อาชญากรรม

สามีร้อง ภรรยาทำงานธนาคารดัง ถูกหัวหน้าส่งแชตหื่น คุกคามทางเพศ-กลั่นแกล้ง จนต้องลาออก

โดย kanyapak_w

23 มิ.ย. 2566

1.1K views

สามีร้อง ภรรยาทำงานธนาคารดัง ถูกหัวหน้าส่งแชตหื่น คุกคามทางเพศ-กลั่นแกล้ง จนต้องลาออก โวยองค์กรปกป้องคนผิด ไร้บทลงโทษ พ้อแจ้งความแล้ว แต่เรื่องเงียบ



(23 มิ.ย.) จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part.6 โพสต์เรื่องร้องเรียนจากลูกเพจ หลังภรรยาทำงานธนาคารดังแห่งหนึ่ง ถูกหัวหน้าคุกคามทางเพศ กลั่นแกล้งจนต้องลาออก แต่คนทำยังลอยนวล



ต่อมาทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้พูดคุยกับนายโบ๊ท (นามสมมุติ) สามีของหญิงสาวคนดังกล่าว เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ภรรยาตนทำงานที่ธนาคารดังแห่งหนึ่ง เป็นนายหน้าธนาคาร โดยมีนาย เสือ (นามสมมติ) เป็นหัวหน้า ซึ่งนาย เสือส่งข้อความส่วนตัวในลักษณะคุกคามทางเพศผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์มาให้ภรรยาตน เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66



โดยหลังจากที่ตนเห็นข้อความนั้น ยอมรับว่างงมากว่า ทำไมถึงกล้าส่งข้อความแบบนี้ ถ้าพูดตรงๆ เลยคือเหมือนคนโรคจิต ไม่น่าจะมาเป็นหัวหน้าคนได้ แต่ตนเองในฐานะสามี เห็นภรรยาโดนแบบนี้หากปล่อยไปก็คงจะทำไม่ได้



ตนจึงส่งหนังสือร้องเรียนไปยังธนาคารเมื่อวันที่ 28 มี.ค.66 โดยตนส่งหนังสือไปยังธนาคารรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 8 พ.ค.66 และเน้นย้ำเรื่องมาตรการป้องกันการกลั่นแกล้งผู้ถูกกระทำและผู้เกี่ยวข้องในระหว่างและหลังพิจารณาลงโทษทางวินัยนาย เสือ ต่อมาธนาคารส่งหนังสือตอบกลับ ลงวันที่ 11 พ.ค.66 โดยแจ้งเพียงแต่ว่า ทางธนาคารลงโทษทางวินัยแล้ว แต่ในระหว่างและหลังพิจารณาลงโทษทางวินัย ภรรยาตนถูกนาย เสือและนายธนา (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นหัวหน้านาย เสือและสนิทสนมกัน กลั่นแกล้ง โดยในช่วงแรกหลังร้องเรียน นาย ธนาไม่ให้ภรรยาขึ้นไปบนที่ทำงาน อีกทั้งยังระงับเงินค่านายหน้าชั่วคราว รวมถึงขั้นตอนงานที่ต้องผ่านการอนุมัติจากนาย เสือและนายธนาจะทำให้งานของภรรยาถูกทำให้ล่าช้าหรือไม่ผ่านการอนุมัติ



นอกจากนี้ เพื่อนสนิทของตนเองที่ทำงานแห่งเดียวกันก็ถูกกลั่นแกล้งไปด้วยเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ต่อมาภรรยาตนนำเรื่องไปปรึกษาหัวหน้าฝ่ายบุคคล แต่ไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่เหมาะสม กลับบอกภรรยาตนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมันคือความขัดแย้งอาจต้องเปลี่ยนหน่วยงานหรือลาออก



ขณะนี้งานที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบของภรรยาถูกจัดสรรไปให้เพื่อนร่วมงานท่านอื่นๆ ทั้งหมด และเมื่อรับค่านายหน้าทั้งหมดที่เหลือแล้ว จึงจะเขียนใบลาออกต่อไป




ทั้งนี้ตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวภรรยาไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำด้วยซ้ำ เนื่องด้วย 1.ผู้กระทำไม่สำนึกผิด 2.หัวหน้าผู้กระทำผิดไม่มีคุณธรรม เพราะหัวหน้าควรจะให้ความคุ้มครองผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่มาลงโทษหรือบีบบังคับผู้ถูกกระทำ 3.หัวหน้าฝ่ายบุคคลควรจะให้ความยุติธรรมกับผู้ถูกกระทำ



ซึ่งในขณะเดียวกันทางผู้กระทำผิดโทรมาขอโทษหลังจากถูกสอบทางวินัย ว่า “ต้องขอโทษจริงๆ แต่ผมไม่ต้องขอโทษพี่ก็ได้นะ เพราะพี่เล่นผมแรงมาก” ซึ่งตนรู้สึกได้เลยว่า ไม่มีความจริงใจ และสำนึกผิดแต่อย่างใด



นายโบ๊ท กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าก่อนหน้านี้อาจมีคนเคยถูกกระทำเช่นเดียวกันกับภรรยา แต่อาจจะไม่กล้าออกมาร้องเรียน หรือถูกบีบให้ออกจากหน่วยงานไปแล้ว ซึ่งตนมองว่าหากเพิกเฉยกับเรื่องดังกล่าว ต่อไปผู้หญิงในองค์กรนี้จะอยู่อย่างไร



และหากวันดีคืนดี ผู้กระทำผิดชะล่าใจไปกระทำแบบนี้กับคนอื่นอีก แล้วจะเป็นอย่างไร ยังดีที่ภรรยาตนถูกคุกคามเพียงแค่ข้อความ แต่หากมันเลยเถิดไปมากกว่านั้น ซึ่งตนรับไม่ได้ เพราะหน่วยงานนี้ถือเป็นหน่วยงานมหาชน ควรจะมีมาตรการที่เด็ดขาดกว่านี้ และตนไม่แน่ใจว่าประธานกรรมการบริหาร รู้เรื่องทั้งหมดหรือไม่



อย่างไรก็ตาม ตนไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 66 หลังจากนั้นวันที่ 14 พ.ค. 66 ได้แจ้งความคดีคุกคามที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จนตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียกผู้กระทำผิด โดยอ้างว่าโทรไปหาผู้กระทำผิดแล้ว แต่ไม่รับโทรศัพท์ และในสัปดาห์หน้าตนจะโทรไปตามเรื่องอีกครั้งหนึ่ง


แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