แถลงอัปเดตอาการ "เอส" ดีขึ้นตามลำดับ พบมีภาวะหัวใจอักเสบเฉียบพลัน ส่งผลให้วูบหัวใจหยุดเต้น

วันที่ 22 มิ.ย.66 ที่รพ.บำรุงราษฎร์ “คิตตี้ คริสติน่า” พร้อมด้วยคุณแม่ของ “เอส กันตพงศ์” , เอ ศุภชัย ผู้จัดการส่วนตัว และ นพ. อชิรวินทร์ จิรกมลชัยสิริ แพทย์ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ สถาบันโรคหัวใจ ร.พ บำรุงราษฎร์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงอาการป่วยของพระเอกหนุ่ม “เอส กันตพงศ์”


นพ. อชิรวินทร์ จิรกมลชัยสิริ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นตามลำดับ คือ ตื่น สามารถรับรู้ และสื่อสารได้ ซึ่งภาวะที่เกิดขึ้นมาจากภาวะหัวใจอักเสบเฉียบพลัน กรณีนี้อยู่ในขั้นรุนแรง การทำงานหัวใจลดลงอย่างมากและหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง จึงทำให้หัวใจหยุดเต้นและล้มลง แต่จากการซักประประวัติคนไข้ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจมาก่อน แต่ทั้งนี้ภาวะที่เกิดขึ้นสามารถเป็นไปได้ทุกช่วงทุกวัย และความเครียด-เก็บกด อาจมีผลต่ออาการ แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก


โดยรวมขณะนี้ทุกอย่างเกือบปกติแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อติดตามอาการและโอกาสหัวใจเต้นผิดจังหวะ เนื่องจากหลังคนไข้หยุดหายใจ ทำให้ไตและสมองผิดปกติด้วย ส่วนเรื่องของสมอง ผู้ป่วยรับรู้และดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ระบบประสาท เพื่อฟื้นฟู โดยตอนนี้ได้ย้ายมาอยู่หอผู้ป่วยปกติ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู โดยแนวทางการรักษาหลังจากนี้ จะเป็นการฟื้นฟูและกายภาพ


ซึ่งอาการของผู้ป่วยขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเจ้าตัว แต่จากประวัติที่มีการหยุดหายใจ 20 ขึ้นนาทีขึ้นไป และหลับ 8 วัน อาการขณะนี้ถือว่าน่าพอใจมาก แต่ยังคงต้องดูอาการแบบวันต่อวัน โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด


ขณะที่ "คริสติน่า บำรุงรักษ์" ภรรยา “เอส” กล่าวว่า วินาทีที่รู้สึกตัว เอสยังสับสน คิดว่าตัวเองทำงานอยู่ เชื่อว่าที่ฟื้นขึ้นมาคือปาฏิหาริย์ สำหรับคนที่มีอาการป่วยแบบนี้ และคำแรกที่คริสติน่าพูดกับเอส คือ ที่รัก พวกเราทุกคนอยู่ตรงนี้ เพื่อคุณ ตอนที่ตื่นขึ้นมายังจำไม่ได้ แต่ตอนนี้จำได้แล้ว


ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง พร้อมขอโทษที่บางครั้งอาจจะยังอัปเดตบางเรื่องไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่พวกเราหวังอย่างมากว่า เอสจะกลับมาเป็นได้เหมือนเดิม

ด้าน "เอ ศุภชัย" ผู้จัดการส่วนตัว เผยว่า พอเห็นเอสฟื้น มันมีปาฏิหาริย์มีจริง สิ่งที่คาดหวังเป็นจริงแล้ว พูดกับเขาเรื่องในอดีตบอกเขา พี่เอสจำได้เรื่องในอดีตหมดเลย เขาก็โอเค งานพี่เอสที่ค้างไว้ต้องถามคุณหมอว่าจะสามารถให้เริ่มรับงานได้ช่วงไหน ต้องลุ้นวันต่อวัน เพราะอาการไม่เหมือนกัน ไม่สามารถพูดได้เลย เกิดไม่เหมือกัน


สุดท้ายภรรยาฝาก ขอบคุณครอบครัวและทุกๆคนที่มีส่วนร่วมในวันนั้น และขอบคุณสำหรับกำลังใจทั้งหมดที่ส่งมา และขอโทษที่ไม่ได้อัพเดทตลอดเวลา เพราะเมื่อเปลี่ยนสถานะจากคนของประชาชนเป็นผู้ป่วยวิกฤต และขอบคุณทุกความเข้าใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะ happy ending และจะออกมาอัพเดทในเวลาที่เหมาะสม