ไม่ใช่แค่ 2 แต่คบซ้อน 7! หนุ่มไม่ทน แฉครูสาวหลอกเงินนับแสน แขนไม่ได้จับ

จากกรณี ‘คุณจิมมี่’ ได้ร้องมายัง เพจ ‘โหนกระแส’ หลังถูกครูสาวชื่อ ‘แอ๊น’ สอนอยู่ย่านอุดมสุข-บางนา หลอกให้รัก แล้วยังหลอกเอาเงินด้วย โดยทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ได้พูดคุยกับคุณจิมมี่ อายุ 41 ปี เล่าว่า ได้รู้จักกับครูแอ๊น เมื่อปี 2559 โดยการเล่นแอปพลิเคชั่น facebook dating add love และได้แอดเฟซบุ๊กครูแอ๊น

ในวันนี้ (14 มิ.ย. 66) รายการ ‘โหนกระแส’ จึงได้เชิญ คุณจิมมี่ (ผู้เสียหาย) // คุณไนท์ (ผู้เสียหาย) // ทนายชำนัญ ศิริรักษ์ มาพูดคุยกัน

คุณจิมมี่ ได้เล่าว่า เมื่อปี 2559 ไปงานแต่งงานเพื่อนที่อุบลราชธานี ขากลับไปกินข้าวที่บุรีรัมย์ สมัยนั้นเฟซบุ๊กจะมีการขึ้นโชว์ว่าใครอยู่ใกล้ ให้แอดเพื่อนได้ ก็แอดไป ครูแอ๊นก็รับแอด ยอมรับว่ากะเก็บแต้มธรรมดา ตอนนั้นก็คอมเมนต์กันไปมา ไม่ได้แชท

หลังจากนั้น 1 ปี เขาโผล่มา เพราะเขารับราชการ มาสอนโรงเรียนแถวๆ อุดมสุข-บางนา ซึ่งอยู่แถวบ้านผม เขาเช็กอินที่นี่ ผมก็เห็นเลยไปดู แต่คุยกันธรรมดา ทักทายกัน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เพราะตอนนั้นผมคบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่

มาถึงปี 2563 ผมเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว และตอนนั้นเป็นช่วงโควิด พอดีในซอยบานผมมีรถโรงพยาบาลเข้ามา เขาทักมาว่าพี่เป็นอะไรมั้ย เป็นโควิดหรือเปล่า ระมัดระวังตัวด้วย ก็เริ่มคุยกันนิดๆ หน่อยๆ แต่เขาไม่ค่อยตอบ

แต่พอเริ่มคุยกันเรื่อยๆ รู้สึกดี ก็ถามว่าคบกันมั้ย เขาบอกว่าโสด ไม่มีแฟน พักในโรงเรียนจะมีแฟนได้ไง ก็คบกัน ซื้อข้าวของไปให้

ต่อมา ก็เริ่มมาบอกว่า ทำบุญกะหนูมั้ย ต่อมามีเรื่องเดือดร้อนบ้าง ถมที่บ้าง เลยบอกไปว่าเหนื่อยใจมั้ย ถ้าเราคบกัน พี่จะฝากเงินที่หนู ไม่เอาเงินคืน เอาไว้ไปขอแต่งงานเลย พอแต่งก็ค่อยเอาเงินมาใช้กัน

เราเชื่อใจเขา แต่เขาจะสร้างสตอรี่ว่าเหนื่อย ไม่อยากคุย อยากกินข้าว อยากนอน ก็ปล่อยไป โทรไปก็ไม่รับ แชทไปไม่อ่าน แต่ออนเฟซบุ๊ก ออนติ๊กต็อกตลอด นานๆ จะตอบกลับมา เคยทะเลาะกันเรื่องนี้ด้วย เค้าก็บ่ายเบี่ยงตลอด เราไม่อยากทะเลาะ เลยปล่อยผ่านไป

เอาข้าวไปส่งทุกวันที่คอนโดโดยวางไว้ที่โต๊ะชั้นล่างล็อบบี้ ไม่เคยถามว่าใครซื้อคอนโดให้ แต่ขอยืนยันว่า มีการตกลงกันว่าคบกันแล้ว เคยถามแล้วว่าเป็นแฟนกันมั้ย เค้าก็บ่ายเบี่ยง พูดแต่ เออๆๆๆ ไม่เคยขึ้นไปบนห้อง เคยขอขึ้นไปบนห้อง แต่เขาบอกว่าโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียว ผมเลยไม่ได้เร้าหรือ

