เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 มิ.ย.66 พิธาพร้อมสู้ปมหุ้นITV-มรดกเลือดดับ3ศพ-นทท.ญี่ปุ่นอ้างถูกหมอนวดอนาจาร

-น้าเขยวัย 67 มีปากเสียงกับหลานปมมรดก เหตุประกาศขายบ้านย่านท่าดินแดง ไม่ปรึกษา ไล่ยิงจนหลานเสียชีวิต 2 ศพคาที่ ตำรวจปิดล้อมบ้าน ตามภรรยามาเกลี้ยกล่อมแต่ไร้เสียงตอบรับ ผ่านไป 2 ชั่วโมง ตัดสินใจบุกเข้าบ้าน พบร่างผู้ก่อเหตุที่ปลิดชีพตัวเองนอนเสียชีวิตบนเตียง พร้อมปืน 9 มม. ตกข้างศพ

-หัวร้อน! พนักงานส่งพัสดุกดกริ่งรัวๆ เรียกลูกค้าที่ไม่ยอมรับของ จนเกิดการโต้เถียงหยาบคาย บานปลายจนตามพวกนับ 10 คน บุกหมู่บ้าน เปิดศึกตะลุมบอนกันยับ บาดเจ็บ 3 ตำรวจบางพลีเชิญตัวสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ด้านแฟลช เอ็กซ์เพรส แจงถ้าพบพนักงานผิดจริง ลงโทษทางวินัยสูงสุดทันที

-โซเชียลแชร์ นักท่องเที่ยวสาวญี่ปุ่น ร้องถูกหมอนวดชายถนนข้าวสาว พยายามขืนใจ แจ้งตำรวจก็ถูกเมิน เจ้าของร้านแจง หมอนวดรีดเส้นที่ขา ไม่น่าใช่อนาจาร แต่ฝ่ายหญิงโวยเรียกค่าเสียหาย 8 หมื่น แล้วไปไกล่เกลี่ยต่อที่โรงพักเหลือ 2 หมื่น 5 แต่หมอนวดยันไม่ได้ทำ จึงไม่ยอมจ่าย และไม่กลับมาทำงานที่ร้านอีก เลยไม่รู้คดีจบลงอย่างไร แต่จู่ๆ มีข่าวขึ้นทั้งที่เรื่องผ่านมา 4 เดือนแล้ว จึงอยากขอความเป็นธรรมให้ทางร้าน ผู้กำกับฯ ยันตำรวจลงพื้นที่ทันทีที่เกิดเรื่อง ชี้จุดเกิดเหตุยากที่จะเกิดการข่มขืน รับการนวดต้องถูกเนื้อต้องตัวกัน พร้อมกำชับร้านติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยว ไม่ให้เข้าใจผิด

-ชัชชาติ แถลงผลงานเป็น “ผู้ว่าฯ” ครบ 1 ปี ให้คะแนนตัวเอง 5 เต็ม 10 เพราะยังมีอีก 11 นโยบายที่ยังไม่ได้ทำ รับแก้คอร์รัปชั่นยากสุด ส่วน 1 ปีที่ผ่านมาอาจยังไม่เห็นโครงการขนาดใหญ่ เพราะเน้นสานต่อโครงการเดิม เตรียมสร้างผลงานใช้ช่วง 3 ปีที่เหลือ

-หวาดเสียว! ชายวูบขับรถเสียหลักพุ่งชนแผงเหล็กกั้นระหว่างช่องทางคู่ขนาน บนสายเอเชีย จังหวัดสิงห์บุรี เหล็กเสียบเข้าหน้ารถ พุ่งทะลุเบาะที่นั่งข้างคนขับ รอดตายหวุดหวิด

ส่วนที่โคราช หญิงขี่มอเตอร์ไซค์ชนกัน เหล็กตะแกรงหน้ารถเสียบขา กลาง 3 แยก อ.พิมาย เจ้าหน้าที่เร่งใช้เครื่องตัดถ่างช่วยนำส่งโรงพยาบาล



เรื่องเล่าการเมือง

-เมื่อวานนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ ถึงประเด็นการถือหุ้นไอทีวี ครั้งแรก หลัง กกต.มีมติตั้งกรรมการไต่สวนความผิดตามมาตรา 151 และ บอกว่า กกต.ยังไม่ได้ติดต่ออะไรเข้ามา

