เลือกตั้งและการเมือง

"ปธ.กกต." ยันนับคะแนนใหม่ไม่ส่งผลต่อการรับรอง ส.ส. ยังมีพิจารณานับใหม่เพิ่ม คาดสัปดาห์หน้าชัดวันรับรอง

โดย kanyapak_w

9 มิ.ย. 2566

88 views

"ปธ.กกต." ยันนับคะแนนใหม่ไม่ส่งผลต่อการรับรอง ส.ส. ยังมีพิจารณานับใหม่เพิ่ม คาดสัปดาห์หน้าชัดวันรับรอง ชี้ขณะนี้ยังไม่มีเหตุต้องแขวน"พิธา"การพิจารณาคำร้องต้องให้ความเป็นธรรม



ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงการนับคะแนนใหม่ทั้ง 47 หน่วยว่าเป็นมติของกกต.ที่ได้มีการประชุม โดยเห็นว่ามีบัตรกับคนมาใช้สิทธิ์ที่เท่ากัน แต่คะแนนไม่ตรงกัน อาจจะผิดพลาดในการขีดคะแนน จึงได้มีการให้นับคะแนนใหม่ และส่งกลับมาให้กกต.อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังมีบางหน่วยที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ อาจจะมีการนับคะแนนใหม่ได้เพิ่มเติม



ทั้งนี้ การนับคะแนนใหม่ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงว่าที่ ส.ส. เนื่องจากการนับเพียงแค่ 47 หน่วยเป็นการนับที่น้อยมาก หากเปรียบเทียบกับหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด กว่า 95,000 หน่วย



ส่วนถ้าไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ส.ส. กฎหมายให้อำนาจ กกต.ในการ วินิจฉัยว่าไม่ต้องนับคะแนนใหม่นั้น นายอิทธิพรกล่าวว่านี่เป็นอีกกรณีหนึ่ง ที่จะใช้เวลามีบัตรเขย่ง หรือที่เรียกว่าบัตรกับคนมาใช้สิทธิ์ไม่ตรงกัน ก็จะให้กกต.ใช้ดุลพินิจดูว่าคะแนนเขตนั้น ไม่มีผลต่อการเลือกตั้งก็อาจจะให้ยุติเรื่องได้ ซึ่งเป็นคนละกรณีกันที่สั่งนับใหม่ในตอนนี้



ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้ทยอยประกาศรับรอง ส.ส.นายอิทธิพร กล่าวว่าทำไม่ได้ ซึ่งตามกฎหมายการประกาศรับรองส.ส.ต้องรับรองทั้งหมดอย่างน้อยร้อยละ 95 ต้องรับรองเป็นก้อน ไม่สามารถทยอยประกาศเป็นรายบุคคลแบบการเลือกตั้งท้องถิ่นได้



สำหรับจำนวน ส.ส.ที่โดนร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งมีคนใดที่เข้าข่ายที่จะมีความผิดหรือไม่นั้น ตนก็ตอบไม่ได้ เพราะเป็นคำร้องที่ต้องดูว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ถ้าไม่รับต้องให้กกต.ตัดสินใจแต่ถ้ารับแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่ส่วนตามระเบียบ



โดยขณะนี้การตรวจสอบคำร้องมีความคืบหน้า จะเห็นได้จากในการสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งกระบวนการตรวจสอบเบื้องต้น กกต.ต้องให้รับฟังรายงานผู้ตรวจการเลือกตั้ง ข้อมูลข่าวสารจากแหล่งอื่นๆรวมถึงกระบวนการคำร้องด้วยถ้ากระบวนการเหล่านี้เสร็จก็สามารถประกาศผลได้เลย และกฎหมายกกต.จะต้องประกาศผลโดยเร็วแต่ไม่เกิน 60 วัน ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการที่ทำขณะนี้การประกาศผลรับรองส.ส.จะเร็วกว่าครั้งที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนใน วันประกาศรับรองส.ส.



ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต. จะสามารถพิจารณาคำร้องต่างๆได้อย่างรวดเร็วได้ตามกระแสเรียกร้องกดดันได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต. ก็พิจารณาไปตามปกติ เพราะเมื่อมีการร้องมาก็ต้องพิจารณา แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องรับ แล้วตัดสินเลย เพราะเรื่องนี้ต้องทำไปตามขั้นตอนในการพิจารณา ไม่เป็นตัวถ่วงให้การประกาศรับรองผลยืดออกไป



พร้อมกันนี้นายอิทธิพรกล่าวถึงกรณีความคืบหน้าคำร้องของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อ ว่าขณะนี้มีทั้งหมด 3 คำร้อง ซึ่งได้มีการเชิญผู้ร้องมาให้ถ้อยคำและยื่นหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สำนักงานกกต.เสนอให้กกต.พิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง หากเป็นคดีความปรากฏ ถ้าไม่รับเรื่องจะจบไป แต่ถ้ารับจะเข้ากระบวนการตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน แล้วค่อยเรียกผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำ



ส่วนคดีหุ้นจะทำให้นายพิธา ถูกแขวนจนไม่ได้รับรอง เป็นส.สในสัดส่วน 95% แรกหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังพูดอย่างนั้นไม่ได้ เรายังไม่ถึงจุดที่ว่ารับคำร้องของนายพิธาไว้พิจารณา ถ้ารับแล้วกระบวนการสืบสวนไต่สวนต้องใช้เวลา อยู่เหมือนกัน เพราะในกระบวนการยุติธรรมต้องให้ความเป็นธรรม ถ้ากระบวนการยุติธรรมต้องให้เวลายังไม่แล้วเสร็จ ก็ไม่มีประเด็นอะไรที่มาขวางการประกาศผล



เมื่อถามต่อว่า ข้อบังคับพรรคก้าวไกลมีการกำหนดคุณสมบัติของสมาชิก ต้องมีคุณสมบัติ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งหากพิธา ถูกชี้ว่าถือหุ้นสื่อ จะส่งผลต่อผู้สมัครส.ส.ที่นายพิธาเซ็นรับรองหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า อยู่ในกระบวนการพิจารณา ยังให้ความเห็นไม่ได้ ซึ่งต้องให้กกต.ทั้งคณะพิจารณา



ส่วนกรณีที่ผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 14 ล้านเสียงที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล กดดันให้มีการรับรองส.ส.จะส่งผลต่อการทำงานกกตหรือไม่ ประธาน กกต.กล่าวว่า กกตต้องทำงานตามกฎหมาย และรับทราบสิ่งที่ประชาชนส่วนหนึ่งมีความเห็นแต่เรามีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติไม่สามารถที่จะละเว้นการปฏิบัติงานได้ ยืนยันว่าจะมีการประกาศผลตามกรอบภายใน 60 วันและมั่นใจว่าจะเร็วกว่าครั้งที่ผ่านมา และไม่ได้กังวล หรือกดดัน เพราะเรามีหน้าที่ต้องทำงาน ทั้งสำนักงานกกต.และกกต.ทุกคนต้องทำงานกกต.รับทราบว่าความคิดเห็นของกลุ่มคนที่สนับสนุนใครเป็นยังไงถ้าไม่เช่นนั้นก็คงทำงานไม่ได้



ส่วนกรณีที่นายพิธาเตรียมจะ หรือองค์กรอิสระที่ ทำหน้าที่ไม่อิสระ และถูกครอบงำ นายอิทธิพร กล่าวว่าทุกคนมีสิทธิ์เสนอความเห็นและผลักดันให้เป็นไปตามนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับกกต. เพราะกกต.เป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น




แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