รถไฟขบวนสินค้า พุ่งชนกระบะขนคนงานรับเหมาก่อสร้าง ดับ 2 เจ็บ 4

เมื่อเวลา 08.45 น. ร.ต.อ.ศักดิ์ถาวร หนูแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.หินซ้อน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถยนต์กระบะจุดตัด กม. 135 ทางเข้าโบราณสถานเขาคอก ท้องที่ ม.3 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สระบุรี นายตรวจการชุมทางรถไฟแก่งคอย และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู


ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า ด้านท้ายพังยับอยู่ในทุ่งหญ้าริมทาง ห่างจุดตัดราว 30 เมตร ผู้บาดเจ็บถูกพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่ง รพ.แก่งคอย รวม 4 ราย พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.โสภา อายุ 18 ปี และนายไกรสร อายุ 22 ปี ส่วนรถไฟเป็นขบวนรถขนส่งสินค้าที่ 556 จากหนองคาย มุ่งหน้ากรุงเทพฯ


จากการติดต่อสอบถามผู้บาดเจ็บ คือนายเศกสิทธิ์ อายุ 50 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์จากบ้านพัก เพื่อมาทำงานก่อสร้างในพื้นที่ ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย โดยมี นางน้ำอ้อย อายุ 46 ปี ภรรยา นั่งคู่กันมาด้านหน้า และมีนายวสันต์ อายุ 21 ปี , นายบิ๊ก , น.ส.โสภา และนายไกรสร ทั้งหมดเป็นคนงานก่อสร้าง นั่งด้านหลังรถกระบะ


ขณะมาถึงที่เกิดเหตุเป็นจุดตัดที่ต้องขับขึ้นเนินข้ามรางรถไฟ ด้านซ้ายมือมีวงบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ทาสี ขาว-แดง ตั้งเรียงรายเป็นสัญญาณเตือนอยู่ริมทาง ทำให้บดบังทัศนียภาพ ประกอบกับตนไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟเตือนแต่อย่างใด จึงได้ขับรถข้ามรางรถไฟใกล้จะพ้นอยู่แล้ว แต่ถูกหัวรถจักรวิ่งพุ่งเข้าชนกระบะหลังอย่างจัง ทำให้รถพลิกคว่ำหลายตลบ ข้ามจากฝั่งซ้ายมาทางฝั่งขวา รถหงายท้องล้อชี้ฟ้า ตนและภรรยา ติดอยู่ในที่นั่งด้านหน้าได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายวสันต์ กระโดดออกจากกระบะได้ทัน จึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ นายบิ๊ก ถูกตัวรถทับแขน-ขาหัก ถูกส่งต่อไปที่ รพ.สระบุรี และนายไกรสร กับ น.ส.โสภา กระโดดหนีไม่ทัน ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว


สำหรับบริเวณจุดตัดทางรถไฟ ชาวบ้านและผู้นำชุมชน ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า เคยมีการประชุมเรียกร้องให้ทางการทำเครื่องไม้กั้น หรืออย่างใดอย่างหนึ่งได้แล้ว เพราะเป็นเขตอันตราย ปัจจุบันมีชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางลัดเพื่อสัญจรไป-มา แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำ หากปล่อยไว้เช่นนี้จะเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันขึ้นอีก