สังคม

พรรคเล็กร่วมจัดตั้งรัฐบาล ประสานเสียงขอ "ก้าวไกล-เพื่อไทย" จบปัญหาประธานสภาฯ

โดย nutda_t

22 มิ.ย. 2566

139 views

นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ให้ความเห็นถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาฯ ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ว่าหากยึดตามหลักการพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับที่ 1 ควรได้ไป ซึ่งอดีตที่ผ่านมาก็ใช้หลักเกณฑ์นี้ รวมถึงแกนนำบางส่วนของพรรคเพื่อไทยก็เห็นตรงตามนี้ ตนไม่ขัดข้องถ้าหากการพูดคุยของทั้ง 2 พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจบลงแล้วเสนอใครขึ้นมา พร้อมสนับสนุนทุกรายชื่อ แต่ขอเพียงบุคคลจากฝ่ายประชาธิปไตยก็พอ แต่ขอให้ได้สรุปโดยเร็วก่อนเปิดประชุมสภาฯ นัดแรก และก็เป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ


นายวสวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ที่เกิดข้อถกเถียงว่าตำแหน่งประธานสภาฯ บางส่วนบอกว่าต้องเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย เพราะทุกพรรคก็ย่อมมีความเป็นประชาธิปไตย ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ และเชื่อว่าจะไม่มีความขัดแย้งภายในเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ควรทำมากที่สุดตอนนี้คือการตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด “ประชาชนไม่ได้อยากรู้ว่าใครจะได้เป็นประธานสภา แต่เขาอยากรู้ว่านายกฯ จะชื่อพิธาหรือไม่”


ส่วนหากมีพรรคการเมืองอื่นเสนอชื่อมาแข่งขัน นายวสวรรธน์ มองเป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่เชื่อว่าฟรีโหวตจะไม่เกิดขึ้นกับฝ่ายพรรคการเมืองประชาธิปไตย ทุกพรรคจะเห็นไปในทางเดียวกันอย่างแน่นอน “เราต้องมองสิ่งที่สุดคือเสียงของพี่น้องประชาชนที่เขาให้เรามา”


“ที่บอกว่าเป็นพระบวชใหม่ แล้วจะมาเป็นเจ้าอาวาส มันก็คนละประเด็น เราเองก็คนรุ่นใหม่ อยากให้มองว่าคนรุ่นใหม่หลายคนก็มีความสามารถ และมีศักยภาพเหมือนกัน อายุหรือประสบการณ์อาจมีไม่มาก แต่ก็มีความตั้งใจ อยากให้ผู้ใหญ่ให้โอกาส ให้คำแนะนำด้วย”


นายวสวรรธน์ ยังกล่าวถึงคุณสมบัติประธานสภาฯ ว่าควรต้องเป็นกลางทางการเมือง ไม่เอนเอียง ต้องดูแลรับผิดชอบหน้าที่ได้ดี ส่วนเรื่องของความอาวุโสนั้น ตนมองไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไหร่ “บารมี มีทีหลังก็ได้ ไม่มีใครเกิดมามีบารมีเลย ต้องให้โอกาสสร้าง ไม่ควรไปตัดโอกาสเขา”


เมื่อถามถึงตำแหน่งรองประธานสภาฯ พรรคใดเหมาะสม หลังมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยหวังได้ 2 คน แต่พรรคประชาชาติก็หวังในฐานะพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นลำดับที่ 3 นายวสวรรธน์ บอกว่าจะเป็นใครจากพรรคการเมืองใดก็ได้ แล้วแต่พรรคการเมืองแกนนำจะไปตกลงกัน


ขณะที่ นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ระบุว่าตนยังไม่ทราบรายละเอียดถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ว่าพรรคใดจะเสนอชื่อใคร แต่ในความเห็นของตน อยากให้พรรคการเมืองแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 2 พรรค เร่งหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว เพราะประชาชนให้ความสนใจ และจะเปิดประชุมสภาแล้ว


ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น นายปิติพงศ์ มองต้องเข้าใจบทบาทว่าทุกพรรคการเมืองมีความต้องการพื้นฐานอย่างไร ต้องเป็นผู้ประสานงานกับทุกพรรคการเมืองได้ มีความเป็นกลาง คุมที่ประชุมได้ ทำงานแล้วเป็นที่ยอมรับของประชาชน ส่วนเรื่องของความอาวุโส ตนยกเป็นเรื่องของตำแหน่งมากกว่า “คือเมื่อได้ตำแหน่งแล้ว ทุกคนก็ควรต้องให้เกียรติกัน ต้องยอมรับในเสียงข้างมาก ว่าเลือกใคร”


นายปิติพงศ์ กล่าวติดตลกว่า พรรคเป็นธรรมไม่มีอิสระในการโหวตเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะมีเพียงคนเดียว ซึ่งต้องเป็นไปตามมติของกรรมการบริหารพรรค แต่ยืนยันว่าจะโหวตบุคคลจากฝ่ายประชาธิปไตยอย่างแน่นอน


เมื่อถามถึงโผคณะรัฐมนตรีที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ นายปิติพงศ์ ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยในพรรค พรรคเป็นธรรมเป็นเพียงส่วนเล็กๆ คงต้องให้พรรคการเมืองแกนนำคุยกันให้ตกผลึกก่อน แต่ก็พร้อมทำงานในทุกหน้าที่หากได้รับโอกาส “ขอให้มีโอกาสได้ทำงาน อยากทำตามนโยบายพรรคที่ให้ไว้กับประชาชน”


ด้าน นายเชาว์ฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ก็ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ โดยมองว่าถ้าจะให้มีความเป็นธรรม พรรคเพื่อไทยควรได้ตำแหน่งประธานสภาฯ เหตุเพราะพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ทั้ง 2 พรรคการเมืองควรต้องเร่งเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว


นายเชาว์ฤทธิ์ ยังบอกว่าหากปล่อยให้มีการฟรีโหวตในเรื่องดังกล่าว มองว่าการตั้งรัฐบาลก็คงมีความแตกแยก เพราะแค่ตำแหน่งประธานสภาฯ ยังตกลงกันไม่ได้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะตกลงกันได้หรือ


“ตำแหน่งประธานสภาฯ ควรเป็นคนที่อาวุโสหน่อย พรรคเพื่อไทยมีบุคลากรมีความพร้อมมากกว่า หลายคนมีประสบการณ์”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