โดยเมื่อวานนี้ นายพิธา ไปหารือและรับฟังข้อเสนอจาก สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย แล้วก็มีการพูดถึงแนวทางการ่วมเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส และยกระดับสภาเอสเอ็มอี ให้เหมือนสภาหอการค้าไทย

ช่วงหนึ่ง นายพิธาตอบคำถามนักข่าวถึง กรณีคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ว่ารู้อยู่แล้วและมีคนส่งข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เห็นความแตกต่าง ระหว่างเอกสารการประชุม กับคลิปที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีที่ กกต. ตรวจสอบ ตามมาตรา 151 ของกฎหมายเลือกตั้ง ฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครแต่ยังฝ่าฝืนนั้น นายพิธา บอกว่า “ก็ไม่ได้หลุุดจากฉากทัศน์ที่คิดเอาไว้ เพราะเคยเกิดขึ้นกับนายธนาธรมาก่อน และมีข้อมูลความไม่ชอบมาพากลส่งมาหลังไมค์มากขึ้น ตอนนี้ได้เก็บข้อมูล และพร้อมสู้เมื่อเข้าสู่กระบวนการจริงๆ แต่ ตอนนี้ กกต.ก็ยังไม่ติดต่ออะไรเข้ามา

ส่วนที่ อ.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอก ว่าหากถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะไม่สามารถเสนอชื่อ โหวตเป็นนายกฯในสภาฯ ได้นั้น

นายพิธา บอกว่า ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อน เพราะกรณีของนายธนาธร ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ยังได้โหวตเลือกนายกได้ และยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่เป็นอุปสรรคในการโหวตตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30



-เมื่อวานรองนายกฯวิษณุ เครืองาม มือกฎหมายของรัฐบาล เปิดประเด็นใหม่ว่า หากแคนดิเดตนายกฯถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะไม่สามารถเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตได้ ซึ่งนายพิธา ก็ออกมาสวนทันที

เมื่อวาน ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องการทูลเกล้าฯนักการเมืองที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแล้วได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งนายวิษณุ บอกว่า สามารถทูลเกล้าฯได้ แต่ต้องกราบบังคมทูลขึ้นไปด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น และผู้ที่รับผิดชอบหากมีอะไรเกิดขึ้นคือผู้รับสนองพระราชโองการ และสำหรับกรณีการทูลเกล้าฯชื่อนายกฯ ผู้รับสนองฯคือประธานรัฐสภา ฉะนั้นประธานรัฐสภาก็ต้องดูแลให้ถูกต้อง ให้ดี ถ้าจะเบรกอะไรก็เบรกในชั้นประธานรัฐสภา

เมื่อถามว่า หากแคนดิเดตนายกฯคนใดถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะนำชื่อนั้นไปโหวตเป็นนายกฯได้หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า "ไม่ได้" เพราะเมื่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็เข้าไปทำหน้าที่ไม่ได้ แล้วจะไปตั้งทำไม เมื่อถามย้ำว่าครั้งที่แล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุใดจึงมีการเสนอชื่อเข้าไปได้ นายวิษณุ กล่าว ตนเข้าใจว่า โหวตเลือกนายกไปแล้ว 2-3 วัน จึงถูกให้หยุดปฎิบัติหน้าที่

ขณะที่ นายพิธาโต้กลับนายวิษณุ ในประเด็นนี้ทันทีระหว่างการแถลงข่าวที่สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย โดยระบุว่า ข้อมูลของนายวิษณุน่าจะคลาดเคลื่อน เพราะถึงนายธนาธรถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่จำได้ว่ายังได้นับการเสนอชื่อให้โหวตเป็นนายกฯอยู่ดี ฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการพิจารณา มาตรา151 ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ทีมข่าวการเมืองตรวจสอบกรณีของนายธนาธร ก็เป็นไปตามที่นายพิธาบอก ไม่ได้เป็นตามที่ อ.วิษณุ บอกคือ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายธนาธร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 23 พฤษภาคม และต่อมาวันที่ 5 มิถุนายน จึงมีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯ โดยนายธนาธร ถูกเสนอชื่อให้โหวตด้วย



