อาชญากรรม

รองโจ๊ก เปิดสาเหตุผู้เสียหายแจ้งความ ถูกแก๊งผู้การฯ รีดเงินสาหัสจนรับไม่ไหว

โดย taweelap_b

18 มิ.ย. 2566

614 views

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า ความคืบหน้ากรณีผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกเรียกรับเงิน 140 ล้านบาทนั้น ในคดีนี้เมื่อ 3-4 วันก่อน ผู้เสียหายได้เดินทางมาที่สโมสรตำรวจ เพื่อแจ้งเรื่องร้องเรียน ในครั้งแรกยังไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ก่อนเจ้าหน้าที่จะแนะนำผู้เสียหายให้ทราบว่า การแจ้งความนายตำรวจระดับสูง ต้องรับผิดชอบในการกระทำ หากไม่เป็นความจริง ซึ่งผู้ร้องเรียนก็มีหลักฐานยืนยันว่ามีการเข้าไปแจ้งความที่ สภ.คูคต เป็นพื้นที่ที่มีการรับมอบเงิน ดังนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งให้ตรวจสอบ เมื่อสืบสวนสอบสวนแล้วพบว่ามีมูลความจริง


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุอีกว่า ในวันที่ 18 มิ.ย. 66 พนักงานสอบสวนจะเดินทางไปที่ศาลเพื่อขอหมายเรียกนายตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 นาย มารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากทั้งหมดได้ติดต่อมาเพื่อขอมอบตัว และมีการพูดคุยกันตลอดอยู่แล้ว แต่ในส่วนของพลเรือนทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่จะขอหมายจับมาดำเนินคดี เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 คน กระทำแบบนี้มานาน และณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งก็จะทำหมายแดงส่งอินเตอร์โพลตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ทั้งนี้ นายตำรวจทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ และข้อหาตามมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือจะรับผลประโยชน์ เบื้องต้นจะเป็น 2 ข้อหานี้ มีการสอบปากคำไปแล้วบางส่วน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงิน ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับทางธนาคาร


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตำรวจทั้งหมดตามรายชื่อนั้น จะทยอยเดินทางเข้ามาที่สโมสรตำรวจในวันที่ 18-19 มิ.ย. 66 ทั้งนี้ ในส่วนของ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ยังไม่มีการประสานเข้ามามอบตัว แต่ได้มีการพูดคุยไว้แล้ว ส่วนพลเรือน 2 คนที่หลบหนีไปก่อนเป็นนกรู้ เพราะอยู่กับตำรวจ เมื่อรู้ว่าจะถูกออกหมายจับก็รีบหลบหนีออกนอกประเทศไปทันที แต่ไม่น่ากังวลอะไร เพราะทรัพย์สินยังมีอีกมาก ก็จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์ ส่วนการดำเนินคดีกับตำรวจก็มีทั้งคดีอาญา และทางวินัย หากพบว่าผิดวินัยร้ายแรง ผบ.ตร.ก็จะเซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนในคดีอาญาถือว่าเป็นการทุจริต เมื่อสอบสวนดำเนินคดีก็จะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. เมื่อ ป.ป.ช. รับคดีไปแล้ว ก็จะส่งเรื่องให้อัยการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


"ผู้เสียหายที่เดินทางมาแจ้งร้องเรียนนั้น ก็จะต้องถูกดำเนินคดีควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ จะต้องมีการไล่ตรวจสอบย้อนหลังว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด สาเหตุที่กลุ่มผู้เสียหายตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะเขาถูกเรียกเงินเยอะจนรับไม่ไหว จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง ต้องยอมรับว่าผู้เสียหายทำธุรกิจสีเทา แต่ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเพราะทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ แต่ครั้งนี้ถูกรีดไถอย่างหนักหนาสาหัส ฝ่ายคนทำธุรกิจผิดกฎหมายรับไม่ได้ เลยตัดสินใจมาร้องเรียน ส่วนใครที่เป็นหัวโจกในการคิดวิธีการพาไปตามโรงพักต่าง ๆ นั้น เจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าเป็นใคร แต่ไม่ขอเปิดเผย มีทั้งตำรวจและพลเรือนร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นทำอะไรแบบนี้ไม่ได้" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวให้ฟัง 


อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของ ผกก.สภ.คูคต ไม่มีความกังวลอะไร เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่เท่านั้น จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนขอยืนยันว่าไม่มีการเป็นศัตรูกับใคร แต่เมื่อทำความผิดก็ต้องถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ที่ต้องทำเพราะเป็นเรื่องขององค์กร ทั้งนี้ ตำรวจกับโจรมีเส้นบาง ๆ กั้นไว้ ถ้าเมื่อใดที่ก้าวข้ามเส้นแบ่งไปก็ต้องถูกดำเนินคดี ในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชา ถ้าเมื่อใดพบเหตุลักษณะนี้ ก็ต้องดำเนินคดี พบกี่รายก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด ถึงเป็นพี่น้องกันก็ต้องไม่โกรธกัน เพราะต้องเข้าใจคนหมู่มาก ถ้าช่วยลูกน้องบ้านเมืองก็ไม่สามารถพัฒนาได้ ประชาชนก็จะเสื่อมศรัทธาตำรวจ

คุณอาจสนใจ