เห็นถึงความอ่อนแอของกองทัพรัสเซียและอำนาจของประธานาธิบดีปูตินที่ไม่สามารถสั่งกองทัพให้จัดการกับภัยคุกคามจากภายในได้ในทันที

คุณอาจสนใจ

Related News