เลือกตั้งและการเมือง

โฆษก ตร.แจงปมเลื่อนยศ ร.ต.อ.หญิง เป็นไปตามกฎ - โรม’ พร้อมชำแหละ ‘หลักสูตร กอส.’ มีตร.เป็น ‘นาตาชา’ ส่งข้อมูลให้

โดย weerawit_c

9 มิ.ย. 2566

183 views

วานนี้ (8 มิ.ย.66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ตามที่ปรากฎจากสื่อเกี่ยวกับการบรรจุและดำรงตำแหน่ง ร.ต.อ.หญิง นั้น


สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเรียนว่า หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมา เป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.) "เป็นหลักสูตรการฝึกอบรมสำหรับข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรซึ่งบรรจุจากบุคคลภายนอก เช่น  ทายาทตำรวจ ผู้มีวุฒิปริญญาสาขาต่างๆ ผู้มีวุฒิปริญญาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน  นายแพทย์ รพ.ตร. ตำรวจน้ำ ที่รับโอนมาจากทหารเรือ นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ เป็นหลักสูตรตามระเบียบ ตร."


กรณีของ ร.ต.อ.หญิง เป็นผู้มีวุฒิปริญญาซึ่งผ่านการคัดเลือกและได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ โดยมีเงื่อนไขเมื่อผ่านการอบรมฯ หลักสูตรตามที่ ตร. กำหนดแล้ว จึงจะได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้รับเงินเดือนตามคุณวุฒิ


ร.ต.อ.หญิง ดังกล่าว ได้ผ่านการรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิ ใช้วิธีการคัดเลือกตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกหรือการสอบแข่งขันฯ และตรวจสอบคุณวุฒิและคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ จนได้บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ


•ยศสิบตำรวจตรีหญิง ในปี พ.ศ. 2563 ในตำแหน่ง ผบ.หมู่ฯ  

•ต่อมาผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร กอส. ในปี พ.ศ.2564

•แต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ยศร้อยตำรวจตรีหญิง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.64

•มีคุณวุฒิที่ใช้บรรจุแต่งตั้งนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต (ป.โท) จากนั้นจะใช้ระยะเวลาครองยศ 8 เดือน

•ได้รับการเลื่อนยศเป็น ร.ต.ท.หญิง และครองยศ ร.ต.ท.หญิง อีก 1 ปี

•ได้รับการเลื่อนยศเป็น ร.ต.อ.หญิง รวมระยะเวลา 1 ปี 8 เดือน โดยการเลื่อนยศของ ร.ต.อ.หญิง ดังกล่าว เป็นไปตามตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งยศ พ.ศ.2554 ข้อ 8.2.8 ที่

•“กำหนดให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับยศสูงขึ้น ต้องครองยศตามจำนวนปีที่รับราชการ ยกเว้นผู้ที่บรรจุในคุณวุฒิ ปริญญาโท ให้รับราชการในชั้นยศร้อยตำรวจตรีหนึ่งปี ร้อยตำรวจโทหนึ่งปี”


โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความตั้งใจที่จะดูแลขวัญกำลังใจของกำลังพลในส่วนที่เป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีความตั้งใจ มีความรู้ความสามารถที่จะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร มีการเปิดสอบแข่งขันข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร


ล่าสุด เมื่อปลายเดือน พ.ค.66 มีการเปิดรับสมัครตำรวจชั้นประทวนเป็นสัญญาบัตร จำนวน 430 อัตราสำหรับตำแหน่งทั่วไป และ จำนวน 450 อัตรา สำหรับสายงานสอบสวน”


ขณะที่ด้านนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์การขึ้นตำแหน่งข้าราชการตำรวจที่ผ่านการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจสัญญาบัตร (หลักสูตร กอส.) ว่า ตอนนี้ผมทราบปัญหาเรื่องการใช้เส้นสายผ่านหลักสูตร กอส. ของ ตร. แล้วครับ กำลังตรวจสอบ และจะตรวจสอบย้อนหลังหลายๆปีด้วยครับ


จากนั้น นายรังสิมันต์ โพสต์เพิ่มเติมระบึว่า ทราบว่าหลักสูตร กอส. ที่ให้บุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจ จะมีที่มา คือ 1. เป็นทายาทของตำรวจที่เสียชีวิตในหน้าที่ 2. มีคุณวุฒิที่ขาดแคลน 3. เป็นนามสกุลดังที่ขาดแคลน


