เลือกตั้งและการเมือง

'โรม' ลั่น ตำแหน่งประธานสภาเป็นของก้าวไกล - 'ภูมิธรรม' ซัดแรง ยังไม่ควรแสดงความเห็น ตามมารยาททางการเมืองเขาไม่ทำกัน

โดย weerawit_c

18 มิ.ย. 2566

418 views

วานนี้ (17 มิ.ย.) นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าในการเลือกบุคคลดำรงแหน่งประธานสภา โดยยังคงยืนยันเช่นเดิม ว่า ตำแหน่งนี้ “เรานั่ง” เหมือนกับที่เคยพูดมาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง เพราะเรามีโปรเจคว่าหากเราเป็นประธานสภา เราจะทำอะไร ดังนั้นคงต้องเป็นกระบวนการที่ต้องไปพูดคุยให้เรียบร้อย ซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงานผลการเจรจากับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร ก่อนย้ำอีกว่าตำแหน่งประธานสภา “เราจะทำส่วนนี้แน่นอน”


เมื่อถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยแล้วหรือไม่ นายรังสิมันต์ บอกว่า ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุย ตนยังตอบไม่ได้ว่าเจรจาไปถึงขั้นไหน และจบหรือยัง


ส่วนอาจส่งผลต่อให้เกิดความไม่ลงรอยระหว่างพรรค อาจมีผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล หรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่ายังไม่เห็นปัญหาในลักษณะนั้น ตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพูดคุยกัน “มันไม่มีทางเห็นตรงกันร้อยเปอร์เซ็นต์” เพียงแต่จุดไหนที่พรรคเพื่อไทยขอหรือพรรคก้าวไกลขอ ก็ต้องหาทางพูดคุยเจรจากันให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าทั้งสองพรรคเห็นเป้าหมายใหญ่ที่จะเดินไปด้วยกัน ฉะนั้นจึงไม่กังวลจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต


ผู้สื่อข่าวถามถึงการรวบรวมเสียงสมาชิกวุฒิสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ บอกว่าเท่าที่ตนทราบก็เป็นไปด้วยดี มีแนวโน้วดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จบอย่างไรคงต้องไปดูที่ผลโหวต ขณะเดียวกันยังทราบว่าผู้ที่จะโหวตปิดสวิตซ์ ส.ว. เชื่อว่าจะอยู่ในเส้นทางที่เป็นไปได้สูง


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าตนไม่สามารถบอกได้ว่าไปคุยกับใครมาบ้าง แต่ต้องพยายามคุยให้ได้มากที่สุด กับทุกฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ขอยืนยันว่ามาตรา 272 เป็นกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งจะหมดอายุปีหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่รู้ว่า “จะต้องให้มาตรา 272 แผลงฤทธิ์ทำไม” ตนคิดว่าเราควรเดินหน้าตามความต้องการของประชาชน จากวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา และการที่ชี้แจงแบบนี้ เป็นการชี้แจงด้วยเหตุและผล เชื่อทุกฝ่ายรับฟัง “คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แน่นอน”


เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมจัดอบรมว่าที่ ส.ส. หลัง กกต. รับรอง นายรังสิมันต์ กล่าวว่าพรรคก้าวไกลจะมีการจัดอบรมแน่นอน แต่จะเป็นการภายใน เพราะมี ส.ส.ใหม่ค่อนข้างเยอะ ต้องทำให้ทุกคนมีความพร้อมมากที่สุด ทั้งการติวเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงการแชร์ประสบการณ์ว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพื่อทำให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ได้ตั้งแต่วันแรก


ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ว่าที่ ส.ส.ของพรรคจะรวมตัวกันไปรับใบรับรองที่ กกต. ในวันที่ 23 มิถุนายนนั้น นายรังสิมันต์ ยอมรับว่าก็มีบางส่วนที่คุยกัน ไม่ใช่ทุกคน เพราะบางคนก็อยู่พื้นที่ไม่สะดวกเดินทาง แต่ก็จะมีกิจกรรมที่ไปร่วมกันอยู่ อาจไม่ใช่วันที่ 23 ก็ได้


เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเป็นวันที่ 24 มิถุนายนหรือไม่ เพราะเป็นวันสำคัญ ตรงกับวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง นายรังสิมันต์ ตอบประเด็นนี้ว่า ขอกำหนดการให้ชัดเจนก่อน ตนขอตอบเท่าที่ตอบได้ จะแจ้งให้ทราบชัดเจนอีกครั้ง


