เลือกตั้งและการเมือง

"ธนกร" ย้อน "พิธา" เอาเวลาไปชี้แจงปมถือหุ้นสื่อฯ หลังจ่อเช็กบิล "ประยุทธ์"

โดย kanyapak_w

7 มิ.ย. 2566

228 views

(7 มิ.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการตรวจสอบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. เกี่ยวกับการกระทำรัฐประหารและออกคำสั่งมาตรา 44 ว่า วันนี้ตนคิดว่านายพิธาก็เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี




ควรจะเตรียมตัวไปเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายค้านอยู่ ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลเพราะว่าวันนี้ต้องยอมรับว่า พลเอกประยุทธ์ก็มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ และที่ผ่านมาตนก็เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพลเอกประยุทธ์ก็พร้อมให้ตรวจสอบอยู่แล้วแต่ตนคิดว่า หน้าที่การตรวจสอบ รัฐบาลที่ผ่านมาก็มีองค์กรอิสระหลายองค์กรอยู่แล้ว ฉะนั้นหากต้องการตรวจสอบตนมองว่าต้องรู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ตนคิดว่าวันนี้ท่านเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี จะทำนโยบายให้สำเร็จได้อย่างไร เนื่องจากบ้างนโยบายก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์





อาทิ การปรับขึ้นค่าแรง 450 บาท พร้อมกับมองว่านายพิธาควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนที่พลเอกประยุทธ์เป็น ไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีของคุณ 15 ล้านเสียง ที่เรียกท่านมา แต่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน และอีกประเด็นจนบอกว่านายพิธาควรเตรียมการในการชี้แจง เรื่องกฎหมายหรือปัญหาหุ้นมากกว่า ไม่ใช่จะมาบอกว่าจะเช็กบิลรัฐบาล ซึ่งเรื่องหุ้นตนไม่ขอไปเข้าร่วม แต่ท่านก็ควรมีทีมที่จะชี้แจงเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีใครทำให้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นจากตัวของท่านเอง ซึ่งพวกของตนก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นตนจึงเชื่อว่ากระบวนการต่างๆ คงต้องเดินหน้าไป และเป็นเรื่องที่นายพิธาต้องเตรียมการมากกว่า ที่จะมาบอกว่าจะมานั่งไล่เช็กบิลพลเอกประยุทธ์ คนไทยเชื่อว่าประชาชนคนไทยทราบอยู่แล้วว่าพลเอกประยุทธ์ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศมากว่า 7-8 ปี ฉะนั้นถ้าหากอยากจะตรวจสอบก็ดำเนินการไป ซึ่งตนก็พร้อมที่จะช่วยพลเอกประยุทธ์ชี้แจงอยู่แล้ว





ส่วนพลเอกประยุทธ์ หวั่นไหวในกรณีที่จะถูกตรวจสอบหรือไม่ นายธนกร ระบุว่า ตนคิดว่าพลเอกประยุทธ์เป็นคนดี ความดีก็จะคุ้มครอง แต่เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้กังวลหรือรู้สึกอะไร และวานนี้หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ ก็ยังมีท่าทีที่ยิ้มแย้มและหัวเราะ ไม่ได้มีความกังวลแต่อยากได้ ซึ่งพวกเราก็ให้กำลังใจพระก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็ต้องปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลดำเนินการกันไป พร้อมยืนยันว่าตนก็ไม่ได้อยากจะออกมาชี้แจงตอบโต้อะไร แต่เป็นเรื่องที่มันจะต้องชี้แจง





เมื่อถามว่าการขุดเรื่องเก่าขึ้นมาจะถือเป็นการบ่มเพาะความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องคิด ตนจึงบอกว่าคนที่จะเป็นรัฐบาล ไม่ได้เป็นฝ่ายค้านแล้ว การตรวจสอบมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน และขณะเดียวกันการบริหารจัดการองค์กรอิสระก็เป็นผู้ตรวจสอบอยู่แล้ว รวมถึงขณะนี้เองก็มีภาคประชาชนได้มีการยื่นร้องเรียนไปยังหน่วยงานอิสระอยู่แล้ว ซึ่งคุณเอกประยุทธ์เองก็พร้อมที่จะไปชี้แจงทางหน่วยงานต่างๆ เช่นกัน พร้อมกับมองว่าไม่ใช่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ในการตรวจสอบ ยกเว้นแต่เป็นเรื่องของการบริหารบางอย่างที่ต้องแก้ไข ซึ่งท่านอาจจะมองว่าไม่ดี อาจไม่ทำต่อหรืออะไรก็ได้ พร้อมกับมองว่าควรเป็นเช่นนั้นมากกว่า





