รวบสาวแสบแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง เรียกเก็บเงิน 2 สาวที่มาเรียนขับรถ รายละ 2,500 บาท

รวบสาวแสบแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง เรียกเก็บเงิน 2 สาวที่มาเรียนขับรถ รายละ 2,500 บาท อ้างว่าเป็นค่าเรียนขับรถ และค่าทำใบขับขี่



วันนี้ (12 มิถุนายน 2566) เวลา 15.30 น. พ.ต.อ.สิทธิ์ศักดิ์ พรหมหมื่นไวย ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นางดารุณี ชูประทีป หัวหน้า สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา สาขาพิมาย ว่า ได้ควบคุมตัว นางสาวศุภรัตน์  อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่ง แล้วเรียกเก็บเงินกับประชาชนที่มาเรียนขับรถที่โรงเรียนพิมายสอนขับรถ

ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานขนส่งพิมาย ประมาณ 300 เมตร ทั้งที่ความเป็นจริงนางสาวศุภรัตน์ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งแต่อย่างใด โดยมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาว 2 คน ที่ถูกเรียกเก็บเงินคนละ 2,500 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าเรียนขับรถ และเป็นค่าใบอนุญาตขับขี่



โดยมีผู้เสียหาย คือ นางสาวภาวิณี อายุ 25 ปี ชาวอำเภอพิมาย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อ 3 วันก่อน ตน และเพื่อน คือ นางสาวสุรีรัตน์ อายุ 20 ปี ได้เดินทางมาเรียนขับรถที่โรงเรียนพิมายสอนขับรถ และได้พบกับนางสาวศุภรัตน์ ที่ได้เข้ามาแนะนำตัวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา สาขาพิมาย พร้อมกับอ้างว่า ช่วงนี้ทางโรงเรียนสอนขับรถมีโปรโมชันพิเศษ สามารถจ่ายค่าเรียนขับรถ พร้อมรับใบอนุญาตขับขี่ ในราคาพิเศษเพียงคนละ 2,500 บาทเท่านั้น ตน และเพื่อนจึงตกลงที่จะเรียนขับรถ พร้อมกับจ่ายเงินให้กับนางสาวศุภรัตน์ เป็นเงินคนละ 2,500 บาท และได้นัดให้มาสอบขับรถในวันนี้ (12 มิ.ย.)



แต่เมื่อถึงวันนัดวันนี้ นางสาวศุภรัตน์กลับบอกว่า คนมาไม่ครบ 10 คน จึงขอเลื่อนเป็นวันอื่น ระหว่างนั้นตนมองเห็นมีลูกค้าคนอื่นที่เรียนขับรถอยู่ ตนจึงเดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ และเล่าเรื่องการจ่ายเงินให้กับนางสาวศุภรัตน์ไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่านางสาวศุภรัตน์ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนสอนขับรถด้วย โดยไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดรู้จัก ตนจึงรู้ว่าโดนหลอก ตนจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ขนส่งตัวจริงควบคุมตัวนางสาวศุภรัตน์ไปที่ สภ.พิมาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนดำเนินคดีกับนางสาวศุภรัตน์



พ.ต.ท.ปัญญา ประตังเวสา สารวัตรสอบสวน สภ.พิมาย ได้มอบปากคำ น.ส.ศุภรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหา และหญิงสาวผู้เสียหายทั้ง 2 คน เบื้องต้นน.ส.ศุภรัตน์ ยอมรับผิดว่า ได้หลอกลวงผู้เสียหายทั้ง 2 รายจริง และได้ยอมคืนเงินให้กับผู้เสียหายรายละ 2,500 บาท ผู้เสียหายจึงยินยอมถอนแจ้งความ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายรูป และทำประวัติไว้ก่อนจะปล่อยตัวไป