ครูหัวร้อน ถีบนักเรียน ม.3 อ้างไปตามเข้าเรียน แต่ถูกพูดล้อเลียน จนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part6 ได้โพสต์คลิปและข้อความว่า "คุณครูถีบเล่นหรือคุณครูถีบจริงจัง แต่เสียงที่บอกว่าอย่ามาเล่นคืออะไร ต้นสายปลายเหตุจะอย่างไรเด็กมีพฤติกรรมแบบไหน คุณครูควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดให้กับเด็ก ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดกับลูกตัวเองผิดหวังกับสถาบันมาก คือบ่ไปหายุโรงเรียนเลย โทรศัพท์ไปแล้วต้องการให้นักข่าวช่วย ปกติครูที่นี่พูดจาหยาบคาย เจอมากับตัว ด่าเด็กมีแต่กูมึง ขนาดไม่ใช่ลูกหลานเราได้ยินยังโมโหเลย"


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.ร้อยเอ็ด เพื่อขอพบ ผอ.โรงเรียน แต่ปรากฏว่าถูกเจ้าหน้าที่ป้อมยาม มากันที่หน้าประตูเข้าโรงเรียน แจ้งว่า ผอ.สั่งห้าม ไม่ให้สื่อเข้าไปถ่ายภาพข้างใน และบอกว่า ผอ.ไม่อยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผอ.รับทราบแล้ว


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนักเรียนที่ถูกครูกระทำ พบกับผู้ปกครองของนักเรียน อายุ 48 ปี เล่าว่าลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.3 มาเล่าให้ฟังว่าถูกครูที่โรงเรียนถีบ ตนก็พูดไปว่าดื้อมากครูจึงถีบ โดยเป็นการพูดเล่นกับลูก ไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง แต่พอมาเห็นคลิปที่มีคนแชร์ลงในโซเชียล ก็รับไม่ได้ เพราะคิดว่าอยู่โรงเรียนจะเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่ลูกกลับถูกครูทำร้ายเสียเอง ยอมรับว่าลูกตนเป็นคนดื้อตามประสาของเด็กผู้ชายในวัยนี้ เหตุการณ์เกิดตั้งแต่ช่วงบ่าย วันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ลูกชายถูกถีบโดนแขนแต่ไม่แรง ซึ่งปกติแล้วก็มักจะได้ยินจากปากของนักเรียนคนอื่นๆ หรือนักเรียนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันว่าครูเป็นคนปากร้าย ชอบด่านักเรียนอยู่บ่อยๆ แต่เบื้องต้นตนไม่ติดใจเอาความ และได้ไปพูดคุยกับทางโรงเรียนและครูฝ่ายปกครองแล้วว่า ขอให้คุณครูที่ก่อเหตุปรับปรุงตัว อย่าทำเหตุการณ์เช่นนี้กับลูกของตน หรือนักเรียนคนอื่นอีก


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของคุณครูคนดังกล่าว บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคาบที่ตัวเองสอนอยู่ในห้อง แต่เด็กกลุ่มหนึ่งไม่เข้าเรียน ออกมานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง พอตนสอนเสร็จเดินออกมา ก็ถามนักเรียนว่าทำไมจึงไม่เข้าห้องเรียน แต่ถูกนักเรียนพูดคล้ายกับล้อเลียน จนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งตนและนักเรียนได้พูดปรับความเข้าใจกัน นักเรียนก็ยอมรับผิด ตนก็ยอมรับผิด ต่างฝ่ายต่างขอโทษกันและจับมือกันในวันนั้นเลย วันนี้นักเรียนคนดังกล่าวก็มาเรียนตามปกติ เพียงแต่ว่าในวันเกิดเหตุ มีคนแอบถ่ายคลิปแล้วนำไปโพสต์ แต่โพสต์ไม่ครบทั้งหมดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ส่วนเรื่องดังกล่าวมันยุติลงแล้ว ทางผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้ไปพูดคุยรับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากทั้งสองฝ่ายแล้ว ท่านก็ได้ตักเตือนให้ระงับอารมณ์ให้มาก ซึ่งตนยอมรับว่าช่วงนี้ตนมีหลายเรื่องที่ครุ่นคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอนสัปดาห์ละ 28 ชั่วโมง มีเวลาพักสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ไหนจะงานอื่นอีก เรื่องในครอบครัว เรื่องบิดาเสียชีวิตที่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ไปจัดการเรื่องงานศพ จึงมีอาการซึมเศร้า ต่อไปก็คงต้องระมัดระวังให้มากขึ้น