โซเชียลแชร์สนั่น แท็กซี่โก่งค่าโดยสารนทท.ชาวเกาหลี เหมาสูงถึง 700 บาท

แท็กซี่โกงค่าโดยสาร โซเชียลแชร์สนั่น นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีโดนแท็กซี่หัวร้อนด่าหน้าโรงแรม แถมข่มขู่เอาเงิน หลังขึ้นแท็กซี่คันนี้จากหน้าวัดพระแก้วให้มาส่งที่โรงแรมย่านเจริญกรุง แต่ไม่กดมิเตอร์และเรียกราคาเหมาสูงถึง 700 บาท

คนขับแท็กซี่คันนี้กระชากเงินจากมือนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี และด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพราะไม่พอใจที่นักท่องเที่ยวไม่จ่ายเงินค่ารถ 700 บาท แต่กลับจ่ายแค่ 300 บาท ขณะที่นักท่องเที่ยวพูดสวนไปว่านั่งมาแค่ 40 นาทีเอง



แต่ก่อนจะออกรถยังกลับมาคิดค่าน้ำดื่มอีก 2 ขวด ที่นักท่องเที่ยวดื่มไปด้วย ราคาขวดละ 40 บาท รวมเป็นเงิน 80 บาท แต่พนักงานได้บอกให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในโรงแรม ทำให้โชเฟอร์แท็กซี่ยิ่งไม่พอใจ สบถคำหยาบออกมาและพูดว่า "ค่าแท็กซี่จ่ายแค่ 300 บาท น้ำอีก 2 ขวด" พนักงานโรงแรมจึงบอกให้โชเฟอร์แท็กซี่ขับรถออกไป



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 4 โมงเย็นของวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ระบุว่า "แท็กซี่หรือโจรทั้งคำพูดคำจาด่าหยาบคาย การแต่งกาย นักท่องเที่ยวจะคิดยังไง ตำรวจดำเนินการข้อหาอะไรได้บ้าง ข่มขู่คุกคามหรือกระทำการใดๆ ให้นักท่องเที่ยวหวาดกลัว และขนส่งจัดให้หนักๆ หน่อย"



จากในคลิปจะเห็นว่าคนขับแท็กซี่ใส่เสื้อคลุมแบบมีฮู้ด ไม่ได้แต่งกายตามระเบียบของกฎหมาย ที่ระบุว่า คนขับรถรับจ้าง รถสาธารณะ ต้องใส่เสื้อเชิ๊ตคอตั้งหรือคอพับ แขนยาวหรือแขนสั้น การสวมเสื้อให้สอดชายล่างของเสื้ออยู่ในกางเกง และที่หน้าอกซ้ายต้องมีชื่อ นามสกุล ผู้ขับขี่เป็นภาษาไทยติดอยู่ที่อกเสื้อด้านซ้ายด้วย กางเกงขายาวไม่มีลวดลาย รองเท้าหุ้มส้นหรือหุ้มข้อ




ทีมข่าวช่อง 3 ได้ติดต่อไปยังพนักงานของโรงแรมที่เกิดเหตุ และเป็นผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์ เล่าว่า รถแท็กซี่คันดังกล่าวมาจอดที่หน้าโรงแรมสักพัก แต่ผู้โดยสารก็ยังไม่ลงจากรถ แล้วผู้โดยสารชาวต่างชาติก็เปิดกระจกมาสอบถามเขาว่า นั่งรถแท็กซี่คันนี้มาจากวัดพระแก้วมาถึงที่โรงแรม ในราคา 700 บาท แพงไปไหม เขาจึงบอกนักท่องเที่ยวว่าเป็นภาษาอังกฤษว่า ส่วนตัวคิดว่าราคา 700 บาทแพงไป และราคาที่ถูกต้องควรจะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวไปเจรจากับคนขับแท็กซี่ใหม่ เรื่องราคา ทำให้เกิดมีปากเสียงกัน




ทางคนขับแท็กซี่บอกกับพนักงานโรงแรมว่า เขาไม่ใช่แท็กซี่ที่วิ่งทั่วไป แต่เป็นแท็กซี่วิน ระหว่างนั้นนักท่องเที่ยวได้ลงจากรถ และให้แฟนสาวเป็นคนจ่ายเงิน แต่โชเฟอร์ได้ลงจากรถเดินตามมา แล้วก็เริ่มมีปากเสียงกันอีกครั้งที่นอกตัวรถ ซึ่งนักท่องเที่ยวยังคงยืนยัน ไม่จ่ายเงิน 700 บาท เพราะแพงเกินจริง สุดท้ายตกลงกันที่ 300 บาท แต่แท็กซี่ยังหาเรื่องไม่จบ จนเขาต้องช่วยกันแท็กซี่ออกไป




โดยเรื่องราวดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอนักท่องเที่ยวมีปากเสียงกับแท็กซี่ เพราะเรื่องไม่ยอมกดมิเตอร์ และเรียกราคาเหมาตามที่ต้องการ หนักสุดที่เจอ คือ จากโรงแรมไปเยาวราชระยะทางไม่เกิน 3 กิโลเมตร ค่ารถไม่น่าเกิน 70 บาท แต่ผู้โดยสารโดนไป 300 บาท เขาเจอแบบนี้บ่อยๆ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากวดขันจับกลุ่มแท็กซี่ที่หาโอกาสเอาเปรียบจากทางนักท่องเที่ยวแบบนี้




ด้านพันตำรวจเอก นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมี ผู้กำกับการ สน.พระราชวัง ระบุว่า ที่ผ่านมาพยายามแก้ไขและดูแลเรื่องแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร แต่เรื่องไม่กดมิเตอร์ยังไม่เคยมีคนมาร้องเรียน มีแค่รถตุ๊กตุ๊กที่เรียกค่าโดยสารในราคาที่สูงเกินจริง ส่วนเรื่องวินแท็กซี่ที่ถูกกล่าวอ้าง ยืนยันว่าไม่มี ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานความร่วมมือกับ สน.ชนะสงคราม จัดทำข้อมูลกลุ่มรถแท็กซี่และรถสามล้อเอาไว้แล้ว




หากผู้เสียหายต้องการเอาผิดรถบริการสาธารณะที่เรียกค่าโดยสารสูงเกินจริง สามารถมาแจ้งความได้ เพราะถือว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.รถยนต์ มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และถ้าคนขับแท็กซี่ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย เข้าข่ายความผิดฐาน "กรรโชกทรัพย์" มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