สังคม

การประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 นักธุรกิจจีน มองไทยมีศักยภาพเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า

โดย parichat_p

25 มิ.ย. 2566

87 views

หอการค้าไทย-จีน จัดประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 โดยมีนักธุรกิจชาวจีนจากกว่า 50 ประเทศตอบรับเข้าร่วม ซึ่งไทยเองใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้นักธุรกิจชาวจีนได้มองเห็นศักยภาพ เพื่อการลงทุนในระยะยาวของไทย ขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าลงสู่ระดับมณฑลในฐานะประเทศผู้ค้า ขณะที่ผลตอบรับของนักธุรกิจจีนมองประเทศไทยว่ามีศักยภาพเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า


การประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่16 เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยมีหอการค้าไทยจีนรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการจัดงาน การประชุมนี้เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจชาวจีนจากทั่วทุกมุมโลก ได้มีโอกาสพบปะเจรจา แลกเปลี่ยนโอกาสทางการค้า และสร้างเครือข่ายระหว่างกันเป็นประจำในทุกๆ 2 ปี โดยมีนักธุรกิจชาวไทย เชื้อสายจีน และนักธุรกิจเชื้อสายจีนกว่า 4,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม


สำหรับการประชุมก็จะมีตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนของทั้งไทยและจีนเป็นผู้นำเสนอแนวทางการพัฒนาธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ ประกอบด้วย หอการค้าไทยจีน / หอการค้าไทย / สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย / คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน / สำนักงานกิจการชาวจีนโพ้นทะเลแห่งคณะรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน / สมาคมการค้าจีนไทย ซึ่งมีหัวข้อหลัก คือ แนวทางนโยบายและความพร้อมของการลงทุนระหว่างไทยและจีน / โอกาสพัฒนาเส้นทางการค้าหนึ่งแถบ 1 เส้นทาง ระดับภูมิภาคและเขตอ่าวเศรษฐกิจกวางตุ้ง ฮ่องกง มาเก๊า / แนวคิดและภูมิปัญญาการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจจีนรุ่นใหม่ และการสืบสานพันธกิจของนักธุรกิจชาวจีน


นายณรงค์ศักดิ์ พุทธมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน และ ประธานกรรมการจัดงาน ระบุว่า หอการค้าไทยจีนได้ให้ความสำคัญกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และ แผนยุทธศาสตร์ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้สอดรับไปกับการตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ของโครงการหนึ่งแถบ 1 เส้นทาง และ เขตอ่าวเศรษฐกิจ


ซึ่งตอนนี้กระแสนักธุรกิจจีนให้ความสนใจการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี และ อุตสาหกรรมต่อเนื่องในไทย เพราะเชื่อมั่นว่าในอีก 5 ปี ข้างหน้า ไทยจะเข้าสู่เมืองแห่งยานยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปอย่างเต็มตัว


ข้อมูลล่าสุดในปีที่ผ่านมา จีนยังคงครองอันดับเป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเป็นผู้ส่งออกสินค้าอันดับ 1 และ เป็นผู้นำเข้าสินค้าอันดับ 2


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งรัดขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าให้ลงลึกสู่ระดับมณฑลหรือระดับเมืองของประเทศคู่ค้า ที่เรียกว่า mini FTA โดยได้ลงนามกับประเทศคู่ค้าแล้ว 7 ฉบับ มี 3 ฉบับลงนามกับจีน ประกอบด้วย มณฑลไห่หนาน / มณฑลการซู่ / เมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้ง และในเดือนสิงหาคม จะลงนามเพิ่มกับมณฑลยูนนานของจีนต่อไป


ขณะที่ในปีนี้พบว่าสมรรถนะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมีลำดับดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งการค้าระหว่างประเทศจากลำดับที่ 37 มาอยู่ที่ลำดับ 29 ดีขึ้น 8 ลำดับ โดยมีจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งติดต่อกันถึง 11 ปี ตั้งแต่ปี 2013 และด้านการลงทุนระหว่างประเทศเลื่อนลำดับไทยให้สูงขึ้นถึง 11 ลำดับ จากลำดับที่ 33 เป็นลำดับที่ 22 โดยปี 2022 นักลงทุนชาวจีนมาขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาลไทยสูงถึงเป็นลำดับหนึ่งของโลกอีกด้วย

คุณอาจสนใจ