สังคม

ยายอายุ 81 ปี ประกาศตามหาหลานบุญธรรมหลังคลอดลูกวัย 3 เดือนทิ้งไว้ให้เลี้ยง

โดย onjira_n

25 มิ.ย. 2566

1.8K views

ที่จังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 25 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6” ได้มีการโพสต์ประกาศตามหาพ่อแม่ของเด็กน้อยวัย 3 เดือน ที่หายตัวไป แต่ได้ทิ้งลูกน้อยวัยเกือบ 3 เดือนไว้ให้อยู่กับยายวัย 80 ปี เลี้ยงดูเพียงลำพัง โดยในโพสต์ได้มีการระบุข้อความว่า “สมาชิกฝากตามหา...ติดขัดเรื่องอะไรก็กลับมาดูแลสู้ต่อไปอย่าทิ้งเด็กไว้เลย บุคคล 2คนนี้ทำงานที่ร้านสมหมายคาร์แคร์และสมหมายก่อสร้างก่อสร้างได้ออกจากงานไปแล้ว #และคลอดลูกอายุ 2เดือนทิ้งไว้ให้ยายเลี้ยง #ยายอายุ ประมาณ 80+ เดินไม่คล่อง #ไม่มีนมให้กิน #ถ้าไม่ติดต่อกลับมารับลูกจะแจ้งความทิ้งลูก #ภายในสิ้น้ดือนนี้เท่านั้น” พร้อมกับมีการแนบรูปสองผัวเมียวัยรุ่นที่ใจร้ายทิ้งลูกไว้ให้กับเหล่าสมาชิกไว้เป็นเบาะแสในการตามหาด้วย



เกี่ยวกับเรื่องดังฃกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงตรวจสอบหาข้อมูล จนสืบทราบว่า เรื่องดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งทารกน้อยวัย 3 เดือนที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ อยู่ในความดูและของยายลา  อายุ 81 ปี มีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 8 ต.ทับกฤช อ.ชุมแสง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า บ้านของยายลา มีการเปิดธุรกิจเป็นร้านคาร์แคร์ ซึ่งเป็นกิจการของลูกสาว ส่วนยายลา พบว่า กำลังอยู่ภายในบ้านคอยเลี้ยงดูหลานชาย วัย 3 เดือน ที่กำลังนอนหลับอยู่ภายในมุ้งเด็กภายในห้อง



จากการสอบถามยายลา ในเบื้องต้น ยายลาให้ข้อมูลว่า หลานชายวัย 3 เดือน เป็นลูกของเป็นลูกที่เกิดกับ น.ส.เยาวเรศ  อายุ 21 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเลี้ยง ที่บุตรสาวของตนรับอุปการะเลี้ยงดูเอาไว้ จนโตเป็นสาวหลานก็ไปคบหาอยู่กินกับนายสรนัส อายุ 21 ปี แล้วเกิดท้องมีลูกด้วยกัน ซึ่งก็เพิ่งจะคลอดลูกไปเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ที่ผ่านมานี้เอง และในช่วงที่คลอดนั้น ทั้งผัวทั้งเมียก็มาอยู่เลี้ยงหลานที่บ้านของตน โดยให้ฝ่ายชายรับคอยทำงานกิจการล้างรถอยู่ที่บ้าน มีเงินเดือนให้ใช้ แต่สุดท้าย ก็หนีหายออกจากบ้านไปทั้งผัวทั้งเมีย แล้วมาทิ้งหลานชายไว้ให้ตนดูแล ซึ่งตนบอกเลยนะ ตนเลี้ยงดูไม่ไหว ตนชรามากแล้ว ร่างกายก็ไม่ค่อยดี แถมยังเดินไม่ค่อยไหวด้วย



เมื่อถามว่า พ่อแม่ของเด็กหนีไปนานหรือยัง ยายลาบอกว่า หนีไปนานเป็นเดือนแล้ว ติดต่อก็ไม่ได้ เขาบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง แม้แต่โทรศัพท์ เขาทั้งคู่ก็ยังบล็อกเบอร์บล็อกไลน์ของคนที่บ้านไว้หมด รวมถึงเพื่อนๆ คนที่รู้จักกับพวกเขา ก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งสองผัวเมียไปอยู่ที่ไหน จึงยากฝากบอกผ่านสื่อ ถ้าทั้งคู่เขาเห็นข่าวนี้ ให้รีบติดต่อกลับมา แล้วมารับผิดชอบเอาหลานกลับไปเลี้ยงด้วย รวมถึงหนี้สินที่เคยไปหยิบยืมใครๆ ในละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงเขามา ก็ให้กลับมารับผิดชอบด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้น หมดสิ้นเดือนนี้ ตนจะให้ลูกสาวพาไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.ชุมแสง



ยายลา เล่าถึงช่วงที่ น.ส.เยาวเรศ และ นายสรนัส ย้ายมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของ ยายลาว่า ในช่วงที่เขาทั้งคู่มาอยู่ที่นี่ ตนก็คอยให้ความช่วยเหลือ และดูแลมาตลอด บุตรสาวที่เป็นเจ้าของกิจการคาร์แคร์ก็คอยช่วยเหลือ ให้มีงานการทำ โดยตอนนั้นที่ น.ส.เยาวเรศ กำลังตั้งครรภ์ใหม่ๆ บุตรสาวก็ให้นายสรนัสมาเป็นลูกจ้างทำงานล้างรถ มีรายได้วันละ 300 บาท นำเอาไปเลี้ยงดูเมีย ซึ่งที่ผ่านมา นายสรนัสก็มาทำงานบ้าง ไม่ทำงานบ้างนะ เนื่องจากงานที่ร้านไม่ได้มีลูกค้ามาใช้บริการทุกวัน แต่นายสรนัส ก็ได้รับเงินไปเต็มๆ ทุกวัน ไม่เคยมีหักสักบาท แถมบ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ แต่ยังจะคอยมาแระเล็มขอเงินตนด้วยอยู่บ่อยครั้ง และครั้งสุดท้าย มาขอตน 20 บาท ตนไม่มีให้ ทั้งคู่ก็ไม่พอใจ มาต่อว่าตนเสียๆ หายๆ