สำหรับกำหนดการเปิดประชุมสภา นายรังสิมันต์ บอกว่าหากมีการรับรอง ส.ส.ถึง 95% แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าจะเป็นวันไหน แต่ยืนยันมีความพร้อมทำหน้าที่ และอยากให้กระบวนการเป็นไปโดยเร็ว เพราะจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน “วันเวลาที่ผ่านมาที่ยังไม่รับรอง ประชาชนเสียประโยชน์ ทุกอย่างมีต้นทุน มีค่าใช้จ่าย” ทำงานเร็วที่สุด ส่งผลดีต่อประชาชนมากที่สุด


นายงรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีการเข้าชื่อ ส.ส. เพื่อยื่นญัตติเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปด้วยเหตุเพราะความสงสัยคุณสมบัติของ นายพิธาว่าไม่ได้รับทราบว่ามีการคุยกันในเรื่องแบบนี้ พร้อมกับตั้งคำถามว่าจะมีการเสนอเลื่อนโหวตจริงๆ หรือ และจะเลื่อนโหวตไปเพื่ออะไร


ทั้งนี้ หากนายพิธาได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เห็นว่าเรื่องปมปัญหาสามารถไปพูดคุยกันภายหลังได้ และเชื่อว่าใครก็ตามที่มีแนวคิดในเรื่องดังกล่าวอยากให้มองความเห็นประชาชน ซึ่งประชาชนกำลังรอคอยเรื่องการตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ หรือหากสุดท้ายมีการดำเนินคดีตามมาภายหลัง ก็อย่าไปคิดว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้รับเลือก เพราะขั้วอำนาจเก่าจบไปแล้ว และการเลือกตั้งก็จบไปแล้ว พร้อมกล่าวย้ำความมั่นใจว่าทุกข้อกล่าวหาไม่มีทางที่จะดำเนินการอะไรกับนายพิธาได้ ทั้งเรื่องหุ้นไอทีวี ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไป สุดท้ายอุปสรรคเหล่านี้ เป็นความพยายามที่จะกลั่นแกล้ง ในขณะที่ประชาชนคาดหวังและต้องการเห็นนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี และเห็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล ก่อนจะทิ้งท้ายว่าขออย่าใช้วิชาอะไรทำลายความหวังของประชาชน


ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรรคก้าวไกลและพรรค พท. ตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายเดียงแต่ยังไม่ได้ระบุตัวบุคคลว่า เรื่องดังกล่าวทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่คุยกันครั้งก่อน ที่พรรค พท. เสนอไปว่าอยากได้ตำแหน่งดังกล่าว


แล้วพรรคก้าวไกลจะนำไปหารือภายในเพื่อแจ้งความเห็นของพรรคก้าวไกลกลับมา ตอนนี้เรายังคงรอคำตอบดังกล่าวอยู่ ซึ่งจากการสอบถามไปยังนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. ที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลในส่วนของพรรค พท. ร่วมกับตน ยังไม่มีการประสานกลับมาจากพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด เรื่องนี้อยากให้ทั้งสองพรรคคุยกันให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยสรุป ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากจุดเดิม


“ส่วนตัวมองว่าประเด็นเหล่านี้ที่จะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล ทั้งพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ทั้งคู่ยังหารือกันไม่มากพอ เราต้องเร่งหารือกันเพื่อให้ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไปให้ได้ ส่วนประเด็นเรื่องนโยบายต่างๆ ที่จะขับเคลื่อนที่ทุกพรรคให้ความสำคัญนั้น มองว่าสามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้” นายภูมิธรรม กล่าว


เมื่อถามถึงกรณี นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาระบุตำแหน่งประธานสภาฯควรเป็นของพรรคก้าวไกล เพื่อขับเคลื่อนงานในสภาฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นของนายรังสิมันต์ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้คนอื่นไม่ควรแสดงความคิดเห็น รอให้การหารือของสองพรรคจบเรียบร้อยก่อนจะดีกว่า เพราะเมื่อการหารือยังไม่จบแล้วออกมาพูดเช่นนี้นั้นตามมารยาททางการเมืองเขาไม่ทำกัน รอให้คนที่มีหน้าที่ในการหารือจริงๆ ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า และตอนนี้พรรค พท. ก็รอคำตอบอยู่



https://youtu.be/QjzSMztPs6I

คุณอาจสนใจ

Related News