จากนั้น ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามนายรังสิมันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นกรณีดังกล่าวเป็นเครือข่ายที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ เจ้าของห้างร้าน เจ้าสัว หรือเครือข่ายสำคัญๆ ฝากลูกหลานเข้ามาอยู่รับราชการตำรวจ ให้สามารถเป็นตำรวจสัญญาบัตรได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบแล้วเป็นปัญหาจริง และอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่าระบบนี้ไปไกลถึงการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ หรือเป็นเฉพาะการใช้เส้นสาย ซึ่งตนเป็นกังวลว่าหากใช้เงินใช้ทองซื้อขายตำแหน่ง ดังนั้น ต้องใช้ข้อมูลหลักฐานและกฎหมายดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง


เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของตำรวจทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แน่นอน โดยเฉพาะความรู้สึกของนายตำรวจชั้นประทวนที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีมีจำนวนมากมาย แต่เขาไม่มีโอกาสแบบนี้ หลายคนต้องรอถึงอายุ 53 ปี ถึงจะได้ติดยศเป็นนายร้อย ซึ่งเป็นความเหลื่อมล้ำ เป็นความไม่เป็นธรรม และหลายครั้งที่มีการอ้างว่าการใช้หลักสูตรลักษณะนี้เพื่อรับบุคคลภายนอกที่มีวุฒิการศึกษาบางอย่างที่องค์กรตำรวจยังไม่มี จึงขอตั้งคำถามจริงๆ ว่า หากเราไปดูทั้งหมด เหนุผลนี้เป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าต้องมีการตรวจสอบ และต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าหลักสูตรแบบนี้เราควรเลิก ซึ่งตอนนี้หากเป็นช่องทางในการใช้เส้นสาย เราไม่สามารถปล่อยหลักสูตรแบบนี้ไว้ได้


เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้มีการประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในกรณีนี้แล้วหรือยัง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตอนนี้มีแต่นาตาชาทั้งหลาย เป็นคนในองค์กรตำรวจส่งข้อมูลมาให้ตน แต่ยังไม่มีการประสานอย่างเป็นทางการ เพราะอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล และหลังจากนี้หากมีความจำเป็นจะมีการประสานอีกครั้ง พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ทำได้เลย ไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองเป็น ส.ส. ก่อน จะดำเนินการในฐานะพลเมืองดีคนหนึ่ง ตอนนี้ใครมีข้อมูล ขอให้ช่วยส่งมาให้ตน ตนจะนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผล เพราะอยากให้เรื่องแบบนี้ มันจบที่รุ่นเรา


เมื่อถามว่าอยากเรียกร้องไปถึงผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่าบรรดาผู้ใหญ่ใน ตร. ควรกลับมาทบทวนเรื่องหลักสูตรพวกนี้ ซึ่งตนเข้าใจว่าที่ผ่านมาอาจมีการฝากอะไรกันมา แต่สุดท้ายคนที่อยู่ใน ตร. ต้องมีความกล้าหาญที่จะรับฟังและไม่เอาหลักสูตรแบบนี้อีกต่อไป สิ่งที่ตนอยากเห็นคือความเท่าเทียม ความเป็นธรรม


“การที่คนข้างนอกเข้ามาเป็นตำรวจแล้วได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งปู๊ดป๊าดแบบนี้ มันทำไม่ได้ เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ ดังนั้น ผมอยากเห็นแอ็คชั่นของคนที่มีอำนาจอยู่ใน ตร. ที่จะต้องจัดการเรื่องนี้ อย่างน้อยที่สุดควรออกมาให้ความมั่นใจว่าจะมีการตรวจสอบ ไม่ปล่อยให้มีการใช้เส้นสายเกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งการใช้เงินซื้อขายตำแหน่ง เพราะหากการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้นในวงการตำรวจได้ ประชาชนที่ไหนจะเชื่อมั่นว่าตำรวจสามารถปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในชุมชนได้” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า หวังว่าจะมีการเรียกความเชื่อมั่นให้กับวงการตำรวจได้ และกล่าวทิ้งท้ายถึงตำรวจที่มีความรู้สึกกับข่าวนี้ว่า “เปลี่ยนความแค้น เปลี่ยนความเจ็บปวด เป็นแรงในการค้นหาสิ่งที่มันผิดปกติทั้งหลาย แล้วส่งข้อมูลมาให้ผม ผมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขและอยู่เคียงข้างพี่น้องตำรวจทุกคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม” นายรังสิมันต์ กล่าว