ขึ้นห้องครั้งแรก คือซื้อทองให้หลาน รับขวัญหลาน ครั้งที่ 2 คือไปงานวันเกิดเขา ก็แปลกใจนิดๆ ว่า คนครอบครัวเขาเลิกลั่กๆ ผมอยู่แค่แป๊บนึง เขาก็บอกว่าจะอาบน้ำ และจะนอนละ ครั้งนั้นถือว่าเป็นการกินข้าวด้วยกันครั้งแรก ตอนนั้นคบกันมา 2 ปีละ

ผมโอนเงินไปเกือบ 3 แสน มีหลักฐานว่าฝากทั้งหมด น้องไนท์เป็นพยานได้

บอกตามตรงว่า  ผมเพิ่งรู้ข่าวนี้ตอนวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย. 2566นะ ผมช็อกเลย มีข้อความจากแฟนของน้องเอมา ความจริงเค้าส่งมาเดือนนึงละ ผมเพิ่งมาเห็น เลยตอบไป ก็ได้คุยกับหลายคน ทุกคนบอกว่าเป็นห่วง เรื่องทุกอย่างเลยแดงขึ้น วันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง รู้สึกเลยว่าตัวเองโง่มาก ผมอยากได้เงินคืน เพราะเค้าผิดสัญญา ยืนยันว่าเป็นเงินฝาก 

ที่ผมออกมาบอกเรื่องนี้ ผมอยากให้ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกัน ผู้ชายก็มีสิทธิโดนหลอกได้เหมือนกัน ไม่ได้อยากมองว่าเป็นหน้าตัวเมียที่ออกมาว่าผู้หญิง 

---------------
คุณไนท์ อายุ 24 ปี อดีตทหารเกณฑ์ หนึ่งในคนที่ถูกครูแอ๊นหลอกให้รัก บอกว่ารู้จักกับครูแอ๊น เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ผ่านแอปหาคู่ ซึ่งตนเองเป็นทหารเกณฑ์อยู่ในกรุงเทพ 

ระหว่างที่ตนเองคบหากับครูแอ๊น ก็มีทหารที่กาญจนบุรีทักมาทางตนเองผ่านเฟสบุ๊ก บอกว่าครูแอ๊น หลอกผู้ชายมาหลายคนแล้วนะ ให้ระวัง ซึ่งทหารคนดังกล่าว ก็ถูกครูแอ๊นหลอกเงิน ไปจำนวนหลายแสนบาทเช่นกัน ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าตนไม่เชื่อที่ทหารอินบ๊อกมาบอก เนื่องจากยังหลงรักครูแอ๊นอยู่ และพอถามครูแอ๊นไป ครูแอ๊นบอกว่าเป็นเพียงอดีต ตนจึงไม่สนใจ

หลังจากนั้น ครูแอ๊นยังบอกอีกว่า ครูแอ๊นยังเคยคบหากับตำรวจที่อยู่พระประแดงอีกหนึ่งคน แต่ตำรวจคนนั้นเป็นคนไม่ดี เพราะตำรวจมีภรรยาหลายคน จึงเป็นสาเหตุที่เลิกรากัน

ระหว่างที่คบหากับตนอยู่นั้น รับรู้เรื่องของจิมมี่มาโดยตลอด เนื่องจากครูแอ๊นบอกว่า พี่จิมมี่มาแอบชอบเธอเอง และได้โอนเงินมาฝากกับครูแอ๊นไว้ทุกเดือน ซึ่งทุกครั้งที่จิมมี่โอนเงินมาจะส่งสลิปมาเซฟไว้ในอัลบั้มไลน์ของไนท์เพื่อเตือนความจำ

ผมเคยขึ้นไปคอนโดวันเกิด ผมไปก่อน พี่จิมมี่ขับรถตามตูดมาแต่ขึ้นไปก่อน แอ๊นบอกว่าให้รอก่อน ให้จิมมี่กลับไปก่อน รู้นะว่าจิมมี่อยู่ข้างบน ตอนนั้นเลิกไปแล้ว แต่เอาของไปให้ คือมีเยื่อใยอยู่

ต่อมา เค้าไปคบนักเรียนวิศวะรถไฟ แอ๊นใส่ร้ายผมว่าผมทำร้ายร่างกาย ซึ่งแฟนของนักเรียนวิศวะมาบอกผมเรื่องนี้ ผมมีแฟนใหม่เลยตอนเลิกกับแอ๊น เค้าชอบทักมาหาว่าเป็นห่วง ตอนนั้นตัดใจไม่ได้ หน้าเศร้า ทำงานเดียวกับโรงงานของน้องของแอ๊น