“ฉันนี่นะ ถูกมันทั้งคู่กระทำย่ำยี ทางจิตใจมาหลายครั้ง เวลามันอยู่บ้านพวกมันก็คอยใช้ฉันเหมือนทาสคนนึง คอยเก็บกวาดบ้านให้พวกมันได้อยู่อย่างสุขสบาย เวลาที่พวกมันซื้ออาหารอะไรมากิน เอาไว้ตรงไหน มันก็กองเอาไว้ตรงนั้นให้ฉันเก็บ พอฉันต่อว่า มันก็ด่าว่าฉันเหมือนฉันไม่เคยมีพระคุณกับพวกมันเลย แม้แต่กระทั่งขวดนมของหลาน ฉันก็ต้องเอาไปล้างให้พวกมันด้วย และที่ผ่านมา ฝ่ายชายก็มักจะมาถ่ายรูปฉัน นำไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก สลับกับรูปของหลาน ให้ผู้คนสงสาร ในการขอเปิดรับบริจาคเลี้ยงดูอีก มันสุดยอดคนจริงๆ นะ ไอ้ผัวเมียคู่นี้” ยายลากล่าว พร้อมระบุว่า วีรกรรมแสบของพวกมันยังมีอีกเยอะนะ แต่เล่าไม่หมด แต่จะบอกว่า คนในละแวกใกล้บ้านเรือนเคียง รวมถึงคนที่รู้จักพวกมันในตำบล ก็โดนความแสบของพวกมัน มันเล่นไปขอหยิบยืมมาทั่วบ้านทั่วช่องแล้วไม่ใช้เขา ปล่อยให้เจ้าหนี้ต่างๆ หลายราย มาไล่ทวงเงินที่บ้านเกือบทุกวัน



ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีผู้ใจบุญนำของใช้สำหรับเด็ก อาทิ แพมเพิส ผ้าอ้อม และนมผง จำนวนหนึ่ง มามอบให้กับยายลา เพื่อนำเอาไว้ใช้เลี้ยงดูหลาน ส่วนจากการสอบถาม น.ส.สายชล  อายุ 48 ปี ลูกของยายลา ได้ให้ข้อมูลว่า น.ส.เยาวเรศ เป็นลูกเลี้ยงของพี่สาวอีกคน ที่เขาเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว จึงทำให้ไม่ค่อยมีใคร คอยเลี้ยงดูบ่มนิสัย ซึ่งก็มีแต่ยายลา แม่ของตน คอยช่วยเหลือ เนื่องจากสงสาร น.ส.เยาวเรศ และตอนที่ น.ส.เยาวเรศ ท้อง ยายลาก็เป็นคนขอร้องให้ตนรับ น.ส.เยาวเรศ และสามีมาดูแลอยู่ภายในบ้านด้วย แต่สุดท้าย ทั้งคู่ก็ยังทำร้ายผู้มีพระคุณกับพวกมันได้ลงคอ ซึ่งตนขอประกาศไว้เลย ให้รีบติดต่อมารับลูกของเขาเอากลับไปเลี้ยงโดยด่วน จะมาตอนไหนก็ได้ แต่อย่ามายามวิกาล แต่ถ้าหากไม่รีบติดต่อกลับมาในสิ้นเดือนนี้ ตนได้ปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไว้แล้วว่า จะพายายลาไปแจ้งความกับตำรวจ เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากพวกเขาจะกลับมาขอโทษและขออยู่อาศัยใหม่ จะให้หรือไม่ น.ส.สายชล กลับตอบเซโนลูกเดียว คือทั้งผัวเมียคู่นี้ จะไม่กลับเข้ามาอยู่บ้านได้แล้ว ต้องมารับผิดชอบหลานเอากลับไปเลี้ยงสถานเดียว



ด้านนางปภาพร  อายุ 54 ปี ลูกสาวของยายลาอีกคน ให้ข้อมูลด้วยว่า ที่ผ่านมาคนในครอบครัวของยายลา รับรู้และเคยเห็นพฤติกรรมของผัวเมียคู่นี้ทั้งหมด ซึ่งตนก็จะไล่ให้พวกเขาออกจากบ้านไปหลายครั้งแล้วนะ แต่ยายลาเขาขอเอาไว้ เพราะยังสงสารพวกมัน แต่ในที่สุด ก็สุดจะทน รับไม่ได้ที่ทั้งคู่มาทิ้งลูกไว้ให้ยายลาดูแล แถมยังมีใครต่อใครหลายๆ คน คอยมาแวะเวียนมาทวงเงินที่ผัวเมียคู่นี้ไปหยิบยืมเกือบทุกวันด้วย ตนเห็นว่าไม่ปลอดภัย ห่วงยายลาจะได้รับอันตราย จึงนำเรื่องดังกล่าวไปฝากให้กับเพจดัง ให้ช่วยประกาศตามหา เพื่อให้เขารับผิดชอบเอาลูกกลับไปเลี้ยง และชดใช้หนี้ที่ก่อไว้



คุณอาจสนใจ