จากนั้น นายรังสิมันต์  ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมที่พรรคก้าวไกล ระบุว่า  ว่าเดิมทีหลักสูตรนี้วางไว้สำหรับบางคนที่มีวุฒิการศึกษาที่เขาเล็งเห็นว่าจะช่วยให้องค์กรตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่เมื่อตรวจสอบแล้วจะเห็นว่าคนที่เข้ามาผ่านหลักสูตรดังกล่าวจะเป็นคนตระกูลดัง นามสกุลดัง และพ่อแม่อยู่ในแวดวงต่างๆ ซึ่งหมายถึงการใช้เส้นสาย ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของพรรคก้าวไกล ที่จะตรวจสอบรายชื่อในปี 2566


ขณะเดียวกันก็ต้องดูข้อมูลของปีก่อนหน้าด้วย ว่าหลักสูตรนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งหรือไม่ หรือสุดท้ายเป็นเรื่องของการใช้เส้นสายหรือเป็นเรื่องตั๋วชนิดหนึ่ง และต้องตรวจสอบว่ามีการจ่ายเงินหรือไม่ หรือมีการรับสิน ทุจริตคอร์รัปชันด้วยหรือไม่ หากเป็นเข้าข่ายก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้


พร้อมฝากถึงตำรวจที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ส่งข้อมูลให้ตนฝ่ายเฟซบุ๊กหรืออีเมล์ และยอมรับว่ากรณีการซื้อขายตั๋วใช้เงินสด อาจจะทำให้ตรวจสอบได้ยาก แต่ในความเป็นจริงหากมีหลักฐานอื่นที่สามารถใช้ได้ก็ยินดีรับและลุยตรวจสอบเต็มที่ พร้อมย้ำว่าหากต้องการให้ตำรวจเกิดความเสมอภาค เท่าเทียม ซึ่งตำรวจชั้นผู้น้อยก็จบปริญญาตรี และมีวุฒิการศึกษาหลายอย่าง ส่วนตัวเชื่อว่ามีคุณสมบัติไม่ได้ต่างจากคนที่ผ่านหลักสูตร กอส. แต่ตำรวจชั้นประทวนไม่เคยได้รับโอกาส แต่กลายเป็นว่าต้องรอโอกาสจนถึงอายุ 53 ปี ถึงจะได้ติดยศเป็นนายร้อย หากการรวบรวมหลักฐานสามารถเอาผิดกับการเรียกรับเงินได้ก็จะดำเนินการ


นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ยิ่งกว่าตั๋วช้าง ว่ากรณีนี้อาจเป็นอีกแบบหนึ่งของตั๋วช้าง แต่ตั๋วช้างมีจำนวนไม่เยอะ แต่เรื่องนี้คือตั๋วชนิดหนึ่ง และอ้างอิงว่าหลักสูตรนี้ที่เปิดรับคน ไม่ได้มีเพียงพ่อค้า แม่ค้า เจ้าสัว ที่เห็นหน้าตาในสังคม แต่บางทีอาจเป็นพวกเว็บพนันหรือเว็บผิดกฎหมายส่งคนของตัวเองมาเป็นตำรวจ และเป็นสายตำรวจ ซึ่งสุดท้ายก็จะทำให้ไม่สามารถปราบปรามอาชญากรรมได้ พร้อมย้ำว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในวงการตำรวจ


หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลสิ่งสำคัญคือการปฏิรูปตำรวจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งยอมรับว่าเรื่องนี้จะต้องใช้เวลา รับฟังความคิดเห็นอีกทั้งล่าสุดก็เพิ่งมีการแก้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติไป แต่พรรคก้าวไกลเห็นว่ายังมีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ส่วนในระยะสั้นก็จะต้องสร้างความโปร่งใส ให้เกิดความน่าเชื่อถือ และต้องตอบคำถามให้ได้เวลาที่มีการแต่งตั้งโยกย้าย ว่าใครควรได้ตำแหน่งหรือไม่ควรได้ ก่อนทิ้งท้ายว่าต่อไปนี้ในยุครัฐบาลก้าวไกล กำลังขาที่ตำรวจมีจะต้องใช้ในการจับโจร ไม่ใช่ใช้เพื่อวิ่งหานายอีกต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5i4hLqlhypE

คุณอาจสนใจ

Related News