เด็ก 3 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายเสียชีวิต ญาติคาใจตำรวจปล่อยตัวผู้ก่อเหตุ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งร้องขอความเป็นธรรมเพจโหนกระแส ระบุว่าเป็นญาติของเด็กชายวัย 3 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตหลังจากย้ายไปอยู่กับแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยง ได้เพียง 15 วัน และพ่อเลี้ยงก็ให้การรับสารภาพ แต่ตำรวจกลับปล่อยตัวออกไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภายในบ้านพักของพ่อเลี้ยง ที่อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งใบรายงานการชันสูตรพลิกศพ ระบุว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดส่งตัวมาจากโรงพยาบาลสามพราน ญาติแจ้งว่าตกเตียง ต่อมาพอมีการชันสูตรพลิกศพ พบว่ามีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก


ทีมข่าวเดินทางไปพบ พ่อแท้ๆของเด็กที่เสียชีวิต และเมียใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเลี้ยงดูเด็กมานานเป็นปี จึงมีความรักความผูกพันและอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเด็ก โดยผู้เป็นพ่อ เปิดเผยว่า ตัวเองได้เข้าไปฟังแพทย์ที่ทำการผ่าชันสูตรศพลูก บอกว่าตามร่างกายของลูกมีบาดแผลทั้งหมด 4 จุด ที่ศีรษะ 2 จุด และบริเวณแผ่นหลังกับหัวไหล่อีก 2 จุด ซึ่งแผลแต่ละจุด แพทย์ระบุว่าเกิดคนละช่วงเวลากัน ส่วนบาดแผลที่ทำให้ลูกถึงขั้นเสียชีวิตคือบริเวณศีรษะ ที่ถูกกระแทกอย่างรุนแรง จึงทำให้เชื่อว่าลูกน่าจะถูกทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิต หลังไปอยู่กับพ่อเลี้ยงได้ 15 วัน


ซึ่งต่อมา พ่อเลี้ยง ได้เข้ามอบตัวและสารภาพกับตำรวจว่า ตัวเองทำการอบรมสั่งสอนเด็ก เพราะเด็กดื้อ จึงเหวี่ยงเข้ากับกำแพงจนเด็กร่วงไปนอนชักดิ้นอยู่ข้างเตียง จากนั้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งปัญหาที่ตนกังวล คือตอนนี้ทางพ่อเลี้ยงได้รับการประกันตัว โดยตำรวจให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาเข้ามามอบตัวเอง จึงเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาจะได้รับการปล่อยตัว


ด้าน พันตำรวจเอกทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผู้กำกับการ สภ.สามพราน เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เด็กวัย 3 ขวบ ได้เกิดอาการชักเกร็ง ไม่รู้สึกตัว แม่ของเด็กจึงนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสามพราน ก่อนที่เด็กจะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครปฐม แล้วต่อมาแพทย์ได้แจ้งว่าเด็กเสียชีวิต เนื่องจากสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จนเลือดคลั่งในสมอง เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก


หลังจากนั้นแม่ของเด็ก ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ ระบุว่า ลูกชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุคือสามีใหม่ ที่เป็นพ่อเลี้ยง ทางพนักงานสอบสวน จึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อขอรายงานชันสูตรพลิกศพ เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด


วันต่อมา พ่อเลี้ยงของเด็ก เข้ามาแสดงตัวกับตำรวจ และรับทราบข้อกล่าวหา ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยินยอมให้ตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีแล้ว ตำรวจจึงได้พิจารณาปล่อยตัวไป เนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวเอง และไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี ซึ่งก็เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย


โดย ตำรวจ ยืนยันว่า คดีนี้ตำรวจดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิด ในส่วนของการสอบสวนคืบหน้าไปประมาณ 60 - 70 เปอร์เซ็นต์ เหลือสอบพยานเพิ่มเติมอีกไม่มาก ก็จะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ นอกจากนี้ยังมองว่า ในส่วนของแม่เด็ก ก็ไม่ได้ต้องการจะช่วยเหลือผู้ต้องหา เพราะเป็นคนเดินทางมาแจ้งความด้วยตัวเองตั้งแต่ที่ลูกเสียชีวิต


ขณะที่ทีมข่าวติดต่อไปยัง แม่แท้ๆของเด็ก ซึ่งเจ้าตัวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ต้องการให้ข้อมูลและไม่ต้องการให้เป็นข่าว เนื่องจากคดีนี้ได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว และเชื่อว่าตำรวจจะสามารถดำเนินคดีกับผัวใหม่ที่ก่อเหตุได้ และยืนยัน ไม่ปกป้องผู้ก่อเหตุแน่นอน หลังจากนี้จะไม่กลับไปคบกับผัวใหม่ พร้อมกับตำหนิทางฝั่งผัวเก่าและเมียใหม่ผัวเก่า ที่นำเรื่องดังกล่าวไปร้องกับสื่อฯ ทำให้เรื่องวุ่นวายและตัวเองได้รับความเสื่อมเสีย หลังจากนี้ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ นำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย