เตรียมเด้งตำรวจทางหลวง 30-40 นาย ระดับชั้นประทวนและชั้นสัญญาบัตร เอี่ยวส่วยสติกเกอร์

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เรียกพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. และ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เข้าประชุมหารือ และติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีส่วยทางหลวง โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง


ภายหลังการประชุม พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีนโยบายชัดเจน ในการให้ปัดกวาดกองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งจากการประชุมเกี่ยวกับการจะดำเนินการกับข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วยทางหลวง


ตอนนี้คาดว่ามีจำนวนตำรวจทางหลวง ที่จะถูกเซ็นคำสั่งโยกย้ายได้ในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) ประมาณ 30-40 คน โดยจะให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยในจำนวน 30-40 คนนี้ เป็นนายตำรวจระดับชั้นประทวนและชั้นสัญญาบัตร ซึ่งพบพยานหลักฐาน, ถูกพาดพิงจากผู้ประกอบการ และจากการสืบสวนก็เชื่อได้ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีหลายรูปแบบ ทั้งที่ไปเกี่ยวข้องกับสติกเกอร์ และการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งขอรอสรุปความชัดเจนอีกครั้งก่อน


ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึงระดับผู้กำกับการ หรือรองผู้บังคับการ ส่วนอดีตผู้บังคับการตำรวจทางหลวง การตรวจสอบจะแยกส่วนกัน เป็นอีกกรณีหนึ่ง


พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยืนยันว่า การดำเนินการครั้งนี้ จะไม่มีการช่วยเหลือใครทั้งสิ้น และคณะทำงานได้ทำงานอยู่ตลอด ซึ่งก็อาจพบผู้ที่เข้าข่ายความผิดมากกว่านี้


ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้ายื่นเรื่องให้ตรวจสอบอดีตผู้บังคับการตำรวจทางหลวงว่าอาจส่อทุจริตเรื่องเบี้ยเลี้ยงนั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ บก.ปปป. ที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป


สำหรับประเด็นการจับกุมน้ำมันเถื่อนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้ กรมสรรพสามิตได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งก็ยืนยันว่าจะทำอย่างโปร่งใส ซึ่งตอนนี้เรื่องอำนาจหน้าที่ยังไม่ชัดเจน กำลังอยู่ระหว่างการประสานตำรวจทางหลวงและตำรวจภูธรให้ไปสอบถามเรื่องระเบียบและข้อกฎหมายในการดำเนินการตรวจสอบอยู่