"เรืองไกร" ยัน ไม่ได้ใช้รายงานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีประกอบคำร้องที่ยื่นต่อ กกต. ชี้ คลิปที่ออกมา แค่ "เด็ก ๆ"

"เรืองไกร" ยัน ไม่ได้ใช้รายงานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีประกอบคำร้องที่ยื่นต่อ กกต. ชี้ คลิปที่ออกมา แค่ "เด็ก ๆ" เป็นแค่ "กระพี้" แต่วัตถุประสงค์ไอทีวียังมีเรื่องการทำ "สื่อ" เหมือนเดิม ซึ่งต้องไปดูการประชุมย้อนหลังสัก 10 ปี


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้ร้องต่อ กกต.ให้ตรวจสอบกรณีการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกพาดพิง หลังจากมีการเปิดเผยคลิปการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเนื้อหาไม่ตรงกับบันทึกรายงานการประชุมที่ออกมาก่อนหน้านี้ ว่า คลิปที่ออกมาแค่เด็ก และไม่เกี่ยวกับคำร้องที่ตนยื่นต่อ กกต.



นายเรืองไกร กล่าวว่า ตนร้องไปแค่ 2 ประเด็น คือ ขอให้ กกต.ตรวจสอบว่านายพิธา ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและผู้ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯถือหุ้นไอทีวีหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) ที่ห้ามผู้สมัคร ส.ส.ถือหุ้นสื่อ



และ ขอให้ กกต.เรียกข้อมูลเพิ่มเติมมาตรวจสอบว่าไอทีวียังดำเนินกิจการสื่ออยู่หรือไม่ เพื่อประกอบการตรวจสอบว่านายพิธา มีลักษณะต้องห้ามในการสมัคร ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่


ย้ำว่า ในคำร้องของตนไม่ได้ใช้รายงานการประชุมผู้ถือหุ้นด้วย และบอกว่าผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องคลิปและบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นว่า ขอให้ไปอ่านบันทึกการประชุมย้อนหลังสัก 10 ปี จะเห็นได้ว่าบริษัทไอทีวียังมีเจตนาจะทำสื่อเหมือนเดิม "ตอนนี้ เห็นเปลือก เห็นกระพี้ นึกว่าเป็นแก่น"


ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลแถลงเหมือนกับว่าตน "สมรู้ร่วมคิด" กับการฟื้นไอทีวีเพื่อสกัดนายพิธา นั้น นายเรืองไกร ไม่บอกว่าตน สมรู้ร่วมคิดด้วยหรือไม่ แต่ท้าให้ไปฟ้อง ยืนยันว่าไม่กังวล และย้ำว่า ตนเป็นเพียงผู้ชี้ช่องให้ไปตรวจสอบเท่านั้น