เจ้าของรีสอร์ตช่วยเพื่อนถูกสามีทำร้าย ฉุนโดนลูกหลงคว้าปืนยิงชายดับ

พ.ต.ท.สมคิด ไชยพลงาม สว. (สอบสวน) สภ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในหมู่ 5 ต.รัตนวาปี อ.รัตวาปี จ.หนองคาย ที่อยู่ห่างจาก สภ.รัตนวาปี ประมาณ 1 กิโลเมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือ นายโสภา อายุ 37 ปี อยู่บ้านในหมู่ 8 ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลรัตนวาปี และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.รัตนวาปี ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอาคารรับจองห้องพัก ได้พบกับผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ปาจรีย์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านในหมู่ 4 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย และเป็นเจ้าของรีสอร์ต ที่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมมอบอาวุธปืนพกสั้น กิ่งออโตเมติก ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ สีด ขนาด 9 มม. จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกองเลือดและเลือดกระจายทั่วบริเวณ และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 ปลอก


สอบถามเบื้องต้นทำให้ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.66 น.ส เกษรา อายุ 25 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้ทะเลาะกันกับผู้เสียชีวิตอย่างรุนแรง จนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปี มาระงับเหตุ หลังเจ้าหน้าที่ระงับเหตุแล้ว น.ส เกษรา ก็ได้เดินทางมาพบกับ น.ส.ปาจรีย์ (ผู้ก่อเหตุ) เจ้าของรีสอร์ต ที่เป็นเพื่อนกันมานาน และได้ขอพักอยู่ในรีสอร์ตที่เกิดเหตุ


วันต่อมาเมื่อนายโสภา (ผู้เสียชีวิต) ทราบว่าภรรยาของตน มาพักอยู่กับเพื่อนที่รีสอร์ต ก็ได้ตามมาง้อ ตั้งแต่เช้า ง้ออยู่หลายรอบ แต่ภรรยาก็ยังไม่ยอมกลับ จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ก็ได้เข้ามาง้ออีก โดยได้มาพูดคุยกันบริเวณที่เกิดเหตุ มี น.ส.ปาจรีย์ (ผู้ก่อเหตุ) ร่วมพูดคุยด้วย


แต่ น.ส.เกษรา ไม่ยอมคืนดีและไม่ยอมกับบ้านด้วย นายโสภา ก็พยายามจะฉุดกระชาก และมีปากเสียงทะเลาะกัน ทางภรรยาจึงขอให้ น.ส.ปาจรีย์ ช่วยเข้าห้าม แต่ก็ถูกนายโสภาทำร้าย ตบตีและกระชากผม จนโมโห จึงเข้าไปหยิบเอาปืน ออกมายิงนายโสภา จากทางด้านหลัง กระสุนปืนบริเวณสะบักด้านหลัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลรัตนวาปี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไว้ก่อน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตจะส่งไปตรวจพิสูจน์ที่จังหวัดขอนแก่นต่อไป


ทางด้านนางจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าลูกตนกับลูกสะใภ้พยายามจะพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน หลังจากกลับจากทำบุญที่วัดก็ได้โทรหาลูกชายว่าเป็นยังไงบ้าง เห็นปุ้ย (ลูกสะใภ้) อยากให้แม่มาคุยด้วย แต่ลูกชายบอกแม่ไม่ต้องมา ตอนนี้ก็อยู่กับตำรวจนี่ละ ตนก็ไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร เมื่อลูกบอกไม่ต้องมา ตนก็เลยไม่มา ช่วงที่โทรคุยกันกับลูกชาย ลูกสะใภ้ก็ยังตะโกนผ่านโทรศัพท์บอกให้มาเลยแม่ จนมีคนโทรมาบอก โทรศัพท์ตนก็วางไว้ในบ้าน ตนนึ่งข้าวอยู่ด้านนอกบ้านจึงไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ จนกระทั่งลูกสาวขี่รถมาบอกว่าลูกชายถูกยิง ไม่คิดว่าถึงขั้นฆ่าแกงกัน