น่าห่วง! 5 เดือนเเรกของปีนี้ ปชช.โดนยึดรถกว่า 9 หมื่นคัน

โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากนายสุพันธุ์ มงคลสุธี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทสไทย ปัจจุบันนั่งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย ได้แสดงความกังวลปัญหาหนี้สินและหนี้เสียของประชาชน โดยเฉพาะหนี้รถยนต์ โดยระบุว่า เพียง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีการยึดรถโดยบริษัทไฟแนนซ์แล้วกว่า 9 หมื่นคัน โดยปัญหาหนี้เสียที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงวิกฤติโควิดเป็นต้นมา แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือ เช่น การชะลอการยึดรถ แต่สิ่งที่ลูกหนี้หลายคนยังไม่ทราบคือ เมื่อพ้นช่วงการชะลอยึด ดอกเบี้ยและค่าปรับกลับสูงขึ้นมาก ทำให้แม้จะผ่านวิกฤติโควิดมาแล้ว ก็ยังไม่สามารถชำระได้ และถูกยึดรถในที่สุด เพราะดอกเบี้ยค่าปรับที่ตามมา และเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในครัวเรือน ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งจัดการ คือ เจรจากับไฟแนนซ์และบริษัทลีสซิ่งต่างๆ ให้ชะลอการยึดรถออกไป รวมถึงต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ โดยต้องลดดอกเบี้ยและค่าปรับลงมารวมถึง ขยายเวลาในการผ่อนชำระออกไป เพราะหากปล่อยให้เกิดหนี้เสียจำนวนมาก จะกระทบกับเศรษฐกิจทั้งระบบ


สอดคล้องกับนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร ที่แสดงความกังวลปัญหาหนี้เสียรถยนต์ ที่ส่งสัญญาญชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen X.และ Gen Y ที่ค้างชำระตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป จนเป็นบัญชีหนี้เสีย (ค้างเกิน 90วัน) รวม 2 เจนเนอเรชัน ร่วม 1ล้านบัญชี ในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่ง ถูกยึดรถ ฟ้องร้อง ดำเนินคดี และบังคับคดี ที่เหลืออีกประมาณ 500,000 สัญญา กำลังเลี้ยงงวด คือ ค้างค่างวด 1-2 งวด และกลับมาชำระ 1 งวด เพื่อเลี้ยงหนี้ไม่ให้เป็นหนี้เสียจนถูกยึดรถ เพราะถ้าพลาดค้างเกิน 90 วัน ก็จะกลายเป็นหนี้เสียทันที รายการติดตาม ยึดรถก็จะตามมา ซึ่งเครดิตบูโรกังวลในกลุ่มนี้ ถ้ายังไม่รีบไปปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ลดยอดผ่อนต่อเดือนลงมา ยืดหนี้ให้ยาวออกไป ก็มีโอกาสจะตกเป็นหนี้เสีย