ที่ผมออกมาบอกพี่จิมมี่ เพราะผมสงสารพี่เค้าที่พี่เขาโดนหลอกเอาเงิน ผมออกมาเปิดโปงเรื่องนี้เพราะสงาสารพี่จิมมี่จริงๆ 

---------------
คุณเอ (นามสมมุติ) (นักเรียนวิศวะรถไฟ) ได้ยืนยันว่าเป็นอดีตแฟน รู้จักครูแอ๊นผ่านทางติ๊กต็อก ตั้งแต่ มิ.ย.ปีที่แล้ว ถึง พ.ย. ไปๆ มาๆ หากัน ไปที่คอนโดบ่อย เลิกก่อนวันเกิดแอ๊น ก็มีโอกาสไปนอนค้างที่คอนโด

เพิ่งมาทราบว่า มีคนโดนหลอกจากครูแอ๊น ไม่เคยจับได้เลย แต่เคยมีครั้งนึง ที่พี่จิมมี่โทรเข้ามา แต่ครูแอ๊นหลับตอนบ่ายสอง ผมก็บอกว่าหลับ ต่อมา ถามครูแอ๊นว่าจิมมี่เป็นใคร ครูแอ๊นทำงัวเงียแล้วนอนต่อ ไม่ตอบคำถาม

เลิกกันเพราะทะเลาะทั่วไป มีระแวงในใจว่าเค้ามีคนอื่น ไปกันไม่รอด ก็เลิกกัน เพิ่งรู้จักพี่ไนท์ตอนเป็นประเด็น ส่วนใหญ่เป็นแฟนผมที่คุย เคยให้เงิน แต่ไม่เยอะเท่าพี่ไนท์ และพี่จิมมี่

ผมสงสัยนะเรื่องอาหาร คิดว่าแกร็บ เพราะข้าววางไว้ข้างล่าง ครูแอ๊นบอกว่าให้เอาอาหารขึ้นไป

---------------

ด้านทนาย ได้เล่าว่า 

ของพี่จิมมี่ แต่จากแชท มองว่าเป็นการให้โดยไม่ใช่การฝาก เป็นการเลี้ยงดูปูเสื่อนี่แหละ ฟ้องอาญายาก

แต่...ข้าราชการบรรจุ มีกฎหมายเรื่องนี้อยู่ สามารถใช้ปัญหานี้คุยกับเจ้านายได้ ให้ ประนีประนอม มันสามารถใช้กระบวนการนี้ได้ ผมมองเรื่องอาญามันยาก แต่ถ้ามองว่าเรื่องสังคมไม่ยอมรับ ก็ต้องไปคุยกับ ผอ. ผู้บังคับบัญชา 

ของพี่จิมมี่มันฝากไปเรื่อยๆ เลยมองว่าเป็นเงินฝากยาก ไปคุยกับ ผอ. ผู้บังคับบัญชา ให้ตั้งกรรมการสอบได้ เรื่องประพฤติชั่วร้ายแรง แล้วรู้ที่หลังว่าเค้ามีทะเบียนสมรสนะ เป็น ผอ. ศรีสะเกษ ล่าสุด มีข้อมูลมาละ ว่าเพิ่งหย่า 18 เมษา 2566 แต่มีหลักฐานว่าพี่จิมมี่ช่วงนั้นโอนเงินให้ 

เท่ากับว่าเข้าข่ายเลยครับ เรื่องวินัยในส่วนราชการ ควรใช้ช่องทางนี้ในการเยียวยาเรื่องเงินของพี่จิมมี่ ผมว่าอย่างน้อยต้องได้รับเงินคืนในระดับที่เหมาะสม ถึงจะเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล แต่เมื่อเป็นข้าราชการ ก็ถือเป็นการผิดวินัย ประพฤติชั่วร้ายแรง

---------------

ด้านกรรชัย ได้สรุปว่า

อยากให้จิมมี่มองว่าเป็นวัคซีน ทำให้ตัวเองแข็งแรง อย่าไปเข็ด นักรบต้องมีบาดแผล พี่ว่ารู้ช้าดีกว่าไม่รู้ รู้ช้ารู้เร็วไม่สำคัญ รู้แล้วตั้งหลักได้ เสียใจได้แต่อย่านาน

ออกมาพูดแบบนี้ดีนะเป็นอุทาหรณ์ การใช้เวลาสานสัมพันธ์นานๆ ก็ดี แต่ต้องมีความคืบหน้า มันต้องสมดุลกัน มันไม่แปลกหรอกจิมมี่ เพราะความรักเป็นเรื่องสวยงาม

พี่อยากให้ไปร้องกับผู้บังคับบัญชา เพราะพี่มองว่าพฤติกรรมไม่เหมาะกับการเป็นครู ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม

---------------