รวบแอดมินเพจบังบอยและเพื่อน ปลอมป้ายทะเบียนขาย พบเงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้าน

วันที่ 17 มิ.ย.66 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.ท.สุรโชค กังวานวาณิชย์ พ.ต.ท.ตฤณ ลีลานุช สว.กลุ่มงานสนับสนุน บก.ปอท.และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.จำนวนหนึ่ง นำหมายจับของศาลอาญาที่ 1753/2566 ลงวันที่ 8 มิ.ย.66 เข้าตรวจค้นยังบ้านพักหลังหนึ่งภายในซอยวัดบางกร่าง หมู่ 1 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่า นายณัฐวัชร์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกและผู้ดูแลเพจ บังบอยฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลักลอบผลิตและจัดจำหน่ายป้ายทะเบียนรถและสมุดคู่มือจดทะเบียนรถโดยผิดกฎหมายจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป


จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว พบนายณัฐวัชร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมของกลางเป็นแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง จำนวน 37 แผ่น สมุดจดคู่มือจดทะเบียนรถป้ายแดงจำนวน 21 เล่ม ตรายาง จำนวน 84 อัน เครื่องปั๊มสัญลักษณ์ ขส. จำนวน 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่องและสมุดจดรายชื่อลูกค้า 1 เล่ม จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบ


ในเบื้องต้นนายณัฐวัชร์ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าลักลอบผลิตป้ายทะเบียนรถกับสมุดคู่มือจดทะเบียนรถปลอมจริง แต่ทำขายให้กับกลุ่มชาวจีนและชาวต่างชาติที่สั่งซื้อเข้ามา ไม่ได้ทำขายให้คนไทยด้วยกัน เพื่อดึงเงินจากกลุ่มคนต่างชาติ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อในคำให้การ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายณัฐวัชร์ คือกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารราชการโดยทุจริตหรือหลอกลวง และนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือข้อมูลอันเป็นเท็จนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ก่อนจะควบคุมตัวนายณัฐวัชร์ พร้อมของกลางทั้งหมด ไปสอบสวนต่อที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางต่อไป


พ.ต.ท.สุรโชค กังวานวาณิชย์ และพ.ต.ท.ตฤณ ลีลานุช สว.กลุ่มงานสนับสนุน บก.ปอท.เปิดเผยว่า จากการสืบสวนติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดลักลอบผลิตป้ายทะเบียนปลอมและสมุดคู่มือจดทะเบียนปลอม พบว่านายณัฐวัชร์ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นแอดมินเพจ บังบอยฯ ได้ร่วมกับนายปรเมศร์ อายุ 27 ปี ร่วมมือกันลักลอบผลิตและจำหน่ายป้ายทะเบียนกับสมุดคู่มือจดทะเบียนปลอมมาแล้วประมาณ 2 ปี โดยมีออเดอร์สั่งซื้อมาแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ครั้ง


ตรวจสอบยอดเงินหมุนเวียนทั้ง 2 ผู้ต้องหาพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 5 ล้านบาท โดยนายณัฐวัชร์ซึ่งเป็นแอดมินเพจจะรับยอดจากลูกค้าในโซเซียลมาแล้วส่งต่อให้นายปรเมศร์เป็นผู้ไปติดต่อกลับโรงพิมพ์แห่งย่านปทุมวันเพื่อลักลอบผลิตสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ รวมทั้งแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง จากนั้นนายปรเมศร์จะนำป้ายทะเบียนแดงปลอมและสมุดคู่มือจดทะเบียนปลอมที่ได้มาให้นายณัฐวัชร์เป็นผู้แสตมป์ตรายางและตอกโค้ดตัวอักษร ขส.หรือ ขนส่งที่ป้ายทะเบียนรถเพื่อให้สมจริงดูน่าเชื่อถือก่อนส่งต่อให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อในราคาเล่ม 2 - 3 พันบาท


ทั้งนี้ในเวลาเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยก ปอท.อีกชุดหนึ่ง ได้นำหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1752/2566 ลงวันที่ 8 มิ.ย.66 เข้าทำการจับกุมตัวนายปรเมศร์ ผู้ต้องหาที่ร่วมกันปลอมแปลงผลิตป้ายทะเบียนและสมุดคู่มือจดทะเบียนรถปลอม ได้ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่ง แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพๆ จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลต่อที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยในเบื้องต้นนายปรเมศร์ยังคงให้การปฏิเสธ