เลือกตั้งและการเมือง

"พิธา" เผย ทราบเรื่องคลิปใหม่ itv แล้ว ชี้ "วิษณุ" ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน- เชื่อ ม.151 ไม่เป็นอุปสรรคการโหวตนายกฯ

โดย kanyapak_w

13 มิ.ย. 2566

679 views

"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังหารือกับ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ที่มีนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ร่วมแถลง



นายแสงชัย บอกว่ามีข้อสรุปที่เห็นตรงกัน คือ "หวยเอสเอ็มอี" ที่น่าสนใจ ช่วยปลุกเศรษฐกิจฐานราก และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น คุยเรื่อง GDP เอสเอ็มอี และการทำ เอสเอ็มอีวอลเลต ส่งเสริมผู้ประกอบการจากท้องถิ่นไปสู่สากล ที่ นายพิธา มีแนวทางในการให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และทิศทางการบริหารประเทศ ในการแก้ปัญหาการแก่ก่อนรวย



เรื่องที่ 2 แก้ปัญหาต้นทุน ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และค่าครองชีพให้ประชาชนที่บรรจุในนโยบาย เรื่องการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น พึ่งพาตนเอง



เรื่องที่ 3 แหล่งทุนต้นทุนต่ำ ที่เห็นสอดคล้องกับในการทำ กองทุน หรือ หาช่องทางให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีไทยได้รับประโยชน์โดยเฉพาะรายย่อย การฟื้นฟูที่ได้รับผลกระทบจากโควิด



เรื่องที่ 4 ยกระดับขีดความสามารถ ดึงแรงงานนอกระบบเข้าระบบ และอัปสกิลผู้ประกอบการและภาคแรงงานไปด้วยกัน เพื่อเพิ่มรายได้



เรื่องที่ 5 แก้กฎหมาย กฎระเบียบการประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี จะทบทวนแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ ร่วมกัน จะมีคณะทำงานร่วมกันขับเคลื่อน และในการตั้ง สภาเอสเอ็มอีด้วย



ความสำเร็จในวันนี้คือแนวทาง การทำงานของพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับนโยบายของเอสเอ็มอี ที่ตอบโจทย์ และแตกต่างไปจากเดิม จะเป็นการสร้างมิติใหม่ของเศรษฐกิจฐานแรก ผู้ประกอบการจะได้ใช้กลไกของผู้แทนราษฎรในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลได้ตรงตามปัญหาและอุปสรรคของพวกเรา



นายพิธา สรุปสาระสำคัญคือการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ,เพิ่มรายได้ด้วยหวยใบเสร็จช่วยเหลือเอสเอ็มอี , ลดรายจ่ายคือต้นทุนทางพลังงานและทางการเงินที่เอสเอ็มอีเข้าถึงได้ยาก จนต้องไปกู้นอกระบบ , ขยายโอกาสการต่อรอง คือการขอเป็นสภาเอสเอ็มอีในการพูดคุยเรื่องต่างๆ ยกระดับให้เหมือน สภาหอการค้าไทย ซึ่งเราจะผลักดันทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล


ภาวะสุญญากาศถ้าเราสนับสนุนประชาธิปไตย คิดว่าการตั้งรัฐบาลต้องเป็นไปตามกลไก เกิดความเที่ยงธรรม โปร่งใส ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจบ้านเรามีอยู่สู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นประชามติของคนไทยทั้งประเทศต้องเคารพมติ



ตามที่โพสต์ไปก่อนหน้านี้ว่ามีขบวนการในการฟื้นไอทีวีขึ้นมาก่อนที่จะมีคลิปข่าว 3 มิติ ต้องตอบสั้นๆ ว่า รู้อยู่แล้วมีคนส่งเข้ามาให้เรื่อยๆ มากกว่าที่อยู่ในคลิป เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ทำเอกสารประชุม และคลิปก่อนที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ตอนนี้คณะทำงานกฎหมายของพรรคได้ข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ จากผู้ที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลเข้ามา



อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเราคำนึงถึงฉากทัศน์เกิดขึ้นเรื่อง 151 ก็ไม่ได้หลุดจากฉากทัศน์ที่คิดเอาไว้ เพราะเคยเกิดขึ้นกับคุณธนาธรมาก่อน อาจใช้วิธีการใช้ ส.ส.เข้าชื่อกับศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา ศาลอาญา ถ้าใครติดตามการเมืองมาก็พอจะเดาออก



แต่สิ่งที่เกิดมาเรื่อยๆ คือ มีข้อมูลส่งมาหลังไมค์ที่พรรคมากขึ้นกับความไม่ชอบมาพากลตรงนี้ ตอนนี้เก็บข้อมูลและตรวจสอบที่ได้ แต่หลักกฎหมายพร้อมสู้เมื่อเข้าสู่ กระบวนการจริงๆ แต่ กกต.ก็ยังไม่ติดต่ออะไรเข้ามา



ความพยายามก่อนโหวตเลือกนายก ตรงนั้นก็ไม่เป็นประเด็นอะไรในการโหวตเลือกนายก ได้ฟังคุณวิษณุให้สัมภาษณ์ ข้อเท็จจริงน่าจะคลาดเคลื่อน เพราะถึงคุณธนาธรถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ยังได้โหวตเลือกนายกอยู่ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ ม.151 ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่จะเข้าสู่กระบวนการในการโหวต ตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30



จะต่อสู้ในทุกรายละเอียด มีเรื่องหุ้นสื่อขึ้นมาทุกคนสามารถเทียบฎีกาย้อนหลังได้เวลาศาลตัดสินว่าด้วยบรรทัดฐานแบบไหน ตนยังมั่นใจในหลักฐาน และ หลักกฎหมาย ยิ่งเมื่อเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล มีความพิรุธในการสร้างหลักฐานขึ้นมาด้วย ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้ตนมั่นใจในการต่อสู้ทุกรูปแบบ




เป็นฉากทัศน์ที่คิดได้ว่ามีความพยายามสกัดกั้นตน แต่ยกตัวอย่างธนาธรไปแล้ว เพราะตนก็โหวตให้นายธนาธร เป็นนายกอยู่ดี มันไม่มีผลกระทบอยู่ดีระหว่างความเป็น ส.ส.กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี




แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