สังคม

ปิดแล้ว ‘ช่องลับ’ เจ้าของโรงแรมอ้างมีไว้ให้หนีเมียหลวง ‘ผู้เสียหาย’ โต้ แต่ของหายเกือบล้าน

โดย paweena_c

19 มิ.ย. 2566

296 views

ลาก่อนช่องลับ! ปลัดจังหวัดสั่งปิดช่องลับในโรงแรม หลังนักท่องเที่ยวเข้าพักแล้วของหายเกือบล้าน เจอหน้าต่างอยู่หลังกระจก เจ้าของโรงแรมอ้าง ใช้สำหรับพาเมียน้อยหนีเมียหลวง ปลัดจังหวัดยันหากทรัพย์สินถูกขโมยระหว่างเข้าพัก เจ้าของโรงแรมต้องรับผิดชอบ

กรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เสียหายได้แจ้งตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เข้ามาตรวจสอบที่โรงแรม หลังเข้าพัก 1 คืน แล้วทรัพย์สินมีค่าหายไปหลายรายการ มูลค่าเกือบล้านบาท นายเอษณะ หรือปอ อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ได้เข้าพักโรงแรมนี้เมื่อวันที่ 26 เมษายน พร้อมแฟนและลูกเล็ก ตอนนั้นคิดว่าเลือกโรงแรมที่ปลอดภัยแล้ว อยู่ริมถนนไม่มีหน้าต่าง แถมห้องยังอยู่ตรงกับป้อม รปภ.ด้วย ตอนอาบน้ำจึงได้ถอดแหวน สร้อย โทรศัพท์ วางบนหัวเตียงตามที่เคยพักที่อื่น จากนั้นก็หลับลึก ตื่นอีกทีตอน 7 โมงเช้า ก็ยังแปลกใจที่ลูกไม่ร้องเลยทั้งคืน

แต่เมื่อสังเกตที่หัวเตียง ก็ต้องตกใจ เพราะข้าวของที่วางไว้ ทั้งสร้อยทองคำน้ำหนัก 11.50 บาท แหวนเพชรแหวนทอง พระเครื่องเลี่ยมทอง ตะกรุด และสิงห์ มูลค่ากว่า 7 แสนบาท หายไปหมด จึงถามแฟนว่า ของหายไปไหน แฟนถามกลับว่า ลืมไว้ที่รถหรือเปล่า จึงออกไปดูที่รถ ก็ไปเจอผู้เสียหายอีกรายซึ่งอยู่ห้องติดกัน มาถามว่า เมื่อคืนได้ยินเสียงอะไรไหม กระเป๋าตังผมหาย ได้ยินแค่นั้นก็ถึงบางอ้อเลย ว่าถูกคนร้ายมาขโมยของ แถมที่หลับลึกยังคิดว่า ถูกวางยากันหรือไม่

จากนั้นก็พยายามช่วยกันหา ว่าคนร้ายเข้ามาทางไหน ทั้งที่ล็อกห้องปกติ เมื่อไปเดินดูด้านหลังห้อง ถึงกับผงะ เพราะไปเจอหน้าที่สามารถเปิดเข้าไปข้างในห้องพักได้ ซึ่งถ้ามองจากด้านใน หน้าต่างนี้จะอยู่ตรงกระจกพอดี เหมือนตนถูกโรงแรมหลอก เพราะข้างในห้องดูปกติมาก เมื่อคืนก็ยืนเล่นกับลูกหน้ากระจก โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันเปิดเข้ามาจากข้างนอกได้

เมื่อสอบถามความรับผิดชอบกับเจ้าของโรงแรม กลับถูกปัด โดยอ้างว่า ไม่รู้ว่าผู้เสียหายมีทรัพย์สินจริงหรือไม่ และหากผู้เสียหายลืมของไว้ ก็ไม่รับผิดชอบเช่นกัน จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี และจ้างทนายมาฟ้องเจ้าของโรงแรม โดยเจ้าของโรงแรมบอกกับตำรวจว่า หน้าต่างนี้เรียกว่า ช่องหนีเมียหลวง ทำมาเพื่อให้เมียน้อยหนีเมียหลวง จึงต้องทำเป็นทางลับที่สังเกตได้ยาก

ต่อมาได้มีตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เก็บลายนิ้วมือ ที่บริเวณมือจับของหน้าต่าง รอยมือที่กระจก รอยเท้าที่คอมเพสเซอร์แอร์ และพบกระเป๋าตังของผู้เสียหายอีกห้องหนึ่ง ที่กำลังตามหาอยู่ด้วย แต่เงิน 7,000 บาท หายไปหมดแล้ว ตอนนี้ตนรอผลตรวจลายนิ้วมือมาเกือบ 3 เดือนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงต้องร้องสื่อให้ช่วยเหลือ

ล่าสุดเช้าวันนี้ นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมฝ่ายปกครอง ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี สนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมดังกล่าว โดยมีนายณัฐนนท์ กิติพงศ์มาน ผู้จัดการโรงแรม พาตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุ

โดยผู้จัดการโรงแรม ยอมรับว่า ห้องพักทุกห้องในโรงแรม มีการติดตั้งประตูลับเอาไว้จริง ซึ่งเจ้าของเดิมติดตั้งมาตั้งแต่สมัยเริ่มสร้างโรงแรมใหม่ๆ ส่วนตนเองเข้ามาซื้อกิจการ รับช่วงต่อได้ประมาณ 4-5 ปี เคยสอบถามเจ้าของรายเดิม บอกว่า สร้างไว้ใช้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หากผู้เข้าพักในห้องเกิดป่วย หรือได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถออกมาเปิดประตูให้พนักงานเข้าไปช่วยเหลือได้ พนักงานยังสามารถเปิดช่องนี้เข้าไปช่วยเหลือได้ แต่หลังจากเกิดเหตุ ได้สั่งการให้พนักงานของโรงแรมไปเชื่อมปิดกลอนประตูแล้ว ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้ช่องลับได้อีก รวมทั้งได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดด้านหลังห้องพักที่เชื่อมต่อกับประตูลับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

ด้านปลัดจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ จะต้องตรวจสอบแบบแปลนของการก่อสร้างโรงแรม ว่าได้ระบุเรื่องช่องประตูลับไว้ในแบบแปลนหรือไม่ หากไม่ได้ระบุเอาไว้ เจ้าของจะต้องแก้ไขให้เป็นไปตามแบบแปลน ภายในระยะเวลาที่กำหนด ส่วนคดีความ ที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ ถ้าพิสูจน์แล้วยืนยันได้ว่า ทรัพย์สินถูกขโมยไประหว่างเข้าพักในโรงแรมดังกล่าวจริง เจ้าของโรงแรมก็ต้องรับผิดชอบ


https://youtu.be/QT5faNtFZ6Y

คุณอาจสนใจ