-เรื่องหุ้นไอทีวีของคุณพิธา มีการโยงไปที่พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากผู้เปิดประเด็นคนหนึ่งเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย คือ นายนิกม์ แสงศิรินาวิน เมื่อวาน นายอนุทิน ยืนยัน พรรคไม่เกี่ยว "พรรคไม่ชกใต้เข็มขัด"

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายนิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย โพสต์เปิดปม นายพิธา ถือหุ้นสื่อ ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องนี้

นายนิกม์ทำในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้ทำในฐานะพรรคภูมิใจไทย และส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายนิกม์

นายอนุทิน ยังได้กล่าว ถึงกรณีที่มีสื่อออกมาเปิดข้อมูลชื่อบริษัทนายทุนใหญ่ที่ถือหุ้น บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ ที่เป็นเจ้าของไอทีวี โดยมีการเปิดเผยชื่อบริษัทซิโนไทย อยู่ในลำดับที่ 5 โดยบอกว่า สื่อเอาไปโยงกันเอง ยืนยันว่าตนและพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยวข้อง แม้จะมีรูปของตัวเองไปอยู่กับนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บ.กัลฟ์ เอ็นจีเนียริ่ง ดีเวลอปเมนท์ จำกัด และบอกว่า ตนเป็นเพื่อนกับนายสารัถช์มา 40 ปีแล้ว แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำงานและรัฐบาล

และย้ำว่า “ยืนยัน นอนยัน นั่งยัน ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เคยเสียเวลามาทำอะไรกับเรื่องเหล่านี้ เพราะเราไม่ชกใต้เข็มขัดอยู่แล้ว”



-ความเคลื่อนไหวของ กกต.เมื่อวานนี้ คณะกรรมการ กกต. มีการประชุม พิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. วันแรก

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยภายหลังการประชุม กกต. ว่า กกต. ยังไม่สามารถประกาศรับรองผลได้ ทำได้เพียงพิจารณาภาพรวม เพราะยังต้องดูความเห็นจากผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทำให้ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงได้ให้ สำนักงาน กกต. กลับไปดำเนินการ และ เสนอเรื่องเข้ามาใหม่ในสัปดาห์หน้า

ขณะที่ในวันนี้ 14 มิ.ย. ครบ 1 เดือนของการเลือกตั้ง แล้ว แม้ว่า กกต.จะมีอำนาจประกาศรับรองผลภายใน 60 วันคือ วันที่ 13ก.ค. นี้ แต่ทางกลุ่มไอลอว์ เตรียมไปที่สำนักงาน กกต. บ่ายสองวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้ กกต. เร่งรับรองผลการเลือกตั้ง ด้วย

ส่วนที่อาคารรัฐสภา เมื่อวานนี้ แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการรับรองผลการเลือกตั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ได้เริ่มดำเนินการจัดเตรียมสถานที่เพื่อรับการรายงานตัว ว่าที่ ส.ส. ใหม่ แล้ว

มีการจัดโต๊ะรับรอง พร้อมระบุป้ายข้อความว่า "ยินดีต้อนรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26" นอกจากนี้ ได้มีการทดสอบระบบสารสนเทศสำหรับการรายงานตัวแล้วเช่นกัน



-เรื่องที่นายทักษิณ ประกาศว่าจะกลับบ้าน เมื่อวานนายกรัฐมนตรี บอกให้เป็นเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย ถ้ากลับมาก็ดำเนินคดีไป ย้ำ ไม่ขัดแย้งกับใคร

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พบกับพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ (12 มิ.ย.) ว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประกาศเดินทางกลับประเทศไทย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เป็นเรื่องของกฎหมาย ถ้ากลับมาก็ดำเนินคดี ก็จบ

นายกฯ บอกด้วยว่า ทำอะไรก็ต้องคิดไปให้ไกล อย่าคิดใกล้ ๆ คิดใกล้ก็จะติดหล่มอยู่แบบนี้ และย้ำว่าฃท่านไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ยินดีด้วยซ้ำไป ถ้าตั้งรัฐบาลใหม่ได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด เพราะต่างประเทศเขาก็รอดูอยู่

ผู้เสื่อข่าวถามว่าถึงเวลาสลายขั้วชินวัตรและขั้วอื่นๆแล้วหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่มีขั้วอะไรทั้งนั้น เราไปแยกขั้วกันเอง"

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Jv5royo4SZo