เมื่อถามว่าขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะยื่นร้องว่าที่ส.ส.พรรคอื่นต่อกกต.หรือไม่ นายธนกร ระบุว่า น้อย ไม่ค่อยมี เพราะจากที่ดูบางพื้นที่มีคะแนนที่ห่างค่อนข้างมากจึงไม่ได้ร้องอะไร แต่ ว่าที่ส.ส.ของพรรค 36 คนนั้นก็มีการพูดคุยกันตลอด โดยเฉพาะเลขาธิการพรรคนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พวกเราเองก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล





เมื่อถามต่อว่าในคำร้อง เรียนดังกล่าวจะนำไปสู่การถอดถอน การให้ใบเหลืองหรือใบแดงของกกต.ได้หรือไม่ นายธนกร ระบุว่า ก็ไม่แน่เหมือนกัน ซึ่งตนคิดว่าพรรคที่โดนร้องเรียนน่าจะเป็นพรรคอื่นมากกว่า เนื่องจากการยื่นร้องเรียนของพรรครวมไทยสร้างชาติมีไม่มาก พร้อมยืนยันว่าแต่หากมีการเลือกตั้งซ่อมพรรครวมไทยสร้างชาติเองก็พร้อม





พร้อมกันนี้นายธนกร ยังกล่าวถึงกรณี ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ระบุว่า ตุลาการภิวัฒน์และนิติสงครามอาจทำให้ เป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของศาล ว่า การสร้างวาทกรรมเป็นเรื่องที่นายปิยบุตรเก่งทำให้ดูน่าสนใจ ตนเชื่อว่าพี่น้องคนไทยยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาลอยู่ ตอนนี้เราอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่ว่าเมื่อศาลตัดสินถูกใจก็ว่าศาลดี หรือเมื่อศาลตัดสินตรงข้ามก็บอกว่าศาลไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเห็นว่ามีมาทุกยุคทุกสมัย





ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่าไม่มีตุลาการภิวัฒน์ เพราะมองว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลเมื่อผิดก็โดนลงโทษเหมือนกันหมดเหมือนที่ผ่านมาเหมือนที่ผ่านมา ยืนยันว่าไม่มีการใช้องค์กรในการกลั่นแกล้งใคร รัฐบาลนี้ไม่สามารถแทรกแซงองค์กรอิสระได้เหมือนกับรัฐบาลในอดีต องค์กรศาลยังเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนอยู่เราก็ต้องยอมรับ





ทั้งนี้นายธนกรมองว่าไม่สามารถอ้าง 15 ล้านเสียงที่โหวตเลือกพรรคก้าวไกลมากดดันให้ละเว้นการใช้กฎหมายได้ วันนี้ต้องมองประชาชนกว่า 70 ล้านคน ไม่ใช่มองแค่ 15 ล้านเสียง ซึ่งภายหลังจากทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ก็สามารถดำเนินการตั้งรัฐบาลไป ไม่จำเป็นต้องมาสร้างปัญหาให้กับประเทศ การเคลื่อนไหวชุมนุม การข่มขู่จะลงถนน เพื่อให้ได้ดั่งใจ ตนมองว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีความสุขในประเทศที่สงบ อยากก้าวไปสู่จุดนั้นเลยขอให้ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม เพราะคนไทยต้องยอมรับกระบวนการที่ทำของศาล





ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรียังคงยืนยันว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม ซึ่ง อยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาได้มีการกำชับเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่าไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ แล้วตนไม่ขอกล่าวล่วงในกรณีนี้เพราะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และนายทักษิณยืนยันจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ท่านก็กลับมาได้ไม่มีปัญหาอะไร





แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